ภาพที่ยังคงตามหลอกหลอนคนไทย โดยเฉพาะคนกรุงเทพฯ จำนวนไม่น้อย คือภาพน้ำท่วมสนามบินดอนเมือง ระดับน้ำท่วมสูงจนเกือบแตะท้องเครื่องบินที่จอดอยู่ในลานจอด หลายคนตกใจแทบสิ้นสติเมื่อเห็นภาพน้ำท่วมสูงมากที่สนามบินดอนเมือง ผู้เฒ่าผู้แก่ถามคนรุ่นลูกรุ่นหลานว่าถ้าดอนเมืองซึ่งเป็นพื้นที่สูงมากแล้วของกรุงเทพฯ ถูกน้ำท่วมสูงขนาดนี้แล้ว แล้วพื้นที่ลุ่มต่ำ เช่น หนองงูเห่าในเขตสมุทรปราการ รวมถึงพื้นที่ลุ่มต่ำในกรุงเทพฯ เช่น ย่านรามคำแหง คลองจั่น มิมีหวังน้ำท่วมมิดหลังคาบ้านหรือ
แต่ผลปรากฏว่าพื้นที่ลุ่มต่ำในกรุงเทพฯ กลับรอดพ้นจากการถูกน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2554 (ย้ำว่าเหตุการณ์ประหลาดเชิงอุบาทว์ที่ว่านี้เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้หญิงคนแรกของไทย ชื่อยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) ผลของน้ำท่วมใหญ่ในเขตภาคกลางเมื่อปี 2554 ยังคงมีหลักฐานปรากฏชัดจนถึงทุกวันนี้ เพราะหลายพื้นที่ยังมีคราบระดับน้ำท่วมที่ท่วมขังเป็นสัปดาห์ทิ้งร่องรอยไว้ชัดเจน หลายบ้านยังไม่รื้อกำแพงคอนกรีตที่สร้างขึ้นมาเพื่อกันน้ำเข้าบ้าน แต่สุดท้ายกลายเป็นกำแพงกันน้ำออกจากบ้าน เพราะน้ำเข้าไปท่วมจนเต็มพื้นที่ชั้นล่างของบ้าน สาเหตุที่น้ำท่วมที่ดอนแต่ไม่ท่วมที่ลุ่มในกรุงเทพฯ เป็นเพราะฝีมือแก้ปัญหาที่สุดต่ำทรามของรัฐบาลในยุคนั้น
มาระยะนี้ ก็มีกระแสข่าวเตือนเป็นระยะๆ ว่าอาจจะเกิดปัญหาน้ำท่วมใหญ่ไม่ต่างไปจากปี 2554 อีก ข่าวนี้มาจากปากคำของนักวิชาการที่อ้างว่าศึกษาเรื่องปรากฏการณ์ลานีญากลุ่มหนึ่ง และในระยะนี้เช่นกันที่จะปรากฏข่าวจากสื่อมวลชนกระแสหลักหลายสำนักที่รายงานข่าวทำนองเตือนให้ระวังเหตุน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมเขตชุมชนต่างๆ นักวิชาการที่อ้างว่าศึกษาเรื่องน้ำบางรายให้ข่าวว่าจะเกิดเหตุฝนตกหนักที่สุดในรอบ 1 พันปีด้วย
อย่างไรก็ตาม คงไม่มีใครตำหนิหรือต่อว่าต่อขานนักวิชาการที่อ้างและเตือนเรื่องน้ำท่วม เพราะอย่างน้อยก็เป็นคำเตือน ส่วนจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ก็ต้องรอดูกันต่อไป แต่เท่าที่ทราบนั้น มีประชาชนในกรุงเทพฯ จำนวนไม่น้อยต่างตื่นเต้นตื่นตูมกับข่าวนี้ บางรายบอกว่าขนย้ายข้าวของต่างๆ ที่อยู่ชั้นล่างของบ้านขึ้นไปบนชั้นสองแล้ว เพราะกลัวว่าเมื่อถึงเวลาเกิดเหตุน้ำท่วมใหญ่ขึ้นมาจริงๆ จะไม่มีเวลาขนย้ายข้าวของ ส่วนคนที่มีบ้านเพียงชั้นเดียวก็บอกว่า ไม่รู้จะย้ายของไปไว้ที่ไหน แต่หากน้ำจะท่วมขึ้นมาจริงๆ ก็คงต้องปล่อยให้ท่วม เพราะไม่มีปัญญาขนของไปไว้บนหลังคา ส่วนบ้านไหนที่มีรถยนต์หลายคันก็เกิดอาการขวัญผวาขึ้นมาบ้าง เพราะยังจำภาพน้ำที่ท่วมสูงภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงเ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อปี 2554 ได้อย่างติดตา และยิ่งติดตาจนวันตาย เมื่อเห็นน้ำไหลเข้าท่วมรถยนต์จนมิดหลังคารถภายในในเวลาเพียงไม่เกิน 2 ชั่วโมง หมู่บ้านหลายร้อยแห่งกลายเป็นทะเลสาบในพริบตา ความวิบัติบรรลัยเกิดขึ้นภายในเวลาชั่วลัดนิ้วมือ
คำถามยอดนิยมคือ ปีนี้กรุงเทพฯ และเมืองอื่นๆที่เคยถูกน้ำท่วมสูงเมื่อปี 2554 จะเกิดปัญหาซ้ำเดิมอีกหรือไม่ รัฐบาลชุดนี้ใช้คำพูดพล่ามไปเรื่อยๆ แต่ไม่สามารถตอบปัญหาได้จริง เหมือนที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์เคยพล่ามว่า “เอาอยู่” อีกหรือไม่
แต่เท่าที่คนกรุงเทพฯ เห็นข้อเท็จจริงก็คือทุกวันนี้หลายพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯ ก็ยังคงไม่มีการขุดลอกท่อระบายน้ำอย่างเป็นกิจจะลักษณะ คลองต่างๆ ในกรุงเทพฯ ก็ยังไม่ได้รับการขุดลอกทำความสะอาดอย่างจริงจัง ไม่ต้องดูอะไรมากเลย ดูแค่เพียงเมื่อฝนตกหนักในเขตกรุงเทพฯ เพียงสักครึ่งชั่วโมงก็เกิดน้ำท่วมขังแล้ว ดังนั้นหากมีฝนพันปีในกรุงเทพฯ แล้วมีน้ำเหนือไหลบ่าลงมามากๆ แล้วเกิดปัญหาน้ำทะเลหนุนสูง มีหรือที่กรุงเทพฯ รอดจากน้ำท่วม งานนี้บอกได้สั้นๆ ตรงประเด็นว่า ต้องช่วยตัวเองเท่านั้น เพราะหวังพึ่งรัฐบาลและผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ ไม่ได้เป็นอันขาด
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี