ในขณะนี้ การเมืองบ้านเรา ยังพยายามแย่งอำนาจรัฐไปให้หัวหน้าครอบครัวอดีตนายกฯ โกงชาติโกงแผ่นดินแล้วหนีคดีไปอยู่ต่างแดน
เน้นวาทกรรม สาดโคลน ตีกิน ปากหวาน ขายฝัน ไม่สนใจสถานการณ์ความเป็นจริงและความเป็นไปของโลกที่กำลังวิกฤตสาหัส
วันนี้ ลองมาดูโลกกันบ้าง เขากำลังขับเคี่ยวกันอย่างหนัก ระหว่างสองขั้วอำนาจ แล้วไทยเราจะวางตัวอยู่จุดไหน จึงจะได้ประโยชน์แก่ประเทศชาติสูงสุด ปลอดภัยสุด?
1. เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 2565 นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้าร่วมและกล่าวถ้อยแถลงในการประชุมระดับสูงว่าด้วยการพัฒนาของโลก กรอบความร่วมมือ BRICS Plus (BRICS Plus High-Level Dialogue on Global Development) ครั้งที่ 14 (จีนเป็นเจ้าภาพ) โดยย้ำว่า ไทยมุ่งฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างมีเสถียรภาพและยั่งยืน พร้อมผลักดันระบบพหุภาคีให้มีความสมดุลในทุกมิติ
อย่าลืมว่า ก่อนหน้านี้ ไทยเราเพิ่งจะเดินทางไปเยือนสหรัฐอเมริกา พร้อมผู้นำชาติอาเซียน พบปะพูดคุยกับประธานาธิบดีสหรัฐ
2. การคว่ำบาตรรัฐเซีย โดยสหรัฐและพวกยังเดินต่อไป
สงครามรัสเซีย-ยูเครน ยังดำเนินต่อไป
ราคาพลังงานยังขาขึ้นทั่วโลก กดดันเงินเฟ้อโลก หลายประเทศอัตราเงินเฟ้อหลายสิบเปอร์เซ็นต์
ประเทศไทยอยู่ในกลุ่มที่อัตราเงินเฟ้อต่ำสุดของโลก
การประชุม G7 นำโดยสหรัฐ พยายามขับเคลื่อนเล่นงานรัสเซีย และแสดงบทบาทช่วงชิงแข่งขันกับบทบาทของกลุ่ม BRICS อันประกอบด้วย บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ ที่นับวันเพิ่มบทบาททางเศรษฐกิจมากขึ้นอย่างก้าวกระโดด
3. ล่าสุด อิหร่าน และอาร์เจนตินา แสดงจุดยืนสมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่ม BRICS
อิหร่าน อีกหนึ่งผู้มีอิทธิพลในตะวันออกกลาง มีปริมาณก๊าซธรรมชาติสำรองมากสุดอันดับ 2 ของโลก
อาร์เจนตินา ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจมหึมาในอเมริกาใต้ ถ้ารวมกับบราซิลก็คือเกือบทั้งหมดของทวีป
BRICS มีประชากรรวมกันคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 40% ของประชากรโลก
มีขนาดเศรษฐกิจคิดเป็นสัดส่วนถึง 26% ของเศรษฐกิจโลก
ในกลุ่ม BRICS ปัจจุบัน จีนเป็นชาติที่เศรษฐกิจใหญ่ที่สุด คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 70% ของมูลค่าเศรษฐกิจของทั้งกลุ่มรวมกัน ซึ่งอยู่ที่ 27.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
อินเดีย คิดเป็นสัดส่วน 13%
รัสเซียและบราซิล คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 7%
ลองคิดดูว่าถ้ามีสมาชิกจากตะวันออกกลางและอเมริกาใต้เพิ่มเติม จะใหญ่และมีพลังกว่าเดิมขนาดไหน
4. ในระหว่างประชุมกลุ่ม BRICS ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน วิพากษ์มาตรการคว่ำบาตรข่มเหงรังแกของสหรัฐและพวก
ส่วนประธานาธิบดีปูตินของรัสเซีย ก็ตำหนิตะวันตกว่าเป็นผู้ปลุกปั่นวิกฤตโลก
ทั้งผู้นำจีนและรัสเซีย เรียกร้องให้ยกระดับความร่วมมือในกลุ่ม BRICS
ปูตินบอกว่าความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับจีน อยู่ในช่วงที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา และกล่าวถึงความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์กับจีน โดยมีเป้าหมายตอบโต้อิทธิพลของสหรัฐฯ
5. นักวิเคราะห์มองว่า การที่ผู้นำกลุ่ม G7 โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เสนอ “ข้อเสนอว่าด้วยความสัมพันธ์หุ้นส่วนด้านสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานทั่วโลก” หรือ PGII ในที่ประชุมผู้นำฯ โดยกล่าวว่า จะร่วมกับประเทศ G7 มอบเงินทุนจำนวน 600,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แก่การก่อสร้างสิ่งอำนวยความมสะดวกขั้นพื้นฐานของโลก นี่คือการต่อสู้กับ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ของจีนนั่นเอง
ก่อนหน้านี้ ธนาคารโลกคาดว่า หากโครงการสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานด้านการคมนาคมภายในกรอบ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ได้รับการปฏิบัติตามทั้งหมด ภายปี 2030 แต่ละปีจะเกิดรายได้มูลค่า 1.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐแก่โลก คิดเป็น 1.3% ของ GDP ทั่วโลก
ขณะเดียวกัน จีนและ BRICS กำลังเร่งยกระดับไปอีกขั้นแล้ว
ประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน ของรัสเซีย เปิดเผยว่า กลุ่ม BRICS กำลังดำเนินการจัดตั้งทุนสำรองระหว่างประเทศใหม่บนพื้นฐานระบบตะกร้าเงินของประเทศสมาชิก ลดการพึ่งพิงระบบการเงินตะวันตก
พูดง่ายๆ จะลดการพึ่งพาสกุลเงินดอลลาร์
6. โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน ได้โพสต์ภาพลงบนทวิตเตอร์ (ภาพด้านบน) เป็นภาพตัดต่อภาพของบรรดาผู้นำกลุ่มประเทศจี 7 เทียบกับพวกผู้นำกลุ่ม BRICS
พร้อมเขียนคำบรรยายบ่งชี้ว่า กลุ่ม จี 7 มีจำนวนประชากรรวมกัน ที่ 777 ล้านคน ส่วนกลุ่ม BRICS มีประชากรมหาศาลถึง 3,200 ล้านคน
7. นี่คือช่วงเวลาที่การเมืองระหว่างประเทศ ต้องชิงไหวชิงพริบหักเหลี่ยมเฉือนคม รอบคอบรอบด้าน รัดกุม แม่นยำ เดินหมากผิดล้มทั้งกระดานได้อย่างยูเครน ที่บ้านเมืองต้องกลายเป็นสมรภูมิสงคราม เกิดความสูญเสีย ขณะที่สหรัฐและชาติตะวันตกใช้เป็นเสมือนตัวแทนทำสงคราม และขายอาวุธให้
คนจะมาเป็นผู้นำประเทศในยามนี้ จะต้องเสียสละ ไม่มีผลประโยชน์ส่วนตัวทับซ้อน มีประสบการณ์สูง ไม่ใช่ครอบครัวคนโกงหนีคุกจะส่งใครมาเป็นก็ได้
“...บทบาทสำคัญของไทย ในฐานะเจ้าภาพเอเปกและประธานบิมสเทคไทยพร้อมทำหน้าที่เป็น “สะพาน” เชื่อมความร่วมมือระหว่างกัน จาก “มหาสมุทรอินเดียสู่มหาสมุทรแปซิฟิก” เพื่อความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันของประชาชน และคนรุ่นหลังต่อไปด้วย
ผมจึงเชื่อว่า การที่ไทยได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม BRICS Plus จะส่งผลดีต่อประเทศไทยในหลากหลายมิติที่จะตามมาในเร็วๆ นี้ โดยรัฐบาลจะมีการติดตามอย่างต่อเนื่อง ในการแปลงข้อตกลงต่างๆ ออกมาเป็นนโยบายและแผนการค้าการลงทุน ตลอดจนความร่วมมือต่างๆ ในการพัฒนาและฟื้นฟูประเทศในยุคหลังโควิดอย่างเต็มที่ครับ...” - คำกล่าวของนายกฯ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในที่ประชุม กลุ่ม BRICS
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี