เมื่อปี 2562 ที่ผ่านมาประเทศไทยเป็นอันดับ 1 ใน 10 ของชาติที่มีอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเจริญที่สุดใน 235 ประเทศทั่วโลก โดยในปีนั้นมีนักท่องเที่ยว หลั่งไหลเข้าไทยถึง 40 ล้านคน ทำรายได้มหาศาลระหว่าง 55,000 ถึง 60,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ยังผลให้การท่องเที่ยวเป็นจำนวนร้อยละ 35 ของรายได้ประชาชาติ(GNP) แต่ในปี 2563 และ 2564 เกิดวิกฤตการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังผลให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยทรุดตัวอย่างรุนแรง
กิจการที่เกี่ยวข้องถึงกับทรุดทันทีแบบช็อกไม่ว่าจะเป็นสายการบินทั้งไทยและต่างชาติ ภัตตาคาร ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ท ศูนย์การค้า การขายปลีก การขายส่งยังผลให้รายได้ประชาชาติหดตัวทันทีถึงร้อยละ 25 มีแรงงานทั้งไทยและต่างด้าวได้รับผลกระทบมากถึง 12 ล้านคน
รัฐบาลภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาได้พยายามประคับประคองสถานการณ์ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคมแก้ไขปัญหาทีละเปลาะอย่างรวดเร็วทันสถานการณ์แม้จะถูกฝ่ายค้านกับฝ่ายแค้นหาทางล้มรัฐบาลลงให้ได้แต่ด้วยแรงสนับสนุนจากประชาชนคนไทยส่วนใหญ่ที่ยังเห็นว่าพลเอกประยุทธ์เป็นผู้นำที่เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งอยู่ จนในวันที่ 12 และ 21 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมาพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ประกาศออกมาว่า ไทยพร้อมแล้วที่จะเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวเข้ามาจากทั่วโลก
โดยประเดิมต้อนรับนักท่องเที่ยว 46 ชาติที่รัฐบาลได้วิเคราะห์แล้วว่า เป็นกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำในการป้องกันและรักษาไวรัส มีหลักเกณฑ์คือ นักท่องเที่ยวที่เป็นพลเมืองของ 46 ชาติเหล่านี้ต้องมีเอกสารยืนยันว่าได้รับการฉีดวัคซีน 2 เข็มครบโดสแล้ว มีเอกสารแสดงว่าปลอดโรคไวรัสโควิด-19 จะได้เดินทางเข้าประเทศไทยโดยไม่จำต้องกักตัว 14 วัน โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป ถือเป็นการส่งสัญญาณ welcome to thailand พร้อมกับได้ขอความร่วมมือคนไทย การ์ดอย่าตก เตือนทุกภาคส่วนต้องปฏิบัติตามมาตรการ COVID-Free Setting อย่างเคร่งครัด
ทางด้านนายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้กล่าวขานรับนโยบายเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย โดยไม่ต้องกักตัวตั้งแต่ 1 พฤศจิกายนนี้ ว่า นโยบายนี้จะทำให้เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยในช่วงสิ้นปี 2564 อย่างแน่นอน แต่ขอให้รัฐเร่งกระจายวัคซีนให้ทั่วถึงเพื่อเรียกความมั่นใจกับทุกฝ่ายด้วย พร้อมกับ ขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้มีการติดเชื้อไวรัสอีก
ตามนโยบายเปิดประเทศดังกล่าวนี้ ทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยทุกๆ ภาคส่วนตั้งแต่ภาครัฐ ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ สภาหอการค้าไทยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทยสมาคมการค้า ปลีกและการค้าส่งแห่งประเทศไทย สหภาพแรงงานต่างๆ รวมไปถึงประชาชนที่หาเช้ากินค่ำต่างแสดงความยินดีกันทั่วหน้าเพราะในรอบเกือบ 2 ปีที่ผ่านมาในปี 2563 ถึง 2564 ภาวะเศรษฐกิจของไทยอยู่ในภาวะซบเซาอย่างรุนแรงมากกำลังซื้อหายไปแม้รัฐบาลจะช่วยแบ่งเบาภาระเป็นจำนวนมากก็ตาม แต่เม็ดเงินที่กระจายออกมามันน้อยกว่าปี 2562 มากการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้
จึงเป็นการสร้างความหวังอันเรืองรองของประเทศให้กลับคืนมาหากคนไทยทุกภาคส่วนหันมาร่วมแรงสู้กับภัยโควิดอย่างรัดกุมก็เชื่อว่าประเทศชาติจะผ่านสถานการณ์ที่เลวร้ายเสียตามที่ทุกๆ คนต้องการ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี