มีผู้คนจำนวนไม่น้อยตั้งคำถามว่า ทำไมคนสอนหนังสือบางราย ในบางคณะในมหาวิทยาลัยไทย เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นต้น โดยเฉพาะในคณะจำพวกสังคมศาสตร์ และอักษรศาสตร์จึงมีแนวคิดต่อต้านจนถึงขั้นล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์
คำถามคือทำไมคนจำพวกนี้จงใจเข้าไปสอนหนังสือในมหาวิทยาลัยเหล่านี้ ทั้งๆ ที่พวกเขาไม่มีความชื่นชอบ ไม่ศรัทธา ไม่เห็นด้วยกับสถาบันพระมหากษัตริย์
คำถามตามมาคือกระบวนการในการเลือกสรรบุคคลเข้าไปทำหน้าที่สอนหนังสือในคณะวิชาดังกล่าว มีอะไรผิดปกติหรือไม่ ทำไมบางภาควิชาในบางคณะจึงอุดมไปด้วยคนสอนหนังสือที่มีแนวคิดล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์
เรื่องไม่ปกติเหล่านี้ไม่สามารถอ้างว่าเป็นเรื่องเสรีภาพทางวิชาการได้ เพราะหากอ้างเสรีภาพทางวิชาการจริง ก็ต้องมีการผสมผสานแนวคิดทั้งเห็นด้วยและคัดค้านในสิ่งเดียวกันไว้ในภาควิชาและในคณะ แต่การที่บางภาควิชาจงใจคัดเลือกเอาเฉพาะคนที่ต้องการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์เข้าไปสุมหัวไว้รวมกันจึงเป็นความไม่ปกติอย่างชัดเจนที่สุด
เมื่อคนสอนหนังสือจำนวนไม่น้อยมีใจคิดล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นทุนเดิม คำถามที่น่าสนใจคือคนจำพวกนี้จะสอนอะไรให้ผู้เรียน นอกจากสอนให้ล้มล้าง และเกลียดชังสถาบันพระมหากษัตริย์ แล้วมีคำถามต่อไปว่า หากมีผู้เรียนรายใดไม่เห็นด้วยกับคำสอนของคนกลุ่มนี้ ผู้เรียนจะกล้าคัดค้านหรือไม่
เรื่องคนสอนหนังสือกับแนวคิดล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์มีร่องรอยและหลักฐานปรากฏให้เห็นอยู่เป็นระยะๆ และสาธารณชนก็พบว่าคนกลุ่มนี้มีอยู่จำนวนไม่ใช่น้อยในมหาวิทยาลัยของรัฐ โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยที่มีอายุเก่าแก่มากๆ ดังปรากฏว่ามีผู้เรียนจากมหาวิทยาลัยดังกล่าวจำนวนหนึ่งออกมาแสดงความต้องการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยกรรมวิธีต่างๆ เป็นประจำ
แต่มิแค่เพียงเท่านั้น เพราะยังปรากฏว่ามีคนสอนหนังสืออีกไม่น้อยเช่นกันที่มีแนวคิดล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ได้กระจายตัวไปอยู่ตามมหาวิทยาลัยของรัฐที่เปิดใหม่ เพราะคนจำพวกนี้ไม่มีเส้นสายไม่สามารถถูกเลือกเข้าไปสอนในมหาวิทยาลัยเก่าแก่ได้ หรือบางคนอาจจะติดขัดในเรื่องสติปัญญา เนื่องจากจบการศึกษาระดับบัณฑิตวิทยาลัยจากมหาวิทยาลัยที่ไร้ชื่อเสียงทางวิชาการ แต่คนจำพวกนี้ต้องการสวมหัวโขนของผู้สอนหนังสือในมหาวิทยาลัยของรัฐ เพราะเห็นว่าเป็นอภิสิทธิ์ชนจำพวกหนึ่งเนื่องจากไม่มีการเช็คชื่อเข้าและออกจากที่ทำงาน อยากไปสอนก็ไป อยากงดก็งดตามอำเภอใจ บางรายอาศัยหัวโขนคนสอนหนังสือในมหาวิทยาลัย ไปทำมาหากินหาเลี้ยงกระเพาะตัวเองด้วยการรับงานภายนอกมหาวิทยาลัย บางรายมีชื่ออยู่ในมหาวิทยาลัยหัวเมืองในแถบภาคอีสาน แต่ไม่เคยอยู่ในมหาวิทยาลัยเลย แต่กลับเข้ามารับจ้างทำหน้าที่พูดพล่ามในสถานีวิทยุบางแห่งซึ่งอยู่ในกำกับความดูแลของสำนักนายกรัฐมนตรี บางรายก็รับจ้างนักการเมืองทำงานวิจัย งานวิชาการกำมะลอเพื่อแลกกับเงินเดือนละเป็นหลักหลายหมื่น บางรายรับจ้างทำงานในสถานีโทรทัศน์ของพรรคเพื่อไทย ทั้งๆ ที่ยังกินเงินเดือนคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ
คำถามที่ผู้บริหารมหาวิทยาลัยของรัฐที่มีคนสอนหนังสือชนิดที่กล่าวมาข้างต้นเข้าไปสุมหัวอยู่ จำเป็นต้องตอบสังคมให้กระจ่างคือ ทำไมปล่อยให้มีอาจมจำพวกนี้เข้าไปซ่องสุมอยู่ในมหาวิทยาลัยได้ หรือว่าผู้บริหารมหาวิทยาลัยคือตัวการสำคัญที่ให้การสนับสนุนคนที่ต้องการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี