เรื่องเล่าของป๋าเปรมวันนี้ เนื่องจากมีแฟนแนวหน้า จาก นครราชสีมา ฝากความคิดถึงมายัง น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ คอลัมนิสต์อาวุโสของแนวหน้า วันนี้จึงขอนำเรื่องราว ที่ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีต รมว.ต่างประเทศ อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ และเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในยุครัฐบาลเปรม 5 ได้บันทึกเรื่องราว ที่ประทับใจในการร่วมทำงานใกล้ชิดกับ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่ง ดร.สุเมต สุวรรณพรหม ได้ช่วยค้นคว้าที่มีบันทึกไว้ในหนังสือ “รัฐบุรุษคู่แผ่นดิน”
โดย น.ต.ประสงค์ เล่าว่า ผมเข้ามาทำงานเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรีของพลเอกเปรมในรัฐบาลที่เรียกกันทั่วไปว่ารัฐบาลเปรม 5 ถ้าฟังโดย เพลินๆ มักเข้าใจกันว่าพลเอกเปรมเป็นนายกรัฐมนตรีมาถึง 5 ครั้งแล้วก็ได้ แต่โดยข้อเท็จจริงแล้วมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งให้พลเอกเปรมเป็นนายกรัฐมนตรี 3 ครั้งเท่านั้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2523 ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2526 และครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2529 แต่ระหว่างที่เป็นนายกรัฐมนตรีครั้งแรกนั้นได้มีการปรับปรุงคณะรัฐมนตรีรวม 2 ครั้ง คือเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2524 และวันที่ 19 ธันวาคม 2524 การที่มีการเรียกรัฐบาลพลเอกเปรมเป็นนายกรัฐมนตรีตั้งแต่ครั้งแรกจนกระทั่งถึงครั้งสุดท้ายที่ว่ารัฐบาลเปรม 5 นั้นคงจะเป็นการผนวกเอาช่วงเวลาที่มีการปรับปรุงคณะรัฐมนตรีรวม 2 ครั้ง เข้าไปด้วยนั่นเอง
สาเหตุสำคัญที่ทำให้มีการปรับปรุงคณะรัฐมนตรี 2 ครั้ง ดังกล่าวก็คือครั้งแรกเกิดจากปัญหาความขัดแย้ง
ภายในพรรคร่วมรัฐบาล คือ พรรคกิจสังคม กับ พรรคชาติไทย เรื่องการซื้อน้ำมันจากประเทศซาอุดิอาระเบีย ทำให้พรรคกิจสังคม ต้องลาออกไปส่วนการปรับปรุงคณะรัฐมนตรีครั้งที่ 2 เนื่องมาจากมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตเพราะเฮลิคอปเตอร์ตกที่ดอยอ่างขางจ.เชียงใหม่ มีการเลือกตั้งซ่อมทำให้มีการปรับปรุงคณะรัฐมนตรีคราวนี้พรรคกิจสังคมเข้ามาร่วมเป็นรัฐบาลอีก
น.ต.ประสงค์ ได้เล่าต่อว่าการยุบสภาในรัฐบาลพลเอกเปรมมีจำนวน3 ครั้ง ซึ่งทั้ง 3 ครั้ง ของพลเอกเปรมนั้นเกิดจากเรื่องสมาชิกพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลไม่เล่นการเมืองอย่างถูกต้องตามระบบ ซึ่งเป็นกติกาสำคัญในการพัฒนาการปกครองระบอบประชาธิปไตย ที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้คือ นอกจากจะไม่ทำตามมติพรรคแล้ว ยังไปเข้าร่วมกับฝ่ายค้านสร้างปัญหาแก่รัฐบาลของตัวเองอีกด้วย การยุบสภาเป็นวิถีทางหนึ่งในการพัฒนาระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย เพราะถ้าสมาชิกพรรคไม่เคารพมติพรรคแล้วย่อมแสดงให้เห็นถึงคุณภาพในการเล่นการเมือง ว่าสมควรจะได้รับการแก้ไขให้ดีขึ้น โดยประชาชนผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้ง ควรได้มีโอกาสตัดสินใจใหม่ มีคำกล่าวที่ได้ยินกันบ่อยๆ ว่า “เลือกตั้งบ่อยๆจะทำให้ได้คนดีมีคุณภาพเข้าสภามากขึ้น”
“การลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก็เป็นวิถีทางหนึ่งในการพัฒนาการปกครองแบบประชาธิปไตยเพื่อให้รัฐสภาพิจารณาเลือกหาตัวบุคคล ที่สมควรได้รับความไว้วางใจให้เป็นนายกรัฐมนตรีใหม่แต่กรณีดังกล่าว ก็สมควรได้รับการพิจารณาเช่นเดียวกันว่า สมควรจะกระทำหรือไม่ถ้าการลาออกนั้นไม่ได้เกิดขึ้นเพราะได้ทำการบริหารบ้านเมืองผิดพลาดจนเกิดความเสียหายต่อประเทศในส่วนรวม”
น.ต.ประสงค์เล่าต่อว่า ผมทำงานกับท่านพลเอกเปรม มีความสบายใจในเรื่องที่ว่าถ้าเรื่องไหนเป็นเรื่องที่ถูกต้องเป็นธรรม ป๋าเปรมจะไม่ต้องพิจารณาอะไรกันมากมายเพราะฉะนั้นเรื่องความถูกต้องที่ทำให้ผมสบายใจเพราะว่าในบ้านเราคนมีอำนาจมักจะมีคนเข้ามาแสวงหาอำนาจไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว เพราะฉะนั้นเมื่อตอนผมเข้ามารับงานกับท่าน ท่านบอกว่าให้ผมทำงานตรงไปตรงมาแล้วก็เรื่องไหนถูกเรื่องไหนผิดเรื่องไหนเป็นทำเรื่องไหนยุติธรรมให้ใช้เป็นหลักในการทำงานที่จะเสนอความเห็นหรือว่าข้อคิดเห็นข้อเสนอแนะประกอบการตัดสินใจจากการทำงานของกระทรวงต่างๆ ที่เสนอนายกรัฐมนตรี
เรื่องทุกเรื่องที่ถึงนายกรัฐมนตรีต้องผ่านผม ผมก็ตรวจสอบโดยยึดหลักของท่านมาประกอบกันเรื่องไหนที่เห็นว่าไม่ชัดเจนหรือผมเห็นว่ามีข้อน่าสงสัยผมก็ขอให้เจ้าของเรื่องไปตรวจสอบใหม่หรือตรวจสอบเองว่าถูกต้องตามนั้นหรือไม่ ส่วนเรื่องวิ่งเต้นหาผลประโยชน์จากท่านสมัยเป็นนายกรัฐมนตรีท่านก็สั่งผมไว้ว่า “การช่วยเหลือคน หากว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ได้รับความทุกข์และเป็นสิ่งที่น่าจะหาทางช่วยเหลือเขาก็ต้องช่วยในสิ่งที่เป็นไปได้และถูกต้อง”
ท่านเป็นทหาร มีระเบียบวินัย ทำงานตรงเวลา ได้ใช้เวลาวันหยุดออกเยี่ยมราษฎรไปในพื้นที่ต่างๆ ทุกภาคอย่างต่อเนื่อง ผมได้มีโอกาสติดตามเงินที่ท่านได้อนุมัติไปกับโครงการชนบทจะไปทำฝายขุดคูถนนลอกคลอง หรือทำเรื่องเกี่ยวกับการทำมาหากินเพาะปลูก ท่านไม่หยุดเลยผมต้องตามท่านไปเก็บเรื่องราวบันทึกลับเรื่องราวที่มีคนมาร้องทุกข์ ฉะนั้นท่านออกไปเยี่ยมตรวจ ทำให้การทำงานของพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ทำกันอย่างตรงไปตรงมา เพราะท่านซักไซ้ รายละเอียด ชาวบ้านเข้ามาพบ ก็อุ่นใจ สิ่งที่ท่านย้ำตลอดเวลาคือ
ข้อ 1 การแก้ไขปัญหาความยากจน ท่านบอกว่า ถ้าแก้ปัญหานี้ได้ปัญหาอื่นก็ต้องแก้ไขได้หมดหรือแก้ได้ง่ายขึ้น ท่านให้ความสนใจโครงการพัฒนาท้องถิ่นชนบท เป็นอย่างมาก
ข้อ 2 ท่านรังเกียจความทุจริต ไม่ว่าเรื่องใดๆ ก็ตาม โดยเฉพาะข้าราชการหรือนักการเมืองท่านสั่งให้ตรวจสอบ บางครั้งพิจารณาลงโทษทัณฑ์ แม้กระทั่งการปลอมแปลงเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เกี่ยวข้องกับพระ ข้าราชการนักการเมืองการนำไม้จากพม่าเข้าประเทศ ผิดนโยบายรัฐบาลมีรัฐมนตรีเข้ามาเกี่ยวข้องก็ถูกขอร้องให้ออกไป การทุจริต ท่านรังเกียจมาก ผมอยู่ใกล้ชิด ผมก็ได้สิ่งดีๆเหล่านี้มาเป็นข้อคิด
ข้อ 3 อีกสิ่งหนึ่งที่ท่านรังเกียจคือ ยาเสพติด ถึงกับกล่าวว่า ผู้เสพผู้ค้า ผู้ร่วมมือ ยาเสพติด คือผู้ทรยศต่อประเทศชาติ ท่านไม่ได้พูดเฉยๆยังสั่งการ ให้ใช้กองกำลังพิเศษ เข้าตีถล่มแหล่งผลิตยาเสพติด ที่เป็นต้นตอตามแนวบริเวณชายแดน ท่านสั่งตีทุกวันทุกสัปดาห์ จนต้องถอยกลับไป “ขุนส่า” ที่มีอิทธิพลมาก ที่อำเภอแม่จัน ป๋าเปรมเป็นคนปราบปรามจนหลบหนีไปอยู่พม่า
การแก้ปัญหาเศรษฐกิจของท่าน มีมาตรการหลายอย่าง ท่านสามารถหยุดยั้งความเลวร้ายทางเศรษฐกิจ
ไม่ให้ลงไปอีก ทำให้เศรษฐกิจกระเตื้องขึ้นมาก 8 ปี 5 เดือน เป็นช่วงเวลา ที่หยุดเรื่องเลวร้ายต่างๆ 3 ปีหลัง เศรษฐกิจดีขึ้นมากอย่างต่อเนื่อง ทั้งนำเงินเข้าประเทศโดยการส่งออก ผมอยากสรุปว่าท่านทิ้งมรดกไว้ให้รัฐบาลต่อมาและประเทศไทยคือความมั่นคงและความมั่งคั่ง ทำให้รัฐบาลต่อมาใช้จ่ายได้อย่างสบายมากเลยเริ่มต้นใช้กันอย่างสบายจนได้รับชื่อว่าเป็น “รัฐบาลบุฟเฟ่ต์คาบิเนต” ผมเองก็พ้นมาแล้วผมก็ยืนดูหันหลังกลับไปดู ท่านเหนื่อยยากลำบากทำให้คนต่อมามีความสุขเหลือเกิน
สิ่งที่ป๋าเปรมได้รับการยอมรับจากคนรอบข้างคือ ข้อ 1 ความซื่อสัตย์สุจริต ยึดถือเรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญประจำตัวท่าน มีมานะพยายามถึงแม้จะเป็นลูกชาวบ้านยากจน มุมานะในการเรียนหนังสือส่งตัวเองเข้ากรุงเทพฯมาเรียนโรงเรียนนายร้อยอย่างคนไม่มีสตางค์แล้วก็เป็นนายกรัฐมนตรีอย่างคนไม่มีสตางค์แต่ทิ้งสตางค์ไว้ให้บ้านเมือง ข้อ 2 ท่านมีความจงรักภักดี ต่อพระมหากษัตริย์
ทั้งหมดเป็นคำกล่าว ของ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ
ก่อนจะลาจากกันวันนี้ แฟนแนวหน้า และรักป๋าเปรม ประสงค์จะอุดหนุนหนังสือ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ “รัฐบุรุษคู่แผ่นดิน” ติดต่อ ที่ ดร.สุเมต สุวรรณพรหม โทร 081-1103939 โชคดีอาจจะได้รับหลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเลจืด รุ่นพิเศษ มาบูชาด้วยก็ได้ นะครับ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี