ย้อนเวลากลับไปก่อนการลงมติในญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และรัฐมนตรีอื่นๆ ในคณะรัฐมนตรีอีก 10 รายที่ นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรพร้อมคณะรวม 186 รายยื่น ที่เรียกกันว่า “ยุทธการเด็ดหัว สอยนั่งร้าน”
นายคารม พลพรกลาง สส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ที่ย้ายมาสังกัดพรรคภูมิใจไทย ได้ยกมือขอหารือกับ ฯพณฯ ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นประธานการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อลงมติญัตติ “ยุทธการเด็ดหัว สอยนั่งร้าน” ว่า “สส. พรรคก้าวไกลนำดอกไม้จันทน์เข้ามาในห้องประชุมสัปปายะสถาน อาคารรัฐสภา ซึ่งเป็นสถานที่ประชุมสส.อันเป็นสถานที่อันทรงเกียรติ ไม่ใช่วัด ไม่ใช่เมรุ โดยนำดอกไม้จันทน์นั้นไปวางไว้หน้าที่นั่งของนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ขอให้ประธานช่วยควบคุมการประชุมให้ดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย”
นายชวน หลีกภัย กล่าวอย่างสุภาพแต่เจ็บร้าวลึกตามสไตล์ “มีดโกนอาบน้ำผึ้งว่า “เป็นพฤติกรรมของแต่ละบุคคล บางเรื่องก็เข้าไปควบคุมไม่ได้ แต่ถ้าผิดข้อบังคับก็ต้องควบคุม แต่บางครั้งเรื่องที่เกี่ยวกับคุณธรรมจริยธรรมก็ควบคุมยาก” นายชวนอาจจะอยากพูดว่า เป็นเรื่องของสามัญสำนึก เป็นเรื่องของสมบัติผู้ดี และกาลเทศะหรืออาจจะเป็นเรื่องการอบรมสั่งสอนของบุพการีพ่อแม่ก็เป็นได้ แต่ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษการเมือง เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่น่านับถือของสังคมไทยจึงให้คำอธิบายเหตุการณ์ที่ นายคารมหารือได้เพียงแค่นั้น
“คุณธรรมจริยธรรม”ที่นายชวน หลีกภัย กล่าวถึงนั้น ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตนั้นให้คำจำกัดความไว้ว่า “เป็นคำที่คนส่วนใหญ่จะกล่าวควบคู่กันเสมอ จนทำให้เข้าใจผิดได้ว่า คำทั้งสองคำมีความหมายอย่างเดียวกันหรือมีความหมายเหมือนกัน แท้ที่จริงแล้วคำว่า “คุณธรรม” กับคำว่า “จริยธรรม” เป็นคำแยกออกได้ 2 คำ และมีความหมายแตกต่างกันคำว่า “ คุณธรรม” แปลว่า ความดี เป็นคำที่มีความหมายเป็นทางนามธรรม ส่วน “จริยธรรม” แปลว่า ความประพฤติกิริยาที่ควรประพฤติเป็นคำที่มีความหมายทางรูปธรรม จึงสมควรทำความเข้าใจความหมายของคำทั้งสองนี้เสียก่อน”
ขณะที่สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) หรือที่พุทธศาสนิกชนไทยรู้จักกันในนามป.อ. ปยุตฺโต เจ้าอาวาสวัดญาณเวศกวัน นครปฐม เปรียญธรรม 9 ประโยค พธ.บ.(เกียรตินิยมอันดับ1) คนไทยคนแรกที่ได้รับรางวัลการศึกษาเพื่อสันติภาพ จากยูเนสโก กล่าวไว้ว่าคุณธรรมเป็นภาพของจิตใจกล่าวคือคุณสมบัติที่เสริมสร้างจิตใจให้ดีงาม ให้เป็นจิตใจที่สูง ประณีตและประเสริฐ ทั้งเมตตา, กรุณา, มุทิตา, อุเบกขา ส่วน “กาลเทศะนั้นพจนานุกรมหมายถึง ความเหมาะไม่เหมาะเกี่ยวกับเวลาและสถานที่ที่จะทำการ” ขณะที่ “สมบัติผู้ดี หมายถึง มารยาทของผู้ที่มีความประพฤติดีทั้งทางกาย วาจา และความคิด ที่ภาษาอังกฤษใช้คำว่า gentlemanly conduct, etiquette, code of conduct, decorum, manners
ครั้งนี้ไม่ใช่พฤติกรรมที่ท่านผู้มีเกียรติจากพรรคก้าวไกลแสดงพฤติกรรมไม่รู้กาลเทศะเยี่ยงนี้ในการอภิปรายญัตติสำคัญๆ ในสัปปายะสถานแห่งนี้ อย่างนี้ไม่น่าใช่พฤติกรรมเสียแล้ว สมควรใช้คำว่า “สันดาน” น่าจะเหมาะสมถูกต้องสมควรกว่า เพราะกระทำต่างกรรมต่างวาระซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี