วันนี้เป็นวันที่ 13 ตุลาคม 2564 เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 พระผู้ทรง
ทศพิธราชธรรม พระผู้เป็นที่รักเคารพศรัทธายิ่งของปวงชนชาวไทย พระผู้เป็นเทพบิดรแห่งพระราชอาณาจักรไทยในยุคใหม่ พระผู้ทรงเป็นนักรบในสงครามกับความยากจน และเป็นที่เคารพนับถือของผู้นำทั้งหลายทั่วโลก
เมื่อวันคล้ายวันสวรรคตของพระองค์ท่านเวียนมาบรรจบครบรอบปีอีกครั้งหนึ่ง ปวงชนชาวไทยจึงน้อมใจรำลึกถึงพระองค์ท่าน และต่างก็หวังพระบารมีแห่งพระองค์ท่านที่จะปกป้องคุ้มครองผองภัยให้แก่อาณาประชาราษฎรทั้งปวงแห่งพระราชอาณาจักรนี้
พระมหาราชเจ้าพระองค์นั้นทรงมีพระราชปณิธานแน่วแน่ตั้งแต่ครั้งเสด็จเสวยสิริราชสมบัติว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” และตลอดรัชสมัยอันยาวนานนั้นพระองค์ได้บำเพ็ญพระราชกรณียกิจโดยไม่เคยเห็นแก่ความยากลำบากพระวรกาย บำเพ็ญพระบารมีเพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม
พระองค์มิได้ทรงปกครองแผ่นดิน แต่ทรงครองแผ่นดิน ซึ่งหมายถึงการนำพระองค์เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของแผ่นดิน ของจิตใจอาณาประชาราษฎรซึ่งเป็นพสกนิกรของพระองค์ พระองค์ท่านไม่ได้ใช้พระเดช แต่ใช้พระบารมีและพระคุณที่ปกแผ่ไปทั่วพระราชอาณาจักรนี้
ที่ใดมีทุกข์ ที่นั่นพระบารมีของพระองค์ท่านก็จะแผ่ไปถึงโดยไม่เลือกถิ่นที่หรือความทุรกันดารหรือความยาก
ลำบากใดๆ เสด็จฯแม้ด้วยพระบาทไปตามป่าเขาลำเนาไพร ที่ลาด ที่ชัน ที่ชุ่มน้ำ แม้กระทั่งห้วยหนองคลองบึงต่างๆ ชนิดที่ไม่มีใครประพฤติปฏิบัติมาก่อน จึงทำให้ทุกพื้นที่ทุกผองชนทุกถิ่นที่ทั่วพระราชอาณาจักรอยู่ในสายพระเนตรของพระองค์
เพื่อให้ความช่วยเหลืออันเป็นการส่วนพระองค์หรือที่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าทรงจัดตั้งหน่วยงานการกุศลขึ้นมากมายหลายหลากองค์กร เพื่อให้การช่วยเหลือพสกนิกรของพระองค์ได้อย่างทันท่วงที ไม่ติดขัดด้วยระบบระเบียบของทางราชการ
ทรงเล็งเห็นด้วยพระปรีชาญาณว่าพระราชอาณาจักรนี้พสกนิกรส่วนใหญ่อยู่ในภาคเกษตร ต้องอาศัยดินน้ำเป็น
พื้นฐานในการประกอบอาชีพ ดังนั้น ตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์จึงทรงทุ่มเทไปในเรื่องดินและน้ำเป็นอันมาก
ทรงศึกษาสภาพการณ์ต่างๆ อย่างถ่องแท้ และพระราชทานพระราชดำริมากหลายเพื่อทำให้พระราชอาณาจักรนี้อุดมสมบูรณ์ด้วยดินและน้ำ ดินเป็นฐานที่ตั้งแห่งความอุดมสมบูรณ์และความมั่งคั่ง ในขณะที่น้ำก็คือชีวิตจิตวิญญาณของความอุดมสมบูรณ์และความมั่งคั่ง
ดังนั้นหลายสิบปีแห่งรัชกาล ปัญหาเรื่องดินและน้ำจึงได้รับการป้องกันแก้ไขและปรับปรุงให้อำนวยประโยชน์แก่เกษตรกรทั่วประเทศ อันเป็นเรื่องที่ประชาชาติไทยทั้งปวงจะต้องช่วยกันดำรงรักษาพัฒนาต่อยอดและฟื้นฟูสิ่งที่พระองค์พระราชทาน
ไว้ให้ ให้ดำรงอาณาประโยชน์สืบไปตราบเท่านิรันดร
เพราะเหตุที่ประเทศไทยตั้งอยู่ในภูมิยุทธศาสตร์อันล้ำเลิศของโลก ดังนั้น จึงตกเป็นเป้าหมายแห่งการช่วงชิงของนักล่าอาณานิคมต่างๆ ทั่วโลก การอยู่รอดปลอดภัยจากสงครามช่วงชิงภูมิยุทธศาสตร์แห่งนี้จึงเป็นเรื่องที่ต้องใช้สติปัญญาความสามารถและความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวในขั้นสูงสุด
ดังนั้นในสถานการณ์ที่ประเทศไทยเกิดความขัดแย้งทางการเมืองและเป็นสงครามกลางเมืองที่ทำการสู้รบกันด้วยกำลังอาวุธ และขยายตัวไปถึง 47 จังหวัด ในขณะที่โดยรอบพระราชอาณาจักรก็ได้เปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองกันโดย
ทั่วไป นับเป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคงที่ร้ายแรงที่สุดอีกครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของชาติ
สงครามกลางเมืองในสภาพเช่นนั้นต่อเนื่องยาวนานร่วม 30 ปี สูญเสียชีวิตและความบาดเจ็บเสียหายที่เกิดขึ้นแก่เจ้าหน้าที่
ของรัฐและประชาชน ได้เพิ่มจำนวนสูงขึ้นทุกปี มีลักษณะที่ทำให้ประเทศไทยตกอยู่ในความเสี่ยงภัยอย่างใหญ่หลวง
ในยามนั้นพระมหาราชเจ้าพระองค์นี้ก็ได้พระราชทานแนวทางยุทธศาสตร์ ใช้บวกแทนรบ ใช้รวมแทนผลัก นั่นก็คือ
พระบรมราโชบายที่ให้สร้างความปรองดองสมานฉันท์ให้ทุกฝ่ายมาร่วมกันพัฒนาชาติไทย ยุติความขัดแย้งและสงครามกลางเมืองและเป็นที่มาของนโยบาย 66/2523 อันลือลั่น
สามปีหลังจากนั้นความขัดแย้งและสงครามกลางเมืองได้สิ้นสุดลงอย่างสิ้นเชิง แม้กระทั่งรอบพระราชอาณาจักรก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานแนวพระราชดำริให้ผู้นำกองทัพไทยช่วยเหลือประสานงานให้สงครามสิ้นสุดลง และนำสันติภาพกลับสู่ทุกประเทศเป็นที่ประจักษ์ พระบารมีที่สูงล้ำและสามารถดับร้อนผ่อนเป็นเย็นได้จึงเป็นเกียรติภูมิยิ่งใหญ่ของสถาบันพระมหากษัตริย์และพระราชอาณาจักรไทย ที่สถาบันพระมหากษัตริย์ในหลายประเทศก็ได้ส่งเชื้อพระวงศ์มาศึกษาทำความเข้าใจดังที่ทราบกันอยู่แล้ว
ทรงใช้ระยะเวลาอันยาวนานในการอบรมพร่ำสอนพระราชโอรสและพระราชธิดาให้ทรงทราบถึงสภาพที่แท้จริงของประเทศชาติ ให้รักประชาชน ให้เอาใจใส่ประชาชน และทำนุบำรุงอาณาประชาราษฎร
สรรพปัญญาวิชาคุณที่ทรงบำเพ็ญมาตลอดรัชกาลก็ทรงพร่ำสอนด้วยการปฏิบัติอย่างไม่หยุดยั้ง โดยเฉพาะองค์สยามมกุฎราชกุมารนั้นพระองค์ท่านทรงฝึกฝนอบรมอย่างหนักด้วยพระองค์เอง แม้กระทั่งในทางจิตใจก็ทรงชักนำพระราชโอรสให้ใกล้ชิดพระธรรม ให้เคารพธรรม ให้ทรงธรรมให้ถือธรรมเป็นใหญ่ เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม
ดังนั้นพระราชโอรสของพระองค์จึงทรงเปี่ยมด้วยพระปัญญาปรีชาคุณที่สั่งสมขึ้นด้วยพระราชวิริยะอุตสาหะแห่งองค์พระมหาราชเจ้า ดังจะเห็นได้ว่าทันทีที่ขึ้นครองราชสมบัติพระองค์ท่านก็ได้สำแดงผลที่ทรงรับการพร่ำสอนอย่างทะนุถนอมตลอดระยะเวลาอันยาวนานนั้นให้เห็นเป็นที่ประจักษ์
ในวินาทีแรกที่ทรงครองราชย์ ทรงเปล่งประกาศพระบรมราชปณิธานต่อหน้าเทพยดาและมนุษย์ทั้งหลายว่าจะทรงสืบสาน รักษา ต่อยอดพระบรมราชปณิธานแห่งพระบรมราชชนก นั่นคือการครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม เป็นสัจจะวาจาที่ทรงประกาศแล้วแก่เทพยดาที่บำรุงรักษาพระเศวตฉัตร ที่ปกป้องคุ้มครองพระราชอาณาจักร และต่อหน้าอาณาประชาราษฎรทั้งปวง
ลำดับถัดมาก็ทรงสืบทอดการประดิษฐานวชิรวงศ์ขึ้นในพระพุทธศาสนา โดยทรงสถาปนาสมเด็จพระญาณสังวร
สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ขึ้นเป็นที่สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร และทรงสถาปนาพระมหาเถระที่ทรงปัญญาวิชาคุณ ทรงพรหมจรรย์อันบริสุทธิ์ในพระพุทธศาสนาคือสมเด็จพระมหามุนีวงศ์ ขึ้นเป็นที่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 20 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
ตามมาด้วยการแก้ไขกฎหมายคณะสงฆ์ ที่ยึดพระราชอำนาจไปตั้งแต่ พ.ศ. 2535 อันเป็นผลให้การบริหารกิจการคณะสงฆ์เต็มไปด้วยเชิงพาณิชย์และธุรกิจในการค้าตำแหน่ง ปิดยุคสมัยแห่งความเสื่อมโทรมของพระพุทธศาสนาลงอย่างสิ้นเชิง
นั่นก็เป็นการสืบทอดต่อยอดพระบรมราโชบายอันมีฐานะเป็นยุทธศาสตร์ยิ่งขององค์พระปฐมบรมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีที่ว่า “ตั้งใจจะอุปถัมภก ยอยกพระพุทธศาสนา”
ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ที่นำหลักธรรมคำสอนของศาสนาต่างๆ มาคุ้มครองป้องกันจิตใจของมหาชนไม่ให้ไหลลงในทางต่ำเป็นรากฐานสำคัญแห่งความสามัคคีภายในชาติที่จะบังเกิดผลคือความมั่นคงที่แท้จริงของประเทศชาติและความร่มเย็นเป็นสุขของอาณาประชาราษฎรทั้งปวง
โอ้พระมหาราชเจ้า พระผู้ทรงเป็นเทพบิดรของประชาชาติไทย แม้จะเสด็จสวรรคตเสวยสวรรค์มาถึง 5 ปีเต็มแล้ว แต่พระมหากรุณาธิคุณ พระเมตตาคุณ พระวิสุทธิคุณและทศพิธราชธรรมแห่งพระองค์ท่านที่ทำให้ประเทศมั่นคง ประชาชนมั่งคั่ง ยังดำรงอยู่ในห้วงจิตใจลึกของประชาชาติไทย
ทั้งผอง
ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณนี้ ประชาชาติไทยย่อมโดยเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ในการสืบสาน รักษา ต่อยอดพระบรมราชปณิธานของพระองค์ท่านให้ปรากฏเป็นจริงและประสบความสำเร็จให้จงได้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี