อดีตนายกรัฐมนตรีสองพี่น้องของประเทศไทยกับอดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ประเทศเพื่อนบ้านทุจริตทางนโยบายครั้งมโหฬารเหมือนกันแตกต่างกันที่อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย หนีคุกไปได้และกลายเป็นสัมภเวสี
ส่วน นายนาจิบ ราซัค อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซียประเทศเพื่อนบ้านของไทยหนีออกนอกประเทศไม่ทัน เลยถูกดำเนินคดีตามกฎหมายและได้รับกรรมถูกจำคุกอยู่ในเวลานี้
และแม้ถูกศาลฯตัดสินจำคุกแล้วก็ตาม ทั้งอดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซียและอดีตนายกรัฐมนตรีไทยยังมีบารมี มีอิทธิพลครอบงำพรรคการเมืองใหญ่ ทั้งในประเทศไทยและ
ในมาเลเซีย ซึ่งนักการเมืองในพรรคใหญ่และสมุนบริวารพยายามใช้อิทธิพลทางการเมือง ต่อสู้ดิ้นรนให้อดีตผู้นำโกงชาติ ได้กลับมามีอำนาจ โดยการวิ่งเต้นรณรงค์ให้มีการนิรโทษกรรมให้ผู้นำโกงชาติอย่างสุดความสามารถเท่าที่ทำได้
พรรคองค์การมลายูรวมแห่งชาติหรือ“อัมโน” ซึ่งเป็นพรรคชาตินิยมที่ครองอำนาจเป็นรัฐบาลมาเลเซีย มาตั้งแต่ได้รับเอกราชในปี 2490 แต่พรรคอัมโน ขณะที่นำโดยนายนาจิบ ราซัค พลาดท่าเสียทีให้กับดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด นักการเมืองวัย 97 ปี อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่ดำรงตำแหน่งยาวนานถึง 22 ปี ที่แยกตัวออกไปตั้งพรรคพันธมิตรฝ่ายค้านขึ้นมาโดยตั้งเป้าหมายโค่นล้มนายนาจิบ ในการเลือกตั้งปี 2561
เพราะนายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรี มีข้อครหาโกงเงินจาก “เบอร์ฮัดการพัฒนา 1มาเลเซีย” หรือ 1MDB เป็นบริษัทการพัฒนาทางยุทธศาสตร์มาเลเซีย ไปหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทันทีที่ชนะเลือกตั้ง ดร.มหาเธร์ ก็จัดตั้งรัฐบาลปฏิรูปชาติขึ้นมา โดยมีนโยบายเร่งด่วนอันดับแรกคือ สอบสวนดำเนินคดีอาญา นายนาจิบในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบสมคบกันปล้นเงินจากบริษัท 1MDB หลังจากสู้คดีมาสี่ปีศาลยุติธรรมมาเลเซียได้ตัดสินให้นายนาจิบ มีความผิดเจ็ดคดี
และ เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2565 ศาลสูงสุดของมาเลเซียยืนตามศาลอุทธรณ์ตัดสินจำคุกนายนาจิบ 12 ปี ปรับเป็นเงิน 320 ล้านริงกิตในความผิดใช้อำนาจโดยมิชอบเกี่ยวเนื่องกับการยักยอกเงิน 10 ล้านดอลลาร์ จาก 1 MDBนายนาจิบ ถูกส่งเข้าเรือนจำกาจังทันที
วันที่ 25 สิงหาคม นายราจิบมาปรากฏตัวในศาลอีกครั้งในชุดสูทสีน้ำเงินเข้ม ผูกเนคไทสีแดงเพื่อฟังการพิจารณาคดีกระทงที่ 2 ท่ามกลางกระแสข่าวว่านายนาจิบได้รับสิทธิ์พิเศษกว่านักโทษคนอื่นๆ ในเรือนจำ พร้อมๆ กับกระแสข่าวว่าพรรคอัมโนซึ่งแยกตัวออกจาก มหาเธร์ และกลับมายิ่งใหญ่ในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาลในปัจจุบันกำลังวิ่งเต้น ขอพระราชทานอภัยโทษ และ นิรโทษกรรมให้นายนาจิบ ผู้อยู่ระหว่างรอศาลสูงสุดตัดสินอีกหกคดี
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคมว่า ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซียกล่าว ว่า มีความเป็นไปได้สูงที่นายนาจิบจะได้รับนิรโทษกรรม เพราะนายนาจิบมีความคุ้นเคยกับสมาชิกชั้นสูงในราชวงศ์ของมาเลเซียหลายพระองค์
นี่คือความเหมือนกันของพฤติกรรมนักการเมืองประเทศเพื่อนบ้านกับนักการเมืองที่เรียกตัวเองว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตยในประเทศไทย ที่ทั้งฝ่ายต่อต้านและสมุนบริวารของคนโกงชาติ มักจะอ้างว่าสมาชิกราชวงศ์ ที่คนโกงใช้ความใกล้ชิดกับสมาชิกในราชวงศ์บางพระองค์ช่วยให้คนโกงพ้นผิด
ผู้สนับสนุนนายนาจิบ อาจกำลังดิ้นรนหาทางให้พระราชาธิบดี นิรโทษกรรมให้นายนาจิบจริงก็ได้ ดร.มหาเธร์เลยตีปลาหน้าไซว่า เป็นไปได้ทีนายนาจิบ จะได้รับนิรโทษกรรมเพราะว่านายนาจิบคุ้นเคยกับเชื้อพระวงศ์ชั้นสูงหลายพระองค์
ซึ่งในความเป็นจริง พระราชวงศ์มาเลเซียอาจมิได้มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือรับรู้ใดๆ ก็ได้พระราชวงศ์มาเลเซียก็เหมือนกับราชวงศ์ทั่วไปที่มิยอมนิรโทษกรรมให้คนโกงชาติปล้นแผ่นดิน
นายนาจิบ คอร์รัปชั่นทางนโยบายครั้งมโหฬาร เหมือนกับอดีตนายกรัฐมนตรีสองพี่น้องของประเทศไทย กล่าวคือไม่นานหลังจากเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในปี 2542 นายนาจิบ ก็จัดตั้งบริษัท 1 MDB ขึ้นมา
พนักงานสอบสวนพบว่าตั้งแต่ปี 2543 ถึงปี2547 นายนาจิบ และ พรรคพวกในเครือข่ายเล่นแร่แปรธาตุยักยอกถ่ายโอนเงินจากกองทุน 1 MDBไปอยู่ในบัญชีส่วนตัวของนายนาจิบ และสมุนบริวารหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ
เมื่อโจทก์มีพยานหลักฐานยืนยันว่านายนาจิบโยกเงินจาก 1 MDB เข้าไปไว้ในบัญชีส่วนตัว นายนาจิบก็ให้การว่าเป็นการบกพร่องโดนสุจริต เพราะนายโล แต๊ก โจ ทำให้เขาเชื่อว่าเงินเหล่านั้นเป็นเงินบริจาค จากราชวงศ์ซาอุดีอาระเบีย คือ คล้ายๆ กับจะพูดว่า “บกพร่องโดยสุจริต” เหมือนที่นายทักษิณให้การต่อศาลรัฐธรรมนูญคดีในกรณีซุกหุ้น
การทุจริตทางนโยบายที่อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งกลายเป็นนักโทษชายก็คล้ายๆ กับทุจริตทางนโยบายของนายทักษิณที่ไม่นานหลังจากได้เป็นนายกรัฐมนตรี นายทักษิณก็เล่นแร่แปรธาตุ”#แปลงสัมปทานดาวเทียมไทยคมเป็นภาษีสรรพสามิต ซึ่งสุดท้ายศาลตัดสินว่านายทักษิณทำให้รัฐเสียหายกว่าหกหมื่นหกพันล้านบาท และ ยังมีอีกหลายคดีที่นายทักษิณทุจริตทางนโยบาย ซึ่งถึงวันนี้ศาลตัดสินให้จำคุกไปแล้วรวมกัน 12 ปี จากฐานความผิด 4 คดี และ ยังมีอีกหลายคดีที่ทำให้นายทักษิณต้องเป็นสัมภเวสีหนีคุกไปจนตาย
นายทักษิณต้องเผชิญกับวิบากกรรม เพราะทุจริตทางนโยบายคนเดียวไม่พอ เขายังจัดการให้น้องสาวทุจริตทางนโยบายในโครงการรับจำนำข้าว ที่ทำให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถูกศาลฯตัดสินจำคุกไปแล้ว ห้าปีจากคดีจีทูจี(รัฐบาลต่อรัฐ)ปลอมกับจีน ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ กับนายทักษิณ ยังต้องรอฟังคำตัดสินของศาลอีกหลายคดีจากกรณีทุจริตทางนโยบาย
นายทักษิณ กับน.ส.ยิ่งลักษณ์ก็เหมือนกับนายนาจิบ ที่ยังต้องเจอวิบากกรรมเพราะทุจริตทางนโยบายอีกหกคดี และที่เลวร้ายอดีตนายกรัฐมนตรีไทยและอดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซียฉุดให้คนในครอบครัวตกนรกไปด้วย
นางโรสมาร์ มานโซ ภริยานายนาจิบ ศาลสูงสุดมาเลเซีย นัดฟังคำตัดสินวันที่ 1 กันยายน2565 ในคดีที่นางเกี่ยวข้องกับทุจริต 1 MDB 1.25 พันล้านริงกิต ( ประมาณ 279 ล้านดอลลาร์) ในโครงพลังงานโซลาร์เซลล์
นายนาจิบ ราซัค อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กับ อดีตนายกรัฐมนตรีไทยสองคนที่ต้องเผชิญชะตากรรม หรือ ชดใช้กรรมอันเลวร้ายเนื่องมาจากทุจริตทางนโยบาย และฉุดลากให้คนในครอบครัวที่พวกเขารักถูกผลักลงนรกไปด้วย
มีแตกต่างกันอยู่บ้างตรง ที่นายนาจิบ ติดคุกอยู่ในบ้านเกิด ส่วนอดีตนายกรัฐมนตรีสองศรีพี่น้องต้องกลายเป็นสัมภเวสีหนีคุก พกพาความทุกข์ไว้ในใจไปจนตาย
พันธุกรรมทางการเมืองของสัมภเวสีหนีคุกโทษหนีคุกพึงสังวรไว้ อย่าหลงระเริงกับโพลล์ที่ทำนายว่าจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป เพื่อได้พาพ่อและอากลับบ้านทางประตูหน้า ให้สำเหนียกไว้ว่าบางครั้งกฎหมายอาจล่าช้าไปบ้าง แต่กฎแห่งกรรมยุติธรรมเสมอ และ กรรมมันตามมาไวได้ดังใจกว่า 5G
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี