คนเรามีเพศโดยกำเนิดสองเพศ คือชายและหญิงแต่ก็ไม่มีใครกำหนดแน่นอนตายตัวว่า คนที่เกิดมาเป็นเพศหนึ่งจะต้องดำรงชีวิตอยู่ในเพศที่ถือกำเนิดมาไปจนตลอดชีวิต เพราะว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่เกิดมาเป็นเพศหนึ่ง แต่ต้องการจะดำรงชีวิตในเพศที่ต่างไปจากตอนที่กำเนิด ซึ่งถือเป็นสิทธิ์โดยชอบธรรมของเขาเหล่านั้น ตราบเท่าที่เขาเหล่านั้นไม่ได้ทำตัวเป็นภัยอันตรายต่อสังคมที่เขาใช้ชีวิตอยู่
คนบางคนเกิดมามีอวัยวะเพศชาย แต่ไม่พึงใจในเพศสภาพของตน คนกลุ่มนี้อาจจะไม่ต้องการเก็บรักษาเครื่องเพศดั่งเดิมของตนไว้ เพราะเห็นว่าเป็นสิ่งแปลกประหลาดของตนเอง เนื่องจากเขาผู้นั้นไม่ต้องการมีเครื่องเพศชนิดดังกล่าวอยู่กับตัวเอง ก็จึงไปตัด หรือไปดัดแปลงเครื่องเพศให้เป็นไปตามที่ตนเองต้องการ ก็เป็นสิทธิ์ของเขา แต่เมื่อเขาเปลี่ยนแปลงเครื่องเพศของตนเองแล้ว เขาจะขอเปลี่ยนคำนำหน้านามเป็นเพศใหม่ได้หรือไม่ ก็ต้องตอบว่าตามข้อบังคับของกฎหมายไทยในปัจจุบันยังไม่สามารถเปลี่ยนได้ แต่ไม่สามารถตอบได้ว่าในอนาคตจะมีการแก้ไขกฎหมายนี้หรือไม่ ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับความต้องการของคนส่วนใหญ่ในสังคม
ขอย้ำว่าการที่คนเกิดมาเป็นชายแล้วจะเปลี่ยนเป็นหญิง หรือเกิดมาเป็นหญิงแล้วจะเปลี่ยนเป็นชายเป็นเรื่องผิดกฎหมายหรือไม่ ตอบได้ทันทีว่าไม่ผิดกฎหมาย แต่หากจะถามว่าแล้วเป็นเรื่องเหมาะควรหรือไม่ ก็ต้องตอบว่า ก็ขึ้นอยู่กับการยอมรับของแต่ละครอบครัว และแต่ละสังคม เพราะบางครอบครัวยอมรับได้ และเต็มใจยอมรับ แต่บางครอบครัวก็ปฏิเสธเรื่องนี้ ซึ่งถามว่าครอบครัวมีสิทธิ์ไม่ยอมรับเรื่องเหล่านี้ไหม ก็ต้องตอบว่า ก็ขึ้นอยู่กับการเปิดใจยอมรับของแต่ละครอบครัว
คราวนี้มาพูดถึงการอยู่กินร่วมกันฉันสามีภรรยาหรือฉันคนรักในเชิงการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างคนเพศเดียวกัน เรื่องนี้มีปรากฏมาตั้งแต่โบราณกาลแล้ว แต่เรื่องพรรค์อย่างนี้ไม่สามารถเปิดเผยได้มากนักในยุคอดีต เนื่องจากการยอมรับของสังคมในสมัยก่อนยังจำกัดอยู่ แต่ก็ต้องยอมรับว่าเรื่องนี้มีมานานมากแล้ว แต่อาจเป็นการกระทำแบบรับรู้กันเอง หรืออาจจะต้องแอบๆ ซ่อนๆ ทำกัน
แต่มายุคนี้สมัยนี้การจัดงานแต่งงานกันระหว่างคนเพศเดียวกันเป็นเรื่องที่พบเห็นได้บ่อยๆ ในหลายประเทศ แต่ขณะเดียวกันก็อาจจะไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการในบางประเทศ แต่ก็มีการอยู่กินร่วมกันของคนเพศเดียวกันในสังคมโลกยุคปัจจุบัน แต่บางคนบอกว่าไม่จำเป็นต้องประกาศให้ใครอื่นรับรู้เรื่องราวของตนเอง เพราะพอใจที่จะอยู่กันฉันคนรักกัน โดยไม่จำเป็นต้องมีพิธีใดๆ ที่เอิกเกริก แต่บางคนก็๋ต้องการประกาศให้สาธารณชนได้รับรู้ว่าเขาทั้งสองอยู่ร่วมกันโดยจัดทำพิธีการเหมือนกันการแต่งงานของคนต่างเพศ
การมีกฎหมายรองรับการอยู่กินด้วยกันฉันสามีภรรยาของคนเพศเดียวกันจะทำให้สังคมไทยได้ประโยชน์มากกว่าเดิมหรือไม่ เป็นสิ่งที่ต้องติดตามดูกันต่อไปในอนาคต การมีกฎหมายเช่นนี้ออกมาแล้วจะทำให้คนเพศเดียวกันที่ประกาศอยู่กินด้วยกันฉันสามีภรรยาสามารถอยู่กันได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่เรื่องนี้ก็ต้องติดตามดูกันต่อไป การมีกฎหมายนี้แล้วทำให้คนเพศเดียวกันที่อยู่กันฉันสามีภรรยาได้รับสิทธิ์และได้รับสวัสดิการจากสังคมมากกว่าเดิมหรือไม่ เรื่องนี้ก็ต้องดูกันต่อไป แต่มีคำกล่าวหนึ่งที่น่าสนใจคือ ความรักไม่ได้มีเงื่อนไขอยู่บนข้อกฎหมายแล้วข้อกฎหมายก็ไม่เคยทำให้คนที่รักกันสามารถรักกันได้ตลอดไป เพราะหลายคู่ที่จดทะเบียนสมรสกันก็สามารถเลิกราหย่าร้างกันได้ แล้วหลายคู่ที่ไม่มีข้อผูกพันทางกฎหมาย แต่ก็สามารถอยู่รวมกันจนจากลาโลกนี้ไป โดยไม่มีความบาดหมางหรือขัดแย้งใดๆ ดังนั้น กฎหมายจึงไม่ใช่เครื่องยืนยันว่าคนสองคนไม่ว่าจะเพศใดก็ตามจะสามารถอยู่กินกันได้ตลอดรอดฝั่ง แต่ก็ต้องยอมรับว่าการมีกฎหมายรับรองสิทธิ์การสมรสระหว่างบุคคล ก็อาจจะทำให้แต่ละฝ่ายมีสิทธิ์ในการเรียกร้องสิทธิ์ของกันและกันได้อย่างมีหลักมีเกณฑ์มากขึ้น แต่ถึงกระนั้นก็ต้องขอยืนยันเหมือนเดิมว่า กฎหมายไม่ได้ทำให้คู่สามีภรรยาไม่ว่าจะเพศใดก็ตาม อยู่กันได้ตลอดรอดฝั่ง หากคนทั้งสองนั้นหมดความรักต่อกัน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี