ตั้งแต่ช่วงต้นปี ชาวกรุงเทพมหานคร และสาธารณชนต่างได้เห็นชื่อบรรดาว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.กันมาระยะหนึ่งแล้ว แต่หลังการประกาศวันเลือกตั้งเป็นทางการ ก็มี ว่าที่ผู้สมัครฯ รายอื่นๆ ก็เริ่มทยอยเปิดตัวตามกันมา
จนถึงบัดนี้ ปฏิกิริยาจากสังคมโดยทั่วไปต่อบรรดา ว่าที่ผู้สมัครฯ ก็ยังดูไม่คึกคักฮือฮา หรือโลดแล่นเพราะส่วนใหญ่ ต่างเป็นบุคคลหน้าตาคุ้นเคยกันอยู่ ซึ่งก็ไม่ได้มีความโดดเด่นในเรื่องอุดมการณ์ จุดยืน หรือผลงานที่จับต้องได้ หรือมีผลกระทบในเชิงบวกต่อสังคมต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนพลเมือง และที่สำคัญส่วนใหญ่มิได้มีบทบาทและประสบการณ์ที่เกี่ยวกับการขับเคลื่อนเรื่องหนึ่งเรื่องใด เพื่อให้สังคมมีการเปลี่ยนแปลงและก้าวหน้า จะพอมีความแตกต่างอยู่บ้างก็แค่ คุณรสนา โตสิตระกูล ที่พอจะเรียกได้ว่ามาจากระดับประชาชนรากหญ้า หรือแม้แต่ คุณสกลธี ภัททิยกุลที่เคยออกมาต่อต้านรัฐบาลเผด็จการเสียงข้างมาก แต่ก็เติบโตมาจากชนชั้นปกครอง หรือกลุ่มอภิสิทธิ์ชน
ดูแล้วกลุ่ม ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้ ช่างดูขาดสีสัน พลังดลใจ และความมุ่งมั่นก็เลยทำให้สนามเลือกตั้งกรุงเทพฯ ดูจะหงอยเหงาไม่ตื่นเต้นเท่าที่ควร จึงเป็นที่น่าเสียดายที่ครั้งนี้ ชาว กทม.จะขาดโอกาสที่จะมีตัวให้เลือกที่ดี น่าสนใจ และเป็นความหวัง
แต่อย่างไรก็คงจะไม่ได้หมดหวัง สิ้นหวัง ไปเสียทีเดียว เพราะหลังจากบรรดาว่าที่ผู้สมัครฯ ไปลงทะเบียนและได้การรับรองให้เป็นผู้สมัครฯ อย่างเป็นทางการแล้วชาว กทม. และสาธารณชนโดยทั่วไปก็คงจะได้มีโอกาสได้ยินได้ฟัง ได้อ่านได้เห็นวิสัยทัศน์ ความมุ่งมั่น และความแน่วแน่ของผู้สมัครเหล่านี้ ว่า จะเล็งเห็นและตระหนักในประเด็นปัญหาของกรุงเทพมหานครอย่างไร และจะมีความคิดอ่านแก้ไขประเด็นปัญหาและเสริมสร้างความเจริญก้าวหน้าของกรุงเทพมหานครซึ่งเป็นราชธานีของราชอาณาจักรไทยอย่างไร หรือนัยหนึ่ง บรรดาผู้สมัครฯ จะต้องพิสูจน์ให้เป็นที่ประจักษ์ได้ว่า เขาเหล่านี้มิใช่เหล้าเก่าในขวดใหม่ หากแต่เป็นผลิตภัณฑ์ที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ ทั้งองค์ความรู้และคำมั่นสัญญาที่เป็นจริงเป็นจัง และไม่เพ้อฝันเพ้อเจ้อ ลมๆ แล้งๆ หรือสร้างวิมานในอากาศ โดยจะต้องทำตัวให้เป็นที่ไว้เนื้อเชื่อใจให้ได้ เพราะการเมืองคือเรื่องระหว่างผู้อาสาเข้ามารับใช้บ้านเมือง กับผู้รับและผู้กำกับการบริการรับใช้ คือประชาชนนั่นเอง
อย่างไรก็ดี มีเรื่องที่อยากติงเอาไว้ นั่นคือการเริ่มต้นของว่าที่ผู้สมัครฯ บางคน ที่ดูจะไม่จริงใจกันตั้งแต่เริ่ม เพราะประกาศว่าตนเป็นผู้สมัคร “อิสระ” ทั้งๆ ที่สังคมรู้ๆ กันว่า ไม่ได้เป็นอิสระจริง เนื่องจากมีพรรคการเมือง ขุมอำนาจ หรือกลุ่มผลประโยชน์สนับสนุนหรือกำกับอยู่เบื้องหลัง ทำไมจึงมาเริ่มต้นกันด้วยการพูดกึ่งจริง และกึ่งไม่ค่อยจริงเกี่ยวกับสถานะของตนเอง หรือในอีกมุมหนึ่ง เหตุใด ฝ่ายพรรคการเมือง หรือกลุ่มสนับสนุน จึงไม่กล้าประกาศออกมาให้เป็นที่แน่ชัดว่า สนับสนุน ผู้ใดอยู่ อย่าลืมว่าความคลุมเครือเหล่านี้ ก็เสมือนเป็นการหลอกลวงตัวเอง และสร้างความหมองหม่น ให้กับระบอบประชาธิปไตยไปโดยปริยาย
ผู้ที่จะอาสามาทำงานการเมืองนั้นต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต และมีความกล้าหาญชาญชัย เป็นพื้นฐานจึงสมควรเปิดตัวกันออกมาด้วยความจริง เพื่อเกียรติภูมิและศักดิ์ศรีของตนเอง และเพื่อแสดงความเคารพนับถือต่อประชาชนพลเมือง เพราะมิฉะนั้นแล้วความหมองหม่น และความข้องจิตข้องใจก็ยังจะครอบคลุมสนามการเมือง กทม. ต่อไป เป็นการเฉพาะ และต่อบรรยากาศการเมืองของประเทศโดยรวม โดยทั่วไปด้วย
ถ้ามั่นใจว่าตนเองมิใช่เหล้าเก่าในขวดใหม่ แล้วจะเหนียมอายกันไปทำไม? จะทำตัวเป็นอีแอบกันไปทำไม?
สังคมไทยบอบช้ำกับการเมืองที่ไร้มาตรฐานมานานปีแล้ว น่าจะถึงเวลาเสียที ที่จะได้เห็นการเมืองที่ใหม่ทั้งเหล้าและขวด และบรรดาว่าที่ผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าฯกทม. ที่เป็นเมืองหลวงของประเทศไทย ก็อยู่ในวิสัยที่จะนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงนี้ได้
บรรดาว่าที่ผู้สมัครฯ ทั้งหมดนี้ ต่างได้เคยไปร่ำเรียน หรือไม่ก็ไปดูงาน เจรจา หารือ หรือท่องเที่ยวในต่างประเทศกันมาทั้งนั้น ก็น่าจะได้เห็นความแตกต่างระหว่างกรุงเทพมหานครของเรา กับเมืองหลวงอื่นๆ หรือเมืองใหญ่อื่นๆ จึงถือว่าไม่มีผู้ใดที่จะขาดองค์ความรู้เชิงเปรียบเทียบ
แต่จะมีความต่างกันก็ตรงความจริงใจ ความเอาจริงเอาจัง ความมุ่งมั่น และความซื่อสัตย์สุจริตต่อประชาชนพลเมือง และต่อสังคมโดยทั่วไปเท่านั้น ที่จะใช้ในการเอาชนะใจชาวกรุงเทพมหานคร
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี