“สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)” ในอดีตคือ “กรมตำรวจ” ใครอยากเป็นตำรวจ พ่อแม่พี่น้องพยายามผลักดันให้ลูกๆ ของพวกเขาเป็นตำรวจ แต่บรรดาพ่อแม่ผู้ปกครองไม่รู้หรอกว่า การจะเข้ามาเป็นตำรวจระดับชั้นประทวนต้องสอบเข้ามาถ้าสอบได้จะเป็นตำรวจตามที่หน่วยต่างๆ ที่ขาดแคลนกำลังพลขอมาจะเลือกเองไม่ได้ ในส่วนของระดับนายตำรวจมีการสอบเข้าไปเรียนที่ “โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน” เมื่อสอบผ่านจะได้เข้าไปอยู่ในรั้วสามพรานครึ่งตัวแล้วส่วนจะผ่านออกมาเป็นนายตำรวจหรือไม่อยู่ที่ความประพฤติของนักเรียนเอง ถ้าสังเกตให้ดีมักจะมีลูกอดีตนายตำรวจเข้ามาเรียนด้วยสังเกตดูจากนามสกุล....อีกส่วนหนึ่งจะเปิดให้มีการรับนายตำรวจที่มีวุฒิตามที่ “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” กำหนดมาให้ซึ่งผู้ที่มาสมัครมักจะใช้วุฒิตามที่ สตช.กำหนดให้ ส่วนวุฒิจะนำมาประกอบตามที่มีการกำหนดไว้....ส่วนใหญ่มักจะเป็น “ลูกท่านหลานเธอ” เป็นส่วนใหญ่บุคคลเหล่านี้เข้ามาแล้วมักจะได้นั่งในตำแหน่งที่สามารถเลือกได้ส่วนใหญ่จะเติบโตเร็วกว่าบรรดาพวกที่สอบเข้ามา ถ้าสังเกตดูให้ดีบรรดาลูกท่านหลานเธอหรือมีนามสกุลที่มีบรรพบุรุษเคยเป็นอดีตนายตำรวจยศใหญ่จะมีความก้าวหน้ามากกว่านายร้อยตำรวจที่สอบเข้ามา ที่สำคัญลูกหลานบรรพบุรุษที่เข้ามาเป็นนายร้อยติดดาวโดยไม่ต้องสอบสามารถเลือกตำแหน่งได้ตามที่ต้องการ และจะมีความก้าวหน้าในหน้าที่อย่างรวดเร็วมาทำงานไม่มาบ้าง มาสายบ้าง ไม่เกิดปัญหาอะไร เพียงแต่ใน 1 สัปดาห์อาจจะเข้ามาเซ็นเองหรือให้เพื่อนเซ็นแทนก็ยังได้
แต่กลุ่มที่สอบเข้ามาจะต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด ถ้าจะลาหยุดด้วยเหตุใดก็ตามต้องมีเหตุผลอย่างชัดเจนผู้บังคับบัญชาสามารถให้ตำรวจไปสืบในทางลับว่าเป็นความจริงอย่างที่อ้างไว้หรือไม่ ขณะนี้เริ่มมีปัญหาเกิดขึ้นกับองค์กรตำรวจแล้วเนื่องจากนักเรียนนายร้อยตำรวจสามพรานรุ่น 68 ที่ออกมาปฏิบัติหน้าที่ครบอายุงานมีสิทธิ์ที่จะขึ้นเป็นสารวัตรประมาณ 300 นาย ได้รับตำแหน่งสารวัตรไม่ถึง 50 นาย เนื่องจากมีบรรดาลูกของอดีตนายตำรวจระดับผู้บริหารของ สตช.ถูกแย่งไปหมด ที่สำคัญพวกเขายังถูกยัดเยียดให้ไปลงฝ่ายสอบสวนเท่านั้น ส่วนลูกท่านผู้ใหญ่ทั้งหลายที่เข้ามาโดยไม่ต้องสอบ “อบรมเพียง 4 เดือน” จบมาไม่ต้องทำอะไร ช่วยราชการหน้าห้องนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่เคยเป็นลูกน้องบิดาและเดินตามบิดามาตลอดมาเข้าอบรมบ้างไม่มาบ้างสามารถเลือกนั่งในตำแหน่งอะไรก็ได้ตามใจชอบมาทำงานบ้างไม่มาบ้างไม่สะเทือนใจใครไม่ผิดระเบียบอีกด้วย
สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความเหลื่อมล้ำในสตช.ซึ่งมีมานานแล้วทำให้การปฏิบัติหน้าที่ของบรรดาลูกท่านหลานเธอหย่อนยานและยังเป็นเครื่องมือของนักธุรกิจที่สามารถใช้เบี้ยกับบรรดานายตำรวจที่เลือกตำแหน่งสำคัญสามารถให้คุณให้โทษได้ ผิดกับนักเรียนนายร้อยที่สอบเข้ามาอย่างถูกต้องตั้งใจเรียนมาจนจบไม่สามารถเลือกได้ นี่คือวิบากกรรมของพวกเขาที่สอบเข้าและต้องปฏิญาณต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ “อดทนต่อความเจ็บใจ ไม่หวั่นไหวต่อความยากลำบาก ไม่มักมากต่อลาภผล” ทำให้เขายากจนมาทุกวันนี้ ผิดกับนายตำรวจที่เข้าภายในไม่ต้องสาบานรีบโกยเบี้ยเข้ากระเป๋า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่สามารถทำอะไรพวกเขาได้เนื่องจากเขาเคยเห็นตัวอย่างมาแล้วว่าการสาบานเป็นการหลอกให้กลัวเท่านั้นใช้ไม่ได้กับพวกเขา เบี้ยเท่านั้นที่จะช่วยพวกเขาได้โดยไม่ต้องสาบานให้เสียเวลา...สวัสดีครับ....
เกลือสมุทร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี