น่าจะเป็น “เอกลักษณ์ประจำชาติ” ไปแล้ว ที่หนังไทย ละครไทย และนวนิยายไทย จะต้องมี “นางอิจฉา” แทรกในทุกเรื่อง
ชนิดละครเรื่องใด “ขาดนางอิจฉา” ก็เหมือนน้ำพริก “ไม่บีบมะนาว” ย่อมจะขาด “แซ่บ” และขาด “นัว” จนทำให้รสชาติ “ไม่เต็มครก”
น่าจะกลายเป็น “เอกลักษณ์ประจำชาติ” ไปแล้วเช่นกันที่นักการเมืองไทย จะต้องมี “ดาวฤกษ์ ดาวเคราะห์ ดาวแคระและดาวร้าย” บวกด้วย “ดาวอิจฉาที่หิวแสง”
ด้วยประการฉะนี้ จึงไม่น่าประหลาดใจ กรณี “ลุงตู่ลุงดอน และเฮียสุชาติ” ช่วยกันสร้าง “ผลงานชิ้นโบแดง”ด้วยการไปสร้างสัมพันธไมตรีกับประเทศซาอุฯ ครั้งใหม่ได้สำเร็จแบบ “ไม่มีใครคาดฝัน” หลังซาอุฯ โกรธเคืองไทยมา 32 ปี จนทำให้ “นางอิจฉา” ทั้งหลายในแวดวงการเมือง โกรธจนควันออกหู ไฟพรูออกทางปาก และอิจฉาตาถลนออกจากเบ้า
จากนั้น “จอมอิจฉาที่เป็นชายทั้งแท่ง” ก็แปลงกายใส่กระโปรงเป็น “นางอิจฉา” ออกมาฉอดๆ เพื่อ “ด้อยค่าลุงตู่และคณะอย่างกระหน่ำ” เช่น
“บูลลี่” ว่า ลุงตู่ได้รับการต้อนรับจากซาอุฯ อย่าง“ไม่สมศักดิ์ศรี” นอกจากเดินบน “พรมสีม่วง” ที่ไม่ใช่“พรมแดง” อันหรูหราแล้ว ยังไม่มีโอกาสได้เข้าเฝ้าฯกษัตริย์ซาอุฯได้แค่พบผู้ว่าราชการจังหวัดมาเป็นผู้ต้อนรับ
หลังจาก “นางอิจฉา” ทำหน้าที่เป็น “กองแช่ง” ออกมา “ด้อยค่าผลงานชิ้นโบแดงเป็นโบดำ” อย่างถึงพริกถึงขิงแล้ว ปรากฏว่า “กองเชียร์” ของลุงตู่ก็ออกมา “สวดกงเต๊กนางอิจฉา” อย่างเต็มสูบบ้าง จน “นางอิจฉาหน้าแตกหมอไม่รับเย็บ”
โดย “สวนกลับ” เรื่องซาอุฯ ปูพรมม่วงต้อนรับนายกฯไทยด้วยการ “สรุปตำนานปูพรมแดงต้อนรับแขก VIP” ไว้ว่า “กำเนิดขึ้นในปีค.ศ.1821 ที่เมืองจอร์จทาวน์ รัฐเซาท์แคโรไลนา โดยชาวเมืองดังกล่าวปูพรมแดงต้อนรับประธานาธิบดีเจมส์ มอนโร ที่เดินทางมาเยือน เพื่อให้เกียรติยกย่องและประกาศถึงความยิ่งใหญ่อลังการของท่านผู้นำ”
จากนั้นมา “ปูพรมแดงต้อนรับ” ได้กลายเป็น “สัญลักษณ์การให้เกียรติสูงสุด” ที่ระบาดไปทั่วโลก รวมถึงซาอุฯ ด้วย
“ครั้นในปีค.ศ.2015 กระทรวงวัฒนธรรมของซาอุฯได้ประกาศให้ใช้ พรมสีม่วง แทนพรมแดง ในการต้อนรับแขก VIP จากทุกประเทศที่มาเยือน เพื่อแสดงความอบอุ่นยินดียกย่องและประกาศถึงความยิ่งใหญ่ของผู้มาเยือน”
โดย “สีม่วง” เป็นเอกลักษณ์ประจำชาติของซาอุฯและพรมสีม่วงที่ปูรับแขก VIP ทุกผืนทอด้วยมือจาก “ศิลปะเบดูอิน” ที่มีมายาวนานนับพันๆ ปี จนวันนี้ได้รับการประกาศจากยูเนสโก “ให้เป็นมรดกโลก”
ดังนั้น การปูพรมสีม่วงต้อนรับนายกฯ ไทย “จึงเป็นการยืนยันถึงไมตรี ซาอุฯ-ไทย จะผูกพันอย่างลึกซึ้งมั่นคงและยาวนาน”
ส่วนผู้ที่มาต้อนรับนายกฯ ไทยนั้น “ได้แก่ มกุฎราชกุมาร เป็นองค์รัชทายาทที่จะขึ้นเป็นกษัตริย์ของซาอุฯองค์ต่อไป”
ไม่รู้ว่า “นางอิจฉา” รู้ความจริงเช่นนี้แล้ว จะ “อกแตกตาย” หรือไม่?
กมลศักดิ์ ตั้งธรรมนิยม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี