ประเด็นถกเถียงว่า การคำนวณ สส. บัญชีรายชื่อ จะหาร 100 หรือหาร 500 ?
ใกล้ถึงเวลาตัดสินใจ
1. รัฐสภามีมติเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่. … ) พ.ศ. …
ให้มีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เพื่อเลือก สส.แบบแบ่งเขต 400 คน และ สส.บัญชีรายชื่อ 100 คน
จากเดิมใช้บัตรเลือกตั้ง 1 ใบ มี สส.แบบแบ่งเขต350 คน และ สส.บัญชีรายชื่อ 150 คน
ประเด็นถกเถียงกัน คือ วิธีการคำนวณคะแนน สส.บัญชีรายชื่อ
2. ฝ่ายที่เสนอให้หาร 500 ยืนยันว่า ข้อเสนอต้องการคงเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญทั้ง 3 ข้อ
คือ สส.พึงมี / คะแนนไม่ตกน้ำ / ระบบจัดสรรปันส่วนผสม
กล่าวโดยสรุป คือ
ให้นำคะแนนพรรคทั่วประเทศหารด้วย 500 เป็นคะแนนเฉลี่ยต่อ สส.พึงมีหนึ่งคน
จากนั้น ไปดูว่าประชาชนลงคะแนนให้แต่ละพรรคกี่คะแนน คิดเป็นจำนวน สส.พึงมีกี่คน แล้วก็คำนวณหาจำนวนสส.บัญชีรายชื่อ โดยเอา สส.พึงมีลบด้วย สส.เขต
ถ้าพรรคไหนได้ สส.เขตมากกว่าสัดส่วนที่ประชาชนลงคะแนนให้ ก็ไม่ได้ สส.บัญชีรายชื่อ
หากพรรคไหนได้ สส.เขตน้อยกว่าสัดส่วนที่ประชาชนทั่วประเทศลงคะแนนให้ (แต่ละเขตอาจแพ้ฉิวเฉียด) คะแนนก็ไม่ทิ้งน้ำ เพราะจะได้ สส.บัญชีรายชื่อเพิ่มเติม จนได้ตามสัดส่วนที่ประชาชนลงคะแนนให้จริงๆ
3. ส่วนข้อเสนอของระบอบทักษิณ แนวทางหาร100 คือ จะไม่มี สส.พึงมี
คะแนน สส.เขตตกน้ำ
ระบบจัดสรรปันส่วน ก็ทิ้งไป
นั่นอาจหมายถึงการละเมิดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญปี 2560
4. ฝ่ายพรรคระบอบทักษิณยืนยันว่า จะต้องหารด้วย 100 เท่านั้น
นายสมคิด เชื้อคง สส.เพื่อไทย ยืนยันว่า จะได้วิธีการคำนวณ สส.บัญชีรายชื่อที่หารด้วย 100 คน ล้านเปอร์เซ็นต์ เพราะหลักการที่เขียนไว้ชัดเจนแล้ว ไม่ว่าจะของ ครม. หรือพรรคต่างๆ ก็เขียนไว้ว่าหารด้วย 100 ทั้งหมด
ฉะนั้น หลักอื่นจะเข้ามาไม่ได้ และก็ไม่อยากไปจำกัดความคิดของพรรคเล็ก เขามีสิทธิที่จะเสนอความคิดเห็นแต่ไม่มีสิทธิที่จะทำได้
5. นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ให้ความเห็นว่า
“...ตามกระแสข่าว จะมีการโหวตร่างแก้ไขกฎหมายลูก ๒ ฉบับ ที่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง และการเลือกตั้ง สส. ในช่วงประมาณ วันที่ ๕ หรือ ๖ ก.ค. นี้ ซึ่งมีประเด็นที่ยังถกเถียงกัน คือ
ฝ่ายหนึ่ง ต้องการเอาคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ หารด้วยร้อยนั่นหมายถึง สส.ปาร์ตี้ลิสต์ จะเป็นของแถมให้พรรคการเมืองใหญ่เหมือนการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญเดิมๆ ก่อนที่มีรัฐประหาร พรรคใหญ่มีเงินซื้อเสียง จะได้ สส.เพิ่มขึ้น ทั้งเขตและปาร์ตี้ลิสต์แถม
ระบบนี้เคยถูกปฏิวัติมาสองรอบ เพราะง่ายต่อการเกิดเผด็จการรัฐสภา ฝ่ายนี้จะอ้างตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๙๑ และพรรคเพื่อไทยต้องการให้เกิดรูปแบบนี้ เพราะมีโอกาสสูงมากที่จะแลนสไลด์ สร้างขวัญกำลังใจให้ทีมงาน
อีกฝ่ายหนึ่ง ต้องการเอาคะแนนปาร์ตี้ลิสต์หารด้วยห้าร้อย เพื่อคำนวณ สส.พึงมีของแต่ละพรรค ถ้าพรรคไหน ได้ สส.จากเขตเลือกตั้งมาก และได้มามากกว่า สส.พึงมีก็จะไม่ได้ สส.ปาร์ตี้ลิสต์เพิ่มขึ้น ฝ่ายนี้จะอ้างเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ที่ยังดำรงอยู่ และอ้างมาตรา ๙๓ และมาตรา ๙๔ ของรัฐธรรมนูญ ที่ไม่มีการแก้ไข
ในรูปแบบนี้ พรรคเพื่อไทยกลัวมาก เพราะนอกจากจะไม่เกิดแลนสไลด์ตามที่โม้ ยังมีโอกาสพรรคต้องแตก ความฝันของทักษิณที่จะดันลูกสาวขึ้นมา น่าจะยากขึ้นมาก ที่สำคัญต้องหาทางแตกพรรคยุ่งยากมากขึ้น
อย่างน้อย พี่น้องประชาชนที่เป็นเจ้าของประเทศ จะได้รับทราบว่า ประเทศไทยของเรา ได้เกิดความวิปริตขึ้นมาจริงๆ ที่ปล่อยให้รัฐธรรมนูญ ที่เป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ มีความขัดแย้งกัน ในแต่ละมาตรา ทั้งแก้แบบเร่งรีบ สุกเอาเผากินเพื่อประโยชน์ของนักการเมือง แต่อ้างประชาชน ดื้อดึงที่เดินหน้าแบบมั่ว
ขนาดรัฐธรรมนูญ เป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศยังกล้าปล่อยให้มั่วๆ แบบนี้ แล้วชีวิตและอนาคตประชาชนจะเป็นอย่างไร”
5. ประชาชนเจ้าของประเทศ ที่ลงประชามติผ่านรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันนี้มา จะไม่มีสิทธิมีส่วนเลือกเลยหรือว่าควรจะคงไว้ซึ่งหลักการ “สส.พึงมี” กับ “คะแนนไม่ทิ้งน้ำ” เพื่อให้พรรคการเมืองมี สส.ตามสัดส่วนของคะแนนที่ประชาชนทั้งประเทศลงคะแนนให้จริงๆ
การที่นายใหญ่ส่งลูกสาวมาเดินเกมพรรคเพื่อไทย คือ การส่งสัญญาณสู้ อันมีผลกระชับอำนาจในเครือข่าย
หากฝ่ายรัฐบาลตัดสินใจเลือก หาร 500 ก็จะเป็นการส่งสัญญาสู้ อันจะมีผลกระชับอำนาจในเครือข่ายทั้งหมดเช่นกัน งานนี้ แลนด์สไลด์อาจได้แค่ฝันค้าง
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี