การชนะเลือกตั้งได้เป็นรัฐบาล ถือว่าเป็นการได้รับการไว้วางใจ (Trust) จากประชาชนพลเมืองขั้นต้น แต่การเป็นที่ไว้วางใจของสังคมในระหว่างบริหารประเทศนั้น รัฐบาลมิใช่แค่จะต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์กติกา ประพฤติตนภายใต้กฎหมายของบ้านเมือง หากแต่จะต้องกำกับตนเองด้วยศีล และธรรมไปพร้อมๆ กันด้วย ซึ่งหมายถึงการมีจิตสำนึกและจริยธรรมที่ดี มีการตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนพลเมือง และต้องมีความละอาย ไม่บิดเบือนหรือโกหกมดเท็จ
หากรัฐบาลทำได้ดังว่า ประชาชนพลเมืองให้ความไว้วางใจในการบริหาร เพราะเชื่อมั่นว่ารัฐบาลนั้นจะทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อเขา และเพื่อผลประโยชน์ของเขา หรือนัยหนึ่งกระทำการทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก
การเป็นรัฐบาลเป็นการใช้อำนาจที่ประชาชนพลเมืองเป็นเจ้าของ ซึ่งได้มอบหมายให้กับรัฐบาลเพื่อดำเนินกิจการงานของประเทศ บนพื้นฐานเพื่อความผาสุกของประชาชน แต่หลายครั้งหลายครา การที่มีกลุ่มคนบางกลุ่มที่ได้ครอบครองอำนาจบริหารกลับทำการบิดเบือนวัตถุประสงค์ โดยนำไปใช้โดยมิชอบ หรือนำไปใช้เพื่อหาประโยชน์เข้าตนแถมยังไม่ได้ทำประโยชน์อะไรให้กับประชาชนพลเมือง
ดังนั้น ผู้ที่จะมาเป็นรัฐบาลจึงต้องเป็นผู้คนที่มีจิตใจดี อยู่ในศีลและธรรมเป็นสำคัญ การบริหารก็จะอยู่ในความถูกต้องตามทำนองคลองธรรม เป็นเรื่องของความรับผิดชอบที่ไม่มีเรื่องส่วนตัว หรือผลประโยชน์ส่วนตนเข้ามาเกี่ยวข้อง การทำกิจการตามกฎหมายกฎเกณฑ์ให้ถูกต้องก็เป็นเรื่องหนึ่ง แต่อีกเรื่องหนึ่งหรืออีกด้านหนึ่งก็คือ การมีจิตใจที่สูงส่งและดีงาม มีขีดความสามารถในการควบคุมตัวเองมีจิตใจที่มั่นคงแน่วแน่
แต่การที่สังคมจะปล่อยให้ฝ่ายรัฐบาลหรือผู้มีอำนาจรัฐควบคุมตัวเองให้ปฏิบัติตนไปอย่างเดียวนั้นไม่เป็นการเพียงพอ สังคมจึงจำเป็นต้องมีเครื่องมือและกลไกในการตรวจสอบ สอดส่อง และต่อต้านการใช้อำนาจโดยมิชอบไปด้วยพร้อมๆ กัน ซึ่งหมายความว่า ในสังคมหนึ่งใดประชาชนพลเมืองจะต้องทำตนเป็นเจ้าของอำนาจ และเจ้าของฝ่ายรัฐบาล ประชาชนพลเมืองจะต้องพัฒนาตนเองเป็นพลเมืองที่ตื่นรู้ รู้ทัน และสนอกสนใจในเรื่องความเป็นไปของบ้านเมืองอย่างเข้มแข็งและกระตือรือร้น ซึ่งจะกระทำเช่นนี้ได้ ประชาชนพลเมืองก็ต้องมีความรู้ ใฝ่รู้ และจะต้องเข้าถึงซึ่งข้อมูลข่าวสารได้อย่างกว้างขวางลึกซึ้ง และสามารถที่จะได้รับคำตอบ ข้อชี้แจงต่างๆ นานา เมื่อมีข้อสงสัยหรือข้อกังวล อีกทั้งสังคมควรจะมีหลักการหลักเกณฑ์ให้ผู้ต้องสงสัยเกี่ยวกับการใช้อำนาจโดยมิชอบนั้น ต้องพักการปฏิบัติงานทันทีทันควันจนกว่าการสอบสวนค้นหาข้อเท็จจริงจะแล้วเสร็จในระยะเวลาที่กำหนดไว้ไม่เกิน 3 เดือน เป็นต้น
อีกประเด็นหนึ่งก็คือ การเป็นรัฐบาลเป็นเรื่องของการดำเนินนโยบายหรือขับเคลื่อนนโยบายตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ และตามกฎเกณฑ์ของบ้านเมืองฉะนั้นผู้ดำเนินนโยบายจะต้องละเว้นการมีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้จ่ายงบประมาณ อาทิ เรื่องการจัดซื้อจัดจ้างซึ่งควรจะมีฝ่ายปฏิบัติเป็นผู้รับผิดชอบและมีองค์กรตรวจสอบ และเปิดให้ประชาชนพลเมืองเข้าถึงซึ่งข้อมูลต่างๆ ได้ เพื่อช่วยตรวจสอบ แสดงความคิดเห็น และกำกับ และป้องกันมิให้เกิดความรั่วไหล
หัวใจสำคัญของการเป็นรัฐบาลที่อยู่กับศีลและธรรม ก็คือ ความโปร่งใสและความใสสะอาด และการสื่อสารกับประชาชนพลเมืองอย่างชัดเจนและต่อเนื่อง อีกทั้งการตัดสินใจใดๆ ที่กระทบต่อผู้คนส่วนใหญ่ และต่ออนาคตของประเทศก็ควรจะให้ประชาชนพลเมืองมีส่วนร่วมในกระบวนการตัดสินใจอย่างกว้างขวางเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นนั้นจะทั่วถึงและมีความมั่นคง มิใช่เรื่องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าไปวันๆ หนึ่ง
ในภาพรวมนั้น สังคมไทยได้ละเลยเกี่ยวกับการพัฒนาทางด้านจิตใจ และมุ่งดำรงชีวิตแบบบริโภคหรือวัตถุนิยม ซึ่งก็ไม่ใช่เป็นเรื่องผิดปกติในสังคมสมัยใหม่แต่อย่างใด แต่สุดท้ายสังคมไทยกลับลืมเลือนเรื่องการดำรงชีวิตที่ไม่เข้มข้น สุดโต่งจนสร้างผลกระทบที่เลวร้ายตามมาแก่สังคม
ก็คงจะถึงเวลาแล้วที่สังคมไทยจะได้หยุดนิ่งกันสักนิด และตั้งสติเพื่อทบทวนเรื่องราวว่าเป็นระยะเวลาพอสมควรแล้วที่เราเป็นสังคมที่ดูจะตกหล่นในเรื่องความถูกความต้อง เป็นเรื่องเอาแต่ได้และมักเพิกเฉยต่อความไม่ชอบมาพากล การทุจริตคอร์รัปชั่นแพร่ขยายอย่างกว้างขวางลึกซึ้งเพราะเราได้ทำตัวเป็นสังคมที่ลืมเลือนเรื่องศีลธรรม และความดีงามต่างๆ
เราควรจะเริ่มใช้เวลาทบทวนตนเอง และมาตั้งหลักกันใหม่ ด้วยการบ่มเพาะเยาวชน เสริมสร้างความเข้มแข็งทางด้านจิตใจเพื่อให้อยู่กับศีลและธรรมของสาธารณชนทั่วไป ซึ่งหมายถึงการให้ทุกภาคส่วนของประเทศไทย กลับมามุ่งมั่นในเรื่องการเสริมสร้างสังคมไทยที่มีศีลและธรรมเป็นตัวกำกับ
มิเช่นนั้นแล้ว ก็จะเป็นดั่งคำท่านพุทธทาสที่ว่า “ศีลธรรมไม่กลับมา โลกาจะวินาศ”
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี