วันอังคาร ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2568

สัปดาห์นี้ “ที่นี่แนวหน้า” ขอนำเรื่องเล่าจากโครงการวิจัย “การพัฒนาการบริหารจัดการภาครัฐเพื่อลดความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศของเมืองนครราชสีมา ภายใต้การกำหนดนโยบาย การสื่อสาร และการศึกษา เพื่อความอยู่ดีมีสุขอย่างยั่งยืน” ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก กองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) มานำเสนอ ซึ่ง “การสื่อสารภาครัฐในภาวะวิกฤต” เป็นอีกปัจจัยสำคัญในการควบคุมสถานการณ์
ผู้วิจัยโครงการนี้ ผศ.ดร.วรัชยา เชื้อจันทึกอาจารย์ประจำหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรบัณฑิตคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา เล่าว่า งานวิจัยชิ้นนี้เจาะลึกสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะการบริหารจัดการภาครัฐ ซึ่งได้ทำงานวิจัยย่อยแบ่งออกเป็น3 ประเด็นคือ การกำหนดนโยบาย การสื่อสาร และการศึกษาทำการศึกษาช่วงเดือนมี.ค. 2563-เม.ย. 2564
กระบวนการทำงานเริ่มต้นจากการประชุมทีมนักวิจัย จากนั้นลงพื้นที่บริเวณเขต อ.เมือง จ.นครราชสีมา เนื่องจากเป็นพื้นที่ซึ่งมีประชากรอาศัยหนาแน่นที่สุด โดยเริ่มการวิจัยเชิงปริมาณและคุณภาพ ควบคู่กันไป เพื่อดูว่าเมื่อได้รับนโยบายจากระดับชาติลงมาแล้ว เจ้าหน้าที่ภาครัฐได้มีการปฏิบัติตามอย่างไร มีผลอย่างไร ประสบผลสำเร็จหรือไม่ ซึ่งเก็บข้อมูลจากบุคคลที่นำนโยบายไปปฏิบัติ
ตั้งแต่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ชุมชนและครัวเรือน จากนั้นได้เริ่มจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการกับตัวแทนหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อสะท้อน ข้อมูลที่ได้จากการวิจัยว่า แต่ละฝ่ายได้นำนโยบายไปปฏิบัติอย่างไร และจัดทำเป็นแนวทางที่เหมาะสมสำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและสร้างความน่าเชื่อถือสำหรับภาครัฐต่อไป
“ในงานวิจัยได้สรุปข้อเสนอแนะเชิงวิชาการ ประกอบด้วย การพัฒนาศักยภาพระบบการเตรียมความพร้อม การเสริมสร้างศักยภาพการรับมือของทุกภาคส่วน การเสริมสร้างความร่วมมือการเตรียมพร้อมรับมือและการบริหารจัดการแบบบูรณาการ ที่สอดคล้องกับแผนเตรียมพร้อมแห่งชาติปี 2560-2564ขณะเดียวกันการสื่อสารไปยังประชาชนจากผู้นำชุมชนผ่านเสียงตามสายหรือหอกระจายข่าว จะมีความใกล้ชิดกับประชาชนและให้ความเชื่อถือมากกว่า
ดังนั้นจึงควรให้ความสำคัญกับสื่อบุคคลมากขึ้นเพราะถือว่ามีอิทธิพลต่อประชาชนในช่วงที่มีการสื่อสารในภาวะวิกฤต ขณะเดียวกันการสื่อสารสาธารณะภาครัฐยังคงมีความเป็นห่วงต่อการใช้ชีวิตปกติใหม่ หรือนิว นอร์มอล ที่อาจจะมีการ์ดตก หรือละเลยป้องกันบางอย่างไป ดังนั้นการทำให้ประชาชนได้รู้เท่าทันสื่อให้ตรวจสอบแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้ว่า จะดำเนินชีวิตต่อไปอย่างไรก็เป็นเรื่องที่ควรเพิ่มความสำคัญให้มากกว่านี้” ผศ.ดร.วรัชยา กล่าว
ผศ.ดร.วรัชยา กล่าวต่อไปว่า งานวิจัยให้ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายคือ “ภาครัฐควรพัฒนาช่องทางประชาสัมพันธ์” ทั้งเรื่องของการใช้สื่อโซเชียลมีเดียหรือการถ่ายทอดความรู้ สร้างความเข้าใจแก่ประชาชน ที่ไม่ควรเป็นการบรรยายในชุมชน นอกจากนี้ ควรเผยแพร่หมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินเพื่อความสะดวกรวดเร็ว จัดตั้งหน่วยติดต่อสอบถามเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้ามาสอบถามข้อมูลได้
ต่อมาคือ “การจัดทำคู่มือการประสานงานแนวทางปฏิบัติ” ให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อนำนโยบายไปปฏิบัติ เช่น อปท. หรือ รพ.สต. พร้อมจัดทำคู่มือประสานงานเมื่อเผชิญเหตุจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 พร้อมกับการจัดทำคู่มือให้กับชุมชน ขณะเดียวกัน ควรมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางวิชาการกับสถาบันการศึกษาในพื้นที่ที่เกิดระบาด การจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการรับมือกับโรคระบาด รวมไปถึงการให้ความรู้แก่อาสาสมัครทางสาธารณสุขเพื่อเตรียมความพร้อมและเฝ้าระวังด้วยการสนับสนุนด้านการศึกษา
ทำคู่มือให้กับโรงเรียน ชี้แจงสถาบันการศึกษาให้ทราบถึงการเฝ้าระวังและทำความสะอาด จากนั้นสร้างฐานข้อมูลเพื่อให้การเครือข่ายเชื่อมโยงข้อมูลไปยังหน่วยงานในระดับพื้นที่ เช่น อปท. หรือ รพ.สต. และชุมชน ซึ่งหากมีการรวบรวมข้อมูลไว้ในที่เดียว ก็จะสามารถบริหารจัดการสถานการณ์ได้มากขึ้น และการสนับสนุนระบบการสื่อสารที่ควรจะมีช่องทางให้ประชาชนได้ติดต่อเพื่อคลายความกังวลที่เกิดขึ้น ผ่านสื่อต่างๆ มีการสื่อสารออกมาข้อมูลชุดเดียวและช่องเดียว มีเวลาที่แน่นอนในการให้ข้อมูลออกมา
“ส่วนตัวอยากถอดบทเรียนท้องถิ่นที่ยังคงมีอุปสรรคในการบริหารจัดการท่ามกลางสภาวะโรคระบาดเพื่อดูว่ามีปัญหาด้านใดเกิดขึ้น พร้อมหาช่องทางที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดที่จะลดผลกระทบและสามารถช่วยเหลือประชาชน พร้อมๆ กับการพัฒนา รพ.สต. และ อสม. ไปพร้อมกัน” ผศ.ดร.วรัชยา กล่าวทิ้งท้าย

นายกฯหัวเราะลั่น! ไม่ตอบ ‘ชาดา’ ไล่นายกแป้น ออกจากตำแหน่ง
สถาบันพระปกเกล้า มอบ 1 เสน-สิ่งของ ช่วยผู้ประสชบภัยน้ำท่วมภาคใต้
นายกฯ รับมอบชุดของบรรเทาทุกข์จากรัฐบาลญี่ปุ่นผ่านไจก้า ช่วยผู้ประสบภัยภาคใต้
กทม. ย้ำ 4 ภารกิจหลัก ขับเคลื่อน BMA สู่เมืองดิจิทัลเต็มรูปแบบ
รมว.ท่องเที่ยว บอกให้รอดูพิธีเปิดซีเกมส์ 9 ธ.ค. หลังถูกครหาไทยไม่พร้อมจัด

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี