ที่แห่แหนผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. มากกว่าใครเพื่อน คือนายทักษิณ ชินวัตร
ออกหน้าออกตายิ่งกว่าได้ลูกเขย!
1. นายทักษิณ ชินวัตร ผู้หลบหนีโทษจำคุกคดีทุจริต รอกลับบ้านแบบไม่ติดคุก ถึงขนาดออกมาปรามาส ดูแคลน หยามหมิ่นพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าหมดสภาพแล้ว ไปไม่ถึงเอเปก ถึงเวลาถอยให้บ้านเมืองเดินหน้า เพื่อไทยแลนด์สไลด์แน่นอน ฯลฯ
ไม่ยักพูดถึงเลือกตั้งซ่อมที่ฝ่ายรัฐบาลชนะ
หรือแม้แต่เลือกตั้งนายกพัทยา คนที่ฝ่ายรัฐบาลสนับสนุนก็ชนะ
2. นายสุริยะใส กตะศิลา คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต วิเคราะห์ผลการเลือกตั้ง ผู้ว่าฯกรุงเทพมหานคร ว่าด้วยเรื่อง “ผลเลือกตั้ง กทม. …การเมืองว่าด้วยความเป็นอิสระของผู้ว่าฯ ชัชชาติ”
เนื้อหาบางส่วน ระบุว่า
“...การประเมินผลการเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่ว่าจะมาจากสำนักคิดหรือขั้วการเมืองใดก็ตาม ยังอยู่ในกรอบเดิม คือ การใช้กรอบประชาธิปไตย เผด็จการ ก้าวหน้า อนุรักษ์นิยม หรือเอาไม่เอารัฐบาล
ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ อาจต้องทำความเข้าใจกันใหม่ ผมคิดว่าง่ายไป ถ้าจะใช้กรอบเดิมมาวิเคราะห์จนมองข้าม หรือมองไม่เห็นปรากฏการณ์ที่ซ่อนตัวและก่อรูปก่อร่างจนอาจกลายเป็นปรากฏการณ์ หรือพลังทางการเมืองในอนาคต โดยเฉพาะการเลือกตั้งทั่วไปที่กำลังจะมาถึง
เพราะถ้าใช้กรอบเก่าประเมินคุณชัชชาติ ไม่น่าจะชนะเกิน 8 แสนคะแนน เพราะฐานคะแนนของพรรคเพื่อไทยจริงๆ จากการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปี 2562 อยู่ที่ประมาณ 6 แสน ซึ่งแน่นอนถ้าพรรคเพื่อไทยส่งคนลงแข่งกับคุณชัชชาติ หรือคุณชัชชาติลงสังกัดพรรคเพื่อไทย คะแนนก็จะออกมาอีกแบบ ดังนั้น คะแนนที่เพิ่มมาเป็น 1.3 ล้าน ของคุณชัชชาติครั้งนี้ จึงน่าคิดว่าเป็นคะแนนภายใต้ยุทธศาสตร์แลนด์สไลด์ที่พรรคเพื่อไทย กำลังแคมเปญอยู่ หรือเป็นคะแนนที่มากับตัวตนของคุณชัชชาติ นี่ต่างหากที่ต้องถอดรหัสให้เห็น
ความจริงก่อนตีความเป็นอย่างใดอย่างหนึ่งอย่างน้อยๆ คะแนนกว่า 800,000 คะแนน ของพรรคก้าวไกล (พรรคอนาคตใหม่เดิม) จากการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปี 2562 วันนี้โหวตให้คุณวิโรจน์แค่ 2.5 แสนคะแนน กว่า 5 แสนคะแนนที่หายไป แน่นอนส่วนหนึ่งย้ายไปโหวตให้คุณชัชชาติ แต่คนกลุ่มนี้ยังยินดีเทคะแนนให้ สก.พรรคก้าวไกล เข้าป้าย 15 คน ไม่ได้ย้ายไปโหวต ผู้สมัคร สก.ของพรรคเพื่อไทย แต่อย่างใด
เช่นเดียวกันคะแนนนิยมของอีกปีก หรือฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลก็ย้ายฐานไปที่คุณชัชชาติไม่น้อยเหมือนกัน อิงจากคะแนนเลือกตั้งปี 2562 พปชร. รวมกับ ปชป.มีกว่า 1.25 ล้านคะแนน แต่เมื่อรวมคะแนนคุณสุชัชวีร์ คุณสกลธี และ คุณอัศวิน รวมประมาณ 7 แสนคะแนน หายไป 5 แสนคะแนน แน่นอนว่า บางส่วนย้ายไปโหวตคุณชัชชาติ
นั่นชัดเจนว่า ตัวคุณชัชชาติ และความเป็นชัชชาติ มีคะแนนอาจจะมากพอๆ กับคะแนนของพรรคเพื่อไทยด้วยซ้ำ
ผมคิดว่า ตัวตนของคุณชัชชาติ ที่พยายามขายความเป็นอิสระ ท่ามกลางความเคลือบแคลงสงสัยของสังคม ว่า ไม่ใช่อิสระจริง แต่ก็ต้องยอมรับว่า คุณชัชชาติ สงวนท่าทีและวางท่วงทำนองได้อย่างมีระยะห่างพอสมควร จากการกอดรัดฟัดเหวี่ยงของพรรคเพื่อไทย
เรียกได้ว่า สามารถรักษาความเป็นอิสระบางระดับได้จนนาทีสุดท้ายก่อนเข้าเส้นชัย
อย่างไรก็ตาม จากนี้ไปเรื่องของ “การบ้าน” ผมมีความเชื่ออยู่ลึกๆ ว่า คุณชัชชาติจะทำหลายๆ อย่างได้ตามนโยบายไม่ช้าก็เร็วเพราะประสบการณ์ความรู้ความสามารถสูงและเตรียมตัวมาพร้อม ที่สำคัญ คะแนนเสียงท่วมท้นแบบนี้ มันบีบให้ข้าราชการประจำและทุกองคาพยพของ กทม.ต้องปรับตัวตามนโยบายของผู้นำคนใหม่
แต่ส่วนที่เป็น “การเมือง” ต่างหาก อาจจะทำให้คุณชัชชาติปวดเศียรเวียนเกล้า ด้วยเหตุที่ด้านหนึ่งยังพยายามจะรักษาความเป็นอิสระหรือเป็นผู้ว่าฯของทุกคนไม่ใช่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่ในขณะเดียวกันนั้น ด้านหนึ่งคุณชัชชาติก็ถูกแขวนป้ายใส่หมวกตลอดเวลา ว่า เป็นคนของเพื่อไทยและฝ่ายโน่นฝ่ายนี่ตลอดเวลา
มันก็น่าคิดไม่น้อย เพื่อไทยชูยุทธศาสตร์แลนด์สไลด์ แต่คุณชัชชาติกลับชูความเป็นอิสระ ช่างย้อนแย้งกันเองในตัว ดังนั้น จึงยากเหมือนกันที่จะประกาศว่า 1.3 ล้านคะแนน เป็นบันไดขั้นที่หนึ่งของยุทธศาสตร์แลนด์สไลด์เลือกตั้งใหญ่ทั่วประเทศ
จากนี้ไปความคิดทางการเมืองของคุณชัชชาติ จะกำหนดบทบาทและพฤติกรรมคุณชัชชาติ จะต่อยอดก่อรูปก่อร่างเป็นกลุ่มก้อนการเมืองสายที่สาม ข้ามสีหนีความขัดแย้ง และฝ่าข้ามการเมืองที่จองจำด้วย 2 ขั้วเดิมหรือไม่ หรือแค่ลับลวงพรางกลยุทธ์รุกรบใหม่ในสมรภูมิเดิม ไม่นานคำตอบจะปรากฏ
ดังนั้น บนบัลลังก์ผู้ว่าฯ กทม.คุณชัชชาติ ต้องออกแรงหนักพอสมควรในการบริหารทั้งการบ้านและการเมือง จะชอบหรือไม่ชอบก็ตาม แต่นี่เป็นวิถีแห่งการเมืองที่เต็มไปด้วยอำนาจและผลประโยชน์…”
3. นายสันติสุข มะโรงศรี พิธีกรช่องท็อปนิวส์ วิเคราะห์ลงรายละเอียด และตั้งข้อสังเกตว่า ก้าวไกล ต้องหันไปสู้กับเพื่อไทย? ระบุว่า
“ก้าวไกล ต้องหันไปสู้กับเพื่อไทย?
เลือกตั้งใหญ่ (บัตรสองใบ) ต่างจากเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. และ สก.?
คะแนนเลือกตั้ง สก. สะท้อนชัดว่า ประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิ เลือกผู้สมัครพรรคเพื่อไทย ราว 1 ใน 4 (หกแสนสองหมื่นคน) ตามมาด้วยพรรคก้าวไกล (เกือบห้าแสนคน)
ข้อสังเกตแรก เขตที่ก้าวไกลไม่ชนะ เกือบทุกเขต ก้าวไกลก็ยังมีคะแนนมากเป็นลำดับที่สอง ย้ำ เกือบทุกเขต เขตเหล่านี้ ถ้าก้าวไกลดึงคะแนนมาจากเพื่อไทยได้ คะแนนบวกลบไปกลับ ก้าวไกลพลิกชนะได้ไม่ยาก
ข้อสังเกตที่สอง ดังที่อธิบายไปในสองโพสต์ที่แล้ว
คนเลือก สก.ปชป. เกือบแสนคน ที่กาบัตรอีกใบให้ผู้ว่าฯ ไม่สังกัดพรรค
คนเลือก สก.ก้าวไกล สองแสนกว่าคน ที่กาบัตรอีกใบให้ผู้ว่าฯ ไม่สังกัดพรรค
คนเลือก สก.พปชร.สองแสนกว่าคน กาบัตรเลือกผู้ว่าฯ ต่างกันไปเพราะ พปชร.ไม่ส่ง เสียงแตก
ขณะที่คนเลือก สก.เพื่อไทย หกแสนกว่าคน กาบัตรเลือกผู้ว่าฯ คนเดียวกันเกือบหมด เพราะต่างรู้อยู่แก่ใจตรงกันว่าคนที่ลงอิสระนั้น คือคนของเรา
แม้เลือกตั้งใหญ่ที่จะมาถึง บัตรสองใบเหมือนกัน แต่จะต่างจากการเลือก สก. กับผู้ว่าฯ
เพราะเลือกตั้งใหญ่ ใครกา สส. เขต พรรคไหน ส่วนใหญ่จะกาบัญชีรายชื่อของพรรคนั้น เพื่อให้พรรคที่ตนสนับสนุนได้ สส. มากๆ หวังจะได้เป็นรัฐบาล และไม่มีนายกฯ อิสระ ดังนั้น จะไม่มีการเทไปเลือกชัชชาติจนแต้มทะลุเพดานฐานเสียงของเพื่อไทยแบบนี้
การเมืองสนาม กทม. เปลี่ยนแปลงได้เสมอ ตามข้อมูลข่าวสาร”
สรุปแล้ว การเมืองของคนที่หนีคดีโกง อยากกลับบ้าน กับการเมืองของคนที่อยู่ในประเทศ และอยากเห็นบ้านเมืองสงบสุข เดินต่อไปข้างหน้า ไม่วนกลับไปติดหล่มเดิมๆ อีก ดูกันต่อยาวๆ
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี