การทำตามกฎระเบียบเป็นเรื่องสำคัญและจำเป็นในสังคมทุกสังคม หากสังคมใดไม่มีกฎ ไม่มีระเบียบสังคมนั้นต้องประสบความวุ่นวายโกลาหล และอาจจะถึงขึ้นวิกฤตกลียุคได้ หรือหากสังคมใดมีกฎระเบียบ แต่ทว่าผู้คนในสังคมนั้นไม่เคารพกฎระเบียบ สังคมนั้นก็บังเกิดความโกลาหลได้เช่นกัน
มีคำถามว่า กฎระเบียบเขียนขึ้นเพื่อลิดรอนสิทธิเสรีภาพของผู้คนในสังคม ใช่หรือไม่ คำตอบคือ ไม่ใช่ หากกฎระเบียบนั้นเกิดขึ้นมาจากความเห็นชอบโดยเสรี และเต็มใจของสมาชิกส่วนใหญ่ในสังคม แต่ในมุมกลับกัน กฎระเบียบที่เกิดจากอำนาจเผด็จการ ก็คือการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของผู้คนสังคมได้ เพราะกฎระเบียบที่ออกโดยเผด็จการ เป็นสิ่งที่ออกมาเพื่อกดขี่ บีบบังคับผู้คนในสังคมนั้นให้ต้องทำตามอำนาจหรือคำสั่งของเผด็จการ โดยที่ผู้คนที่เป็นสมาชิกของสังคมไม่ได้เห็นดีเห็นงามด้วย
การที่มีคนสอนหนังสือจำนวนหนึ่ง (14 ราย)ในคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำหนังสือถึงคณบดี คณะนิติศาสตร์ จุฬาฯ โดยมีใจความสรุปได้ว่า การไม่แต่งเครื่องแบบที่มหาวิทยาลัยกำหนดไว้ ไม่ได้เป็นอุปสรรคใดๆ ต่อการเรียนหนังสือจึงควรให้นิสิตแต่งเครื่องแบบหรือแต่งชุดอื่นๆ ที่สุภาพเข้าเรียนได้ในวิชาที่คนสอนหนังสือกลุ่มนี้เป็นผู้บรรยาย
น่าสนใจมากที่มีประเด็นนี้เกิดขึ้นในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงนั้น นิสิตของจุฬาฯ บางคนก็ไม่ได้แต่งเครื่องแบบนิสิตในการเข้าห้องเรียนมาเป็นระยะเวลานานแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นไปตามความเหมาะสม และความตกลงร่วมกันระหว่างนิสิตกับผู้บรรยายแต่ละคนในแต่ละคณะ ซึ่งบางคณะมีความเข้มงวดมากกับการกำหนดให้นิสิตต้องแต่งเครื่องแบบที่ถูกต้องตามระเบียบทุกครั้งเมื่อต้องเข้าฟังคำบรรยาย และเข้าสอบ แต่สำหรับบางคณะนั้น ผู้บรรยายก็อะลุ้มอล่วยให้นิสิตโดยดูตามความจำเป็นและเหมาะสมของสถานการณ์ แต่ก็ไม่เคยมีคนสอนหนังสือในจุฬาฯ รายใดถึงกับลงนามในจดหมายแล้วส่งถึงคณบดี ว่าตนเองในฐานะผู้บรรยายตามรายวิชาต่างๆ อนุญาตให้นิสิตไม่ต้องสวนเครื่องแบบนิสิตเข้าฟังการบรรยายได้
ถามว่าการที่คนสอนหนังสือกลุ่มนี้ ในคณะนิติศาสตร์ จุฬาฯ ลงนามในจดหมายเพื่อแจ้งคณบดีในครั้งนี้ เป็นการกระทำที่ขัดกับกฎระเบียบของมหาวิทยาลัยหรือไม่ แล้วคณะผู้บริหารระดับสูงสุดมหาวิทยาลัยซึ่งเป็นต้นสังกัดของคณะต่างๆ ทุกคณะในจุฬาฯ จะมีปฏิกิริยาใดกับจดหมายฉบับดังกล่าวหรือไม่ หรือจะอ้างว่าเป็นเรื่องภายในของแต่ละคณะ โดยมหาวิทยาลัยไม่รับรู้ ไม่รับทราบ
มีผู้ตั้งคำถามว่า อะไรคือฐานคิดที่ใช้เป็นข้ออ้างของคนสอนหนังสือทั้ง 14 คนที่ลงนามในจดหมายถึงคณบดี คณะนิติศาสตร์ โดยอ้างว่าการสวมเสื้อผ้าด้วยชุดใดก็ตามที่สุภาพ ไม่ใช่สาระสำคัญที่ทำให้เป็นอุปสรรคขัดขวางการเรียนหนังสือในจุฬาฯ เพราะสวมชุดอะไรที่สุภาพก็สามารถเรียนได้ หากคนทั้ง 14 คนอ้างเช่นนี้ ก็ทำให้มีคำถามกลับว่า แล้วการสวมชุดนิสิตเป็นอุปสรรคอันใดกับการเรียนหนังสือในจุฬาฯ หรือ หรือว่าการสวมชุดนิสิตทำให้เสียความมั่นใจ ทำให้สมองไม่สามารถเปิดรับการเรียนได้ดีกว่าการสวมชุดอื่นๆ หรือจะบอกว่าสวมชุดอื่นๆ แล้วเข้าฟังการบรรยายทำให้สอบได้คะแนนดีกว่าการสวมชุดนิสิต
อันที่จริงคนสอนหนังสือในคณะนิติศาสตร์ จุฬาฯ ทั้ง 14 คน น่าจะต้องคิดก่อนลงนามในจดหมายที่ส่งถึงคณบดีว่าจุฬาฯ มีกฎระเบียบการสวมชุดนิสิตไว้อย่างไร หรือคนสอนหนังสือจะอ้างว่าไม่สนใจกฎระเบียบหรืออ้างว่าไม่รู้ว่ามีกฎระเบียบของการสวมชุดนิสิตในการเรียน และการทำกิจกรรมที่เป็นทางการของมหาวิทยาลัย
มีคำถามต่อไปว่า การสวมชุดนิสิตในการเข้าฟังคำบรรยายภายในจุฬาฯ เป็นเรื่องน่าอับอายน่ารังเกียจ น่าเวทนา กระนั้นหรือ หรือการสวมชุดนิสิตทำให้ต้องสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายในการแต่งกายมากกว่าการสวมชุดอื่นๆ เพราะชุดนิสิตจุฬาฯ มีราคาที่ทำให้ผู้สวมต้องจ่ายเงินมากกว่าการซื้อเสื้อผ้าชุดอื่นๆ มาสวมหลายเท่า
คนสอนหนังสือทั้ง 14 คนคิดบ้างไหมว่า หากในวันหนึ่งมีการเรียนในคณะหรือนอกคณะก็ตามมากกว่า 2 วิชา แล้วบังเอิญวิชาอื่นๆ นั้น ผู้บรรยายไม่อนุญาตให้นิสิตสวมชุดอื่นนอกจากชุดนิสิตเข้าชั้นเรียน หากเป็นแบบนี้จะแก้ปัญหาอย่างไร หรือก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของนิสิตที่จะไปแก้ปัญหาเอาเอง ด้วยการนำชุดนิสิตไปเปลี่ยนเมื่อต้องเข้าฟังคำบรรยายในรายวิชาที่คนสอนหนังสือวิชาอื่นกำหนดว่าต้องสวมชุดนิสิต
และคนสอนหนังสือทั้ง 14 คน จะบอกกับผู้คนที่ต้องขึ้นศาลอย่างไร เพราะศาลมีกฎระเบียบการแต่งกายเมื่อเข้าไปในศาล จะบอกว่าไม่ต้องสนใจการแต่งกายตามที่กฎระเบียบของศาลกำหนดไว้ใช่หรือไม่ เพราะแต่งกายอย่างไรก็ขึ้นศาลได้อยากรู้ว่าคนสอนหนังสือทั้ง 14 คน ในคณะนิติฯ จุฬาฯ จะตอบเรื่องแต่งกายขึ้นศาลด้วยหรือไม่เพราะหากยึดหลักเดียวกับการไม่ต้องแต่งชุดนิสิตเข้าฟังคำบรรยายในชั้นเรียน ก็น่าจะใช้หลักเกณฑ์เดียวกันกับการแต่งกายขึ้นศาลด้วย กระมัง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี