การประชุมกลุ่มนาโตล่าสุดในระดับรัฐมนตรีกลาโหม ซึ่งได้เชิญประเทศนอกนาโตเข้าร่วมประชุมด้วยรวมเป็น 40 ประเทศ ในจำนวนนี้มีญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เข้าร่วมประชุมด้วย ที่ประชุมมีมติให้นาโตขยายบทบาทครอบคลุมถึงอินโด-แปซิฟิก ซึ่งสอดรับกับยุทธศาสตร์ อินโด-แปซิฟิก ของสหรัฐ
หมายความว่าความร่วมมือทางการทหารของนาโตจะไม่จำกัดอยู่เฉพาะยุโรปเท่านั้น แต่จะขยายครอบคลุมมาถึงภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก คือตั้งแต่มหาสมุทรอินเดีย กลุ่มอาเซียน และมหาสมุทรแปซิฟิกด้วย
สำหรับภูมิภาคอาเซียนนั้น สหรัฐได้ประกาศแกนหลัก 6 ประเทศ ประกอบด้วย สหรัฐ อังกฤษ ออสเตรเลีย ไทย ญี่ปุ่น และฟิลิปปินส์ ซึ่งโดยภูมิยุทธศาสตร์ในการต่อต้านและทำสงครามกับจีนนั้น ประเทศไทยจะมีสภาพเป็นกองทัพหน้าที่จะต้องเป็นสนามรบ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่ประเทศไทยจะต้องสำเหนียกสังวรไว้ให้มากที่สุด
นับตั้งแต่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ลงนามเข้าร่วมเป็นพันธมิตรตามยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก เมื่อปี 2562 และได้ยกระดับความร่วมมือเป็นหุ้นส่วนทาง
ยุทธศาสตร์ที่จะร่วมมือด้านความมั่นคงอย่างทั่วด้านแล้วปฏิบัติการหลายสิ่งหลายอย่างก็เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ถึงแม้ว่ากระทรวงการต่างประเทศจะได้แถลงว่ายุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิกนั้น เป็นเรื่องที่สหรัฐทำขึ้นและแถลงเอาแต่ฝ่ายเดียว ไม่มีผลผูกพันประเทศไทย แต่นั่นก็เป็นเพียงคำพูดซึ่งจะต้องดูที่การกระทำเป็นหลักและดูถึงการปฏิบัติของคู่กรณีคือสหรัฐและ 6 ประเทศหลักของแกนอาเซียนด้วยว่าได้ดำเนินการไปเป็นประการใด
เพราะหลังจากนั้นประเทศไทยก็ได้ลงนามความร่วมมือด้านความมั่นคงอย่างน้อยเท่าที่ปรากฏข่าวก็มีถึง 2 ฉบับ คือความร่วมมือด้านความมั่นคงกับอังกฤษและสิงคโปร์ ซึ่งอังกฤษนั้นก็คือ 1 ใน 6 ประเทศแกนหลักของภูมิภาคอาเซียนและสิงคโปร์ก็คือสมุนบริวารของสหรัฐ ซึ่งเป็นที่รู้กันโดยทั่วไป
จะต้องตระหนักด้วยว่าถ้าหากเป็นการเข้าร่วมในการต่อต้านหรือเตรียมที่จะทำสงครามกับจีนก็อย่าได้เข้าใจว่าเป็นการต่อต้านและทำสงครามกับจีนประเทศเดียวแต่ย่อมต้องหมายถึงพันธมิตรของจีนด้วย นั่นคือรัสเซีย อิหร่าน เกาหลีเหนือ พม่า ลาว กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย และอีกหลายประเทศ ซึ่งในปัจจุบันนี้อาจต้องรวมถึงกลุ่มอาหรับที่เพิ่งเปลี่ยนขั้วไปร่วมมือกับรัสเซียและจีน
เฉพาะในภูมิภาคอาเซียนนี้เมื่อพม่า ลาว กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย เป็นพันธมิตรของรัสเซีย จีน อิหร่านและเกาหลีเหนือแล้ว โดยสภาพก็ปรากฏชัดว่าประเทศไทยอยู่ในวงล้อมและถ้าหากประเทศไทยต้องเป็นสมรภูมิก็จะต้องรับศึกทั่วทิศ
ดังนั้นการที่ประเทศนาโตมีมติขยายบทบาทมาถึงอินโด-แปซิฟิกด้วย จึงเป็นการประกาศย้ำเตือนว่าสหรัฐ อังกฤษ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น จะขยายบทบาทครอบงำและดำเนินการหลายสิ่งหลายอย่างเพื่อต่อต้านจีนหรือเตรียมทำสงครามกับจีน
เพียงเท่าที่ปรากฏในขณะนี้ก็เห็นชัดแล้วว่าความตึงเครียดทางการทหารได้เกิดขึ้นโดยรอบบ้านของประเทศไทยทั้งระยะใกล้และระยะไกล ทำให้สภาพความร่มเย็นเป็นสุขและการพัฒนากำลังชะงักงันโดยทั่วไป และประเทศต่างๆ กลับต้องเตรียมความพร้อมหรือกระชับแสนยานุภาพทางการทหารและนำไปสู่ความไม่ไว้วางใจกัน
พม่ามีกำลังทหาร 400,000 คน มีอาวุธยุทโธปกรณ์อยู่ในแนวหน้าสุดของอาเซียน มีกองทหารจีนเข้ามาช่วยดูแลท่อแก๊สของจีนที่วางตั้งแต่รัฐยะไข่ไปจนถึงยูนนานนับแสนคน และจีนยังย้ายกำลังทหารมาตั้งที่มองโกเลียในอีก 500,000 คน พร้อมที่จะเคลื่อนพลเข้าช่วยพม่าถ้าหากว่าพม่าต้องทำสงครามหรือมีต่างชาติรุกเข้าพม่า ในขณะที่จีนก็ได้สร้างฐานทัพขึ้นที่รัฐยะไข่และทวาย เพื่อระมัดระวังป้องกันภัยให้กับพม่า
ในขณะที่พม่าเองก็กำลังมีสงครามกลางเมืองระหว่างรัฐบาลพม่ากับฝ่ายกบฏที่ได้รับการหนุนหลังจากฝ่ายนาโต โดยเฉพาะจากสหรัฐ อังกฤษ และญี่ปุ่น และขณะนี้ได้เกิดเหตุรุนแรงขึ้นในดินแดนพม่าใกล้ชายแดนไทย ส่อว่าความรุนแรงนั้นอาจจะข้ามแดนมาถึงชายแดนประเทศไทยตั้งแต่กาญจนบุรีไปจนถึงแม่สอด แม่ฮ่องสอน หรือกระทั่งจังหวัดเชียงรายในขณะที่มีผู้ลี้ภัยจากพม่าถูกอพยพเข้ามานับแสนคนในพื้นที่ภาคเหนือ
ประเทศลาวก็ตื่นตระหนกจากที่มีกำลังทหารต่างชาติเข้ามาในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง จึงได้สั่งเตรียมพร้อมทางการทหาร ในขณะที่รัสเซียก็ได้เร่งรีบขยายฐานทัพอากาศในตอนกลางของประเทศลาว ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากอุดรธานีและขอนแก่นของประเทศไทย ก็เห็นได้ชัดว่าเพื่อรับมือกับภัยคุกคามที่ต่างชาติจะเข้ามาใช้ประเทศไทยและกระทบต่อความมั่นคงของลาว
กัมพูชาก็เช่นเดียวกัน ใครๆ ก็รู้ดีว่ากัมพูชาเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุดของจีนประเทศหนึ่ง ได้ร่วมมือกับจีนอย่างทั่วด้าน ทั้งด้านการพัฒนารวมทั้งด้านทหารด้วย และโดยสภาพภูมิยุทธศาสตร์จีนและกัมพูชาก็รู้ดีว่าภัยคุกคามต่อกัมพูชานั้นก็มาจากด้านตะวันออกของประเทศไทยและด้านล่างของอ่าวไทย
ดังนั้นกัมพูชาก็ต้องเตรียมการระมัดระวังตน จึงได้ร่วมมือกับจีนเชิญจีนให้มาตั้งฐานทัพที่สีหนุวิลล์ โดยขยายฐานทัพเดิมของสหรัฐให้มีขนาดใหญ่โตมโหฬาร สามารถรองรับเรือบรรทุกเครื่องบินและเรือดำน้ำขนาดใหญ่ได้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าฐานทัพดังกล่าวนี้จะเป็นพื้นที่ป้องกันภัยคุกคามต่อกัมพูชา ทั้งด้านตะวันออกของประเทศไทยและทางด้านอ่าวไทย
ในขณะเดียวกัน ก็จะมีผลต่อการสกัดกั้นการเคลื่อนไหวทางการทหารที่ถ้าหากสหรัฐจะส่งกำลังบำรุงเข้ามายังประเทศไทย ซึ่งต้องผ่านอ่าวไทยที่เป็นรอยต่อกับกัมพูชา และต้องเข้ามาทางสัตหีบ อู่ตะเภา ดังนั้นการวางแสนยานุภาพของจีนและกัมพูชาขนาดใหญ่ไว้ที่สีหนุวิลล์จึงเป็นการประกบแสนยานุภาพทางการทหารของสหรัฐที่จะมาใช้ดินแดนประเทศไทย
สภาพเช่นนี้ทำให้โดยรอบประเทศไทยมีความตึงเครียด และมีความหวาดระแวงในด้านความมั่นคง ย่อมกระทบต่อการไปมาหาสู่และการค้าขายระหว่างกัน ซึ่งจะเพิ่มความตึงเครียดนี้ตามสถานการณ์ที่ยกระดับขึ้น
ดังนั้นประเทศไทยจะต้องเลือกเอาระหว่างสันติภาพกับสงคราม ถ้าเลือกเอาสันติภาพก็ต้องถอยออกมาให้ไกลจากนาโต 2.เลิกเกี่ยวข้องใดๆ กับยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก ตั้งตนเป็นมิตรไมตรีกับทุกประเทศ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะวันนี้ก็เห็นกันชัดๆ ว่ามีคนขายชาติขายแผ่นดินและเป็นไส้ศึกให้กับต่างชาติในการชักลากประเทศไทยเข้าสู่ความขัดแย้งและสงครามที่น่าตระหนกตกใจยิ่ง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี