คนหรือมนุษย์ก็คือสัตว์โลกชนิดหนึ่ง แต่คนหรือมนุษย์มักอ้างว่าตนเองดีกว่า ประเสริฐกว่าฉลาดกว่า สูงส่งกว่าสัตว์เดรัจฉานชนิดอื่นๆที่อยู่ร่วมโลกด้วยกัน แต่ก็เป็นเรื่องน่าประหลาดที่คนบางชนิดที่ชอบอ้างว่าตนดีกว่า สูงกว่าสัตว์เดรัจฉาน แต่กลับแสดงพฤติกรรมและสัญชาตญาณไม่ต่างไปจากสัตว์เดรัจฉาน ซึ่งสาธารณชนสามารถรับรู้ และเห็นได้เป็นประจำในการชุมนุมประท้วงทางการเมือง
หลายคนตั้งคำถามว่า ทำไมจึงต้องมีใครบางคนจงใจแก้ผ้าในการประท้วงทางการเมืองการแก้ผ้าช่วยให้การประท้วงประสบความสำเร็จได้หรือ หรือว่าการแก้ผ้า การเปิดก้นการเปิดหน้าอก การเปลือยกาย การจงใจถ่ายปัสสาวะโชว์ต่อหน้าธารกำนัลในสถานที่ราชการต่างๆ ถือเป็นอาวุธชนิดหนึ่งที่ใช้สำหรับการต่อสู้ทางการเมือง เช่นนั้นหรือ
เรื่องน่าบัดสีเช่นนี้เกิดขึ้นค่อนข้างบ่อยมากในการประท้วงทางการเมืองโดยคนกลุ่มหนึ่งในระยะนี้แล้วคนที่แสดงพฤติกรรมบัดสีก็คือคนหน้าเดิมๆแต่ที่พูดเช่นนี้ไม่ได้มีเจตนาจะให้ผู้ประท้วงรายอื่นร่วมกันแก้ผ้าประท้วง แต่เพียงตั้งข้อสังเกตว่าคนประท้วงด้วยการแก้ผ้าคนหน้าเดิม ซึ่งถูกตั้งคำถามว่า ทำไมต้องแก้ผ้าประท้วง ต้องการโชว์เรือนร่างของตนเองหรืออย่างไร หรือจะบอกกับสาธารณชนอย่างไรกับเหตุผลในการแก้ผ้าประท้วง
เรื่องเรือนร่างของมนุษย์เป็นเรื่องส่วนตัวเป็นสิ่งที่แต่ละคนจำเป็นต้องสงวนรักษาร่างกายและเรือนร่างของตนไว้ ไม่มีความจำเป็นอันใดที่ต้องเปิดเผย เปลือยกายเพื่อโชว์เรือนร่างของตนเองต่อสาธารณชน ยกเว้นจะโชว์หรือแสดงโดยมีเจตนาเพื่อสร้างสรรค์งานศิลป์เท่านั้น
การที่คนคนหนึ่งชอบแก้ผ้าประท้วง ชอบปัสสาวะโชว์ธารกำนัลในการประท้วง น่าจะเข้าข่ายมีอาการทางจิตหรือไม่ เรื่องนี้น่าจะต้องศึกษาต่อไปแต่บอกตรงๆ และชัดๆ ว่ามนุษย์ปกติที่มีสติปัญญาครบถ้วน มีความละอาย มีความยั้งคิด เขาไม่มีวันแก้ผ้าต่อหน้าธารกำนัลโดยไม่มีเหตุอันควร ยกเว้นพวกที่ทำอาชีพโชว์เรือนร่าง หรือพวกอยู่ในที่รโหฐานเป็นเฉพาะของตน หรืออยู่กับคนที่ตนเองมีความพึงใจอยากจะโชว์เรือนร่างให้ชม จะด้วยวัตถุประสงค์ใดก็ตาม เช่น เพื่อการค้า หรือในขณะมีกามารมณ์ แต่ก็ต้องเป็นไปด้วยความสมัครใจไม่ผิดฯศีลธรรม และไม่ผิดหลักจริยธรรม
แต่หากคนที่จงใจแก้ผ้าเปลือยการในการประท้วงเป็นประจำ ซึ่งก็เป็นคนหน้าเดิม จะอ้างว่าก็เต็มใจและสมัครใจแก้ผ้าประท้วง ก็ต้องถามกลับว่า ทำไมตัดสินใจเลือกกรรมวิธีนั้น หรือเพราะเชื่อว่าเมื่อตนเองแก้ผ้าเปลือยกายแล้ว เจ้าหน้าที่ผู้รักษาความสงบเรียบร้อยจะไม่สามารถเข้าไปถูกเนื้อต้องตัวได้ เนื่องจากคนแก้ผ้าจะอ้างว่าเข้าไปทำอนาจารต่อตนเอง ก็ต้องบอกว่า คงไม่สามารถอ้างเช่นนั้นได้กระมัง เพราะการที่คนจงใจแก้ผ้าประท้วง หรือแก้ผ้าในหมู่สาธารณชนก็คือการกระทำผิดกฎหมายในเรื่องอนาจารอยู่แล้ว แล้วก็ต้องบอกว่าเท่าที่สาธารณชนดูสารรูปของคนแก้ผ้าประท้วงแล้ว ก็ทำให้เกิดความอุจาดสังเวชเป็นที่สุด
อย่างไรก็ตาม มีผู้ส่ง facebook ของคนสอนหนังสือในคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯนางหนึ่งมาให้ผู้เขียนดู แล้วถามว่ามีความเห็นอย่างไรกับข้อความใน facebook ของนางโดยนางอ้างประมาณว่าน่าสรรเสริญยกย่องการแก้ผ้าประท้วง เพราะเป็นการแสดงให้เห็นว่าผู้ประท้วงไม่มีสิ่งใดจะตอบโต้ผู้มีอำนาจรัฐที่ฉ้อฉลอีกต่อไปแล้ว เมื่อสาธารณชนเห็นข้อความใน facebook ของนาง หลายคนที่คุยกับผู้เขียนต่างเกิดอาการสมเพชเวทนาและขยะแขยง พร้อมบอกว่า ขอให้นางอย่าแก้ผ้าเปลือนกายออกจากบ้านของตน แล้วไปสอนหนังสือที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ เลยโปรดเห็นแก่ดินฟ้าเถอะ หรือหากนางจงใจอยากโชว์เรือนร่างจริงๆ เพราะหาได้รู้กาลเทศะไม่ก็ขอให้นางจงเรียกโคตรเหง้าเถือกเถาเหล่ากอของนางไปเสพภาพอุบาทว์นั้นเอง ขอได้โปรดอย่าเปลือยกายไปคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ เลยเพราะจะถือเป็นเหตุกาลกิณีบ้าน กาลกิณีเมืองอย่างที่สุด อันยากที่จะลบล้างความอุบาทว์ให้หมดสิ้นไปโดยง่าย เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า แม้คนบางคนที่อุตส่าห์ได้เข้าไปสอนหนังสือในจุฬาฯ แต่มีจิตใจต่ำทราม หารู้ความเหมาะความควร และรู้กาลเทศะไม่
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี