“หนังสือพิมพ์แนวหน้า www.naewna.com สื่ออุดมการณ์มั่นคง ตรงไปตรงมา” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม” ขันอาสา “ย่อโลกทัศน์ที่กว้างให้แคบ และขยายโลกทัศน์ที่แคบให้กว้าง" ผ่าน “บุคคลแนวหน้า” โดยเริ่มต้นด้วยความร่วมมือร่วมใจสามัคคีของ “ทีมไทยแลนด์” ที่ส่งผลให้เห็นเด่นชัดเมื่อตัวเลขผู้ติดเชื้อ “โควิด-19” รายใหม่และจำนวนผู้เสียชีวิตรายวันลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องไม่ลืมชื่นชมและส่งกำลังใจให้ “บุคลากรทางการแพทย์,พยาบาล, คุณหมอ” ที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจเป็นนักรบคุ้มครองป้องภัยให้ทุกอณูในสังคมไทย จนวิกฤตลดทอนลงเยี่ยงนี้...
nn “โบ-ณัฏฐา มหัทธานักเคลื่อนไหวทางการเมือง” ทวิตข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว “Bow Nuttaa Mahattana @NuttaaBow” แสดงความเห็นการใช้มาตรการ “Covid Free Setting ” ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ อาจจะเกิดประโยชน์แค่สถานการณ์ปัจจุบันเท่านั้น แต่จะเป็นภาระกับประชาชนและผู้ประกอบการในระยะยาว ฉะนั้น เมื่ออัตราการฉีดวัคซีนครบตามเป้าหมาย
แล้ว ... สมควรยกเลิก ... เพื่อให้ผู้ประกอบการและประชาชน ต้องย้ำว่าการติดเชื้อในคนที่มีภูมิคุ้มกันแล้วไม่ถือว่าอยู่ในระดับที่เป็นปัญหากับระบบสาธารณสุข...
nn น่าอิจฉาบ้านพี่เมืองน้อง “สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว” ยิ่งนัก ที่วันนี้ประชาชนคนลาวจะได้มีโอกาสใช้บริการ “โครงการรถไฟความเร็วสูงลาว-จีน” ระยะทางกว่า 257 กิโลเมตร มูลค่าเกือบ 6,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยคาดว่าจะเปิดปฐมฤกษ์เดินรถได้ในวันสถาปนาสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว 2 ธันวาคมนี้ยังประโยชน์ทั้งการเดินทางของประชาชนทั้งการขนส่งสินค้าเป็นยิ่งนัก...
nn เพื่อนบ้านก้าวหน้าสู่ความเจริญ สังคมไทยยังไม่กระโดดไปไหน เพราะนักการเมืองไทยงมงายอยู่กับผลประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้องกับมุ่งแสวงหาอำนาจทางการเมืองจนลืมความเจริญของชาติและความกินดีอยู่ดีของพี่น้องประชาชน...
nn ทุกข์ยากของประชาชนคนไทยอย่างที่ “ไม้หน้าสาม”บอกไปวันก่อน ความวัวโควิด-19 ยังไม่ทันหาย ความควายวิกฤตพิบัติภัยน้ำท่วมก็เข้ามาซ้ำเติม “ลุงตู่-พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีของคนไทยทั้งประเทศเดินสายตรวจสอบให้กำลังใจพี่น้องประชาชนในทุกพื้นที่ทั้งเหนือ, อีสาน, กลาง อย่างมิได้ขาด แม้จะไม่ใช่ทุกตำบลทุกหมู่บ้าน แต่ศรัทธาและความเชื่อมั่นของพี่น้องประชาชนมีให้ “ลุงตู่-พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” อย่างมิขาดสายทีเดียว...
nn ไม่ได้กล่าวถึงเสียนานลืมกันหรือยังไม่ทราบได้ เข้าใจว่า “ไม่สำเหนียก” ท้าทายการตรวจสอบจริยธรรมผู้บริหารระดับสูง กรณี “การบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม” ที่มีความไม่โปร่งใส “ไม้หน้าสาม” รอคำชี้แจงอย่างตั้งอกตั้งใจ ... ใจจดใจจ่อ แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีเสียงชี้แจงทั้งในเรื่องที่เรียกขานว่า “หลักการ กรอ.” เหมือนประสบอาการ “ผะอืดผะอมกลืนเข้าไปแล้วจะล้วงออกก็เสียดายเยี่ยงนั้น” ... โดยเฉพาะกองกากฯ อนุมัติให้ผู้ประกอบการกำจัดกากฯไปแล้ว แต่ทุกครั้งที่มีการรับกากฯจากโรงงานต่างๆ มากำจัด จะต้องผ่านความเห็นชอบจากสำนักกากฯ ซึ่งกระบวนการนี้ผู้ประกอบการร้องเรียนมาเป็นจำนวนมากว่าเกิด “สุญญากาศ” ในการเรียกรับผลประโยชน์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และอธิบดีฯ ไม่สำเหนียก ... ไม่ทราบระแคะระคายเรื่องนี้จริงหรือไม่มีน้ำยาที่จะแก้ไข นั่งนับวันรอคอยวันเกษียณอายุราชการ ความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการจึงตกอยู่ใน “วังวนวงจรอุบาทว์” โรงงานที่มีปัญหาบริหารจัดการกากฯไม่ได้มาตรฐานตามกฎหมายกำหนด-บุกรุกที่ดินหน่วยงานรัฐ ลักลอบทิ้งขยะพิษในชุมชนหลายแห่ง ยังคงได้รับการจ้างงานกับภาครัฐได้อย่างไม่กระดาก ตราบเท่าที่เรื่อง “ดุลพินิจ-สมประโยชน์” ยังเวียนวนคล้าย “แมลงวันตอมอุจจาระ”ไม่หวั่นเกรงว่าโรงงานแห่งนั้นจะสร้างปัญหาให้กับชุมชน ภายในระยะเวลาไม่กี่เดือนเกิดเหตุเพลิงไหม้ปล่อยมลพิษปกคลุมชุมชนจากนี้ “ไม้หน้าสาม” จักทำหน้าที่พลเมืองที่ดีของประเทศเอาเอกสารทั้งหมดที่ได้รับการร้องเรียนนี้ส่งให้ “คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการประพฤติมิิชอบในวงราชการ ป.ป.ช.” ตรวจสอบ จบเรื่องพรรค์นี้ไม่ต้องมาข่มขู่ฟ้องร้องหมิ่นประมาทสื่อให้วุ่นวาย...
nn น่าจับตาดูโครงสร้างใหม่ของสำนักกากฯ ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ จะเป็นการกระจายอำนาจจริงหรืออาการสับขาหลอก หรือช้ำกว่านั้นเกิดอาการแหกตาประชาชน เพราะสุดท้ายอำนาจการตัดสินใจจะให้ผู้ประกอบการรายใดรับกากฯไปกำจัดก็ขึ้นอยู่กับ “ผอ.กากฯ” นามว่า “พฤกษ์ ศิโรรัตนเศรษฐ์” ที่ทำหน้าที่ขยันขันแข็งลงพื้นที่ตรวจสอบผู้ประกอบการเห็นแก่ตัวนำขยะพิษมาทิ้งในพื้นที่สาธารณะ เช่น พื้นที่หนองพะวา จ.ระยอง โดยเบื้องแรกการตรวจสอบระบุว่า เป็นการลักลอบทิ้งกากขยะพิษ แต่ไปๆ มาๆ กลับกลายเป็นว่า “เป็นการจัดเก็บวัตถุอันตรายผิดที่ผิดทาง”...
nn ส่วนโรงงานเจ้าปัญหาเพลิงไหม้เดือนเว้นเดือนปล่อยสารพิษพวยพุ่งทำร้ายคนในชุมชนเย้ยฟ้าท้าดินไม่ยำเกรงต่อตัวบทกฎหมาย ก็เห็นจะแสงสว่างเดียว ซึ่งรับกากอุตสาหกรรมจากโรงงานต่างๆ มาผลิตปูนขาว ...ซึ่งก่อนรับซื้อจะส่งรายละเอียดให้กรอ.พิจารณา เมื่อดุลพินิจจนท.ลงตัวแล้ว จึงได้รับการอนุญาตให้รับซื้อเพื่อกำจัดต่อไป จุดนี้จะเชื่อมโยงอย่างไรก็ต้องติดตามกัน ... ใจกล้า...หน้าด้าน...เหยียบจมูกกรมควบคุมมลพิษ!!! ทำหนังสือเวียนถึงผู้ประกอบการที่นำกากฯไปให้โรงงานเอกแห่งนี้กำจัด มีเนื้อหาสาระให้ผู้ประกอบการส่งข้อมูลการจัดส่งขยะให้โรงงานดังกล่าวรายงานรายละเอียดต่อกรมควบคุมมลพิษนับแต่ปี 2558 จนถึงปัจจุบัน เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการไตร่สวนเอาผิดโรงงานแห่งนี้ ซึ่งคพ.กำลังส่งฟ้องดำเนินคดีหลายคดีด้วยกัน ลงชื่อ “เถลิงศักดิ์ เพ็ชรสุวรรณรองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ” แต่จากการตรวจสอบพบว่าเป็นหนังสือปลอม รองฯเถลิงศักดิ์ไม่รู้เรื่องด้วยถึงกับเต้นผางตั้งโต๊ะแถลงข่าวประกาศกร้าวจะดำเนินคดีเอาผิดผู้ทำหนังสือปลอมให้ถึงที่สุด เรื่องนี้สืบไม่ยาก เขาเล่าว่าฝีมือ “คนคุ้นเคยกันทั้งนั้น” สำคัญจะเป็น “มวยล้มต้มคนดู” หรือไม่!?! เท่านั้น เพราะอาจมีการสร้างสตอรี่หวังผลทางคดีก็เป็นได้ “อรรถพล เจริญชันษา อธิบดีคพ.”คงไม่ปล่อยเรื่องนี้เป็นคลื่นกระทบฝั่ง “ไม้หน้าสาม” ยินดีจะเกาะติดจุดจบเกมนี้...
nn ส่วนการฟื้นฟู “เหมืองคลิตี้”จังหวัดกาญจนบุรี ที่มีการสับขาหลอกนำกะเหรี่ยงออกมาสร้างภาพว่า บริษัทเอกชนขาใหญ่ที่เข้าไปรับงบหลายร้อยล้านบาท เพื่อกำจัดมลพิษ หากสาวเจาะลึกลงไปก็คงจะเห็นถึงความฟอนเฟะเกินบรรยาย เพราะออร์แกไนเซอร์สร้างภาพผ่านสื่อด้วยการจับกะเหรี่ยงหน้าเดิมๆ มาแต่งตัวอวยบริษัทที่ฟื้นฟูเหมืองคลิตี้นั้น แท้จริงคือการจัดฉากสร้างภาพ ไม่ได้ฟื้นฟูกำจัดขยะพิษ เพื่อทำให้ระบบนิเวศ ทำให้ชาวบ้านใช้วิถีชีวิตได้ตามปกติเช่นวันเก่าก่อนเลย หากแต่เป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ช้าก่อนอย่าเพิ่งเชื่อ “ไม้หน้าสาม” หากแต่ท่านอธิบดีต้องลงพื้นที่เรียกสัญญาที่ทำไว้กับเอกชนรายนั้นมาดู และสำรวจตรวจให้ถี่ถ้วนว่ามีการ “หมกเม็ดตบตาอย่างไร” แล้วท่านอธิบดีจะรู้ว่า “เงินภาษีประชาชนถูกเผาผลาญไปอย่างน่าเศร้าสลดหดหู่ใจเพียงใด” เรื่องอย่างนี้ “จริงๆ เท็จๆ”มันก็ล้วนแต่คนกันเองทั้งนั้นนี่นา หรือจะต้องให้ข้าราชการน้ำดีเออร์ลี่ เพราะไม่อาจรับกลเกมฉ้อฉลได้ คนในคพ.รู้ดี หวังใจว่า คนรุ่นใหม่อย่าง “อรรถพล เจริญชันษา” ที่มีเลือดป่าไม้สูบฉีดอยู่ทุกขุมขนจะไม่ยอมศิโรราบต่ออำนาจอันมิชอบด้วยกฎหมายนั่นเอง...nn
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี