ปัญหาน้ำท่วม โดยเฉพาะกทม.ที่ทำให้ประชาชนขวัญผวานึกถึงเมื่อปี’54 สถานการณ์ 8 ปีนายกฯในปัจจุบันที่ทำให้พลเอกประยุทธ์ต้องถอยไปตั้งหลักหยุดปฏิบัติหน้าที่ ทำให้พื้นที่ข่าวพุ่งไปที่การแก้ปัญหาน้ำท่วมของผู้ว่าฯกทม.มากกว่า จนระส่ำไปถึงพรรคการเมืองใหญ่ที่หมายมั่นพื้นที่กทม.ให้ต้องระส่ำไปด้วย แต่อย่างไรก็ตาม เป็นช่วงเวลาที่ถอยไม่ได้แล้วทำให้แต่ละพรรคเริ่มแคมเปญหาเสียงกันดีเดย์ 9 เดือน 9 ที่ผ่านมา
หากย้อนไปคำสัมภาษณ์พลเอกประวิตรเมื่อหลายเดือนก่อนที่ว่าอาจจะมีการยุบสภาหลังการประชุมเอเปก ทำให้สัปดาห์ที่ผ่านมาเริ่มมีการทยอยเปิดตัวนโยบายแคมเปญหาเสียงและผู้สมัครทีละภาคจากพรรคการเมืองต่างๆ รวมทั้งการลงพื้นที่เพื่อเตรียมความพร้อมการเลือกตั้งใหญ่ที่อาจเกิดขึ้นปลายปีนี้หรือในต้นปีหน้า ทั้งที่เป็นการลงพื้นที่พบปะประชาชนจริงและบางส่วนถูกมองว่าเป็นเรื่องของการจัดการปัญหาผู้สมัครสส.ของแต่ละพรรค
พรรคก้าวไกลเลือกเปิดตัววันที่ 9 เดือน 9 ตามชื่อพรรคจัดแคมเปญ“ต้องก้าวไกล ให้ไทยก้าวหน้า” เปิดตัวผู้สมัครสส.กทม. 23 เขต จาก 33 เขต ซึ่งครั้งที่แล้วตอนในนามพรรคอนาคตใหม่ แม้จะเป็นการลงครั้งแรกแต่ทำได้ดีในพื้นที่กทม.ได้สส.กทม.ไปถึง 9 คน แม้บางส่วนอาจจะถูกมองว่าได้มาแทนไทยรักษาชาติในเขตที่เพื่อไทยไม่ได้ส่งลง แต่ในช่วง 3 ปีกว่ามานี้ ผนวกกับคะแนนเลือกตั้งสก.ที่ผ่านมา แม้ครั้งนี้พรรคเพื่อไทยประกาศจะลงทุกเขตแล้วก็ตามแต่ดูเหมือนพรรคก้าวไกลยังคงเป็นที่จับตาและน่าจับตามากขึ้นเมื่อเปิดตัวผู้สมัครรอบล่าสุด
ที่พรรคได้มีการเปลี่ยนตัวผู้สมัครสส.ทั้งที่เขตนั้นมีสส.พรรคอยู่แล้ว อย่างการวางตัวอดีตแกนนำกลุ่มชุมนุมต่างๆ มาเป็นผู้สมัครสส.กทม. นอกจากนี้ยังพบว่ายังมีอดีตผู้สมัครสส.กทม.จากเพื่อไทยบางส่วนเข้ามาร่วมงานกับพรรคก้าวไกลในการเลือกตั้งครั้งนี้ด้วย แต่ก็ยังประกาศเพียง 23 คน คงจะต้องรอดูกันต่อไปว่าผู้สมัครสส.กทม. 10 เขตที่เหลือ จะมีใครเข้ามาเพิ่มหรือเปลี่ยนตัว นอกจากแคมเปญหลักอย่างสุราก้าวหน้า สมรสเท่าเทียม รวมถึงพ.ร.บ.เข้าชื่อเสนอกฎหมายผ่านระบบออนไลน์
ในวันเดียวกัน 9 เดือน 9 พรรคไทยสร้างไทย ก็ได้มีการประชุมใหญ่ของพรรค ที่แม้ก่อนหน้านี้จะเห็นการลงพื้นที่และป้ายต่างๆ ทั้งในกทม.และต่างจังหวัดมาระยะหนึ่งแล้วโดยเฉพาะภาคอีสานและกทม. แต่สิ่งที่ทุกคนรอดูก็คือการเปิดตัวผู้สมัครสส.ที่ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวการไหลออกของสส.หรือผู้สมัครเพื่อไทยบางส่วนที่จะย้ายมา พรรคไทยสร้างไทยจริงหรือไม่ ไฮไลต์สำคัญในการประชุมใหญ่คือการชูคุณหญิงสุดารัตน์เป็นหัวหน้าพรรคและเป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรค ซึ่งมีจุดยืนก้าวข้ามความขัดแย้ง เป็นทางเลือกใหม่อีกทางเลือกของประชาชน จากการสำรวจอีสานโพลหากมีการเลือกตั้งใหม่ อยากให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรี พบว่าคุณหญิงหน่อยมาเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งหากประเมินภาพรวมสมรภูมิอีสานพรรคไทยสร้างไทยถูกมองว่าเป็นรองพรรคเพื่อไทย แม้จะถูกมองว่าเป็นพรรคเล็กที่เพิ่งก่อตั้งแต่ก็อาจเป็นด่านหนึ่งที่จะสกัดแลนด์สไลด์ของเพื่อไทยก็เป็นได้ นอกจากนี้ในด้านแคมเปญนโยบาย ก็มีข่าวพรรคไทยสร้างไทยเปิดศึกแย่งชิงผลงานในอดีตกับพรรคเพื่อไทยอย่างโครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค ที่เกิดขึ้นจากรัฐบาลอดีตนายกฯทักษิณ ที่ในขณะนั้นคุณหญิงหน่อย เป็น รมว.สาธารณสุข?
ขณะที่พรรคเพื่อไทยขณะนี้เดินสายต่างจังหวัดทุกสุดสัปดาห์ก็สร้างความฮือฮามาตลอด แต่ล่าสุดเพิ่งยกทัพลุยเชียงใหม่ จัดกิจกรรม“สะบัดชัย เพื่อไทยมาเหนือ” ที่นำโดย แพทองธาร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เพื่อแสดงพลังแลนด์สไลด์ขอคะแนนสนับสนุนให้ได้เป็นรัฐบาลในการเลือกตั้งในครั้งหน้าที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้ และเป้าหมาย
ที่นั่งในสภา 253 ที่นั่ง ที่ประกาศ ปิดฉากระบอบประยุทธ์ ปิดเกมสืบทอดอำนาจ ปิดสวิตช์สว. และต้องการให้แก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย ที่ว่าพิเศษเพราะก่อนหน้านี้หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยไปพร้อมหัวหน้าพรรคเพื่อไทยก็ว่าน่าสนใจแล้ว แต่ที่เชียงใหม่ที่ถือเป็นหัวใจพรรคเพื่อไทยพิเศษกว่าคือการปรากฏตัวของคุณหญิงพจมาน ที่มาพร้อมกับสมาชิกครอบครัวชินวัตร ในพื้นที่บ้านเกิดของอดีตนายกฯทักษิณและอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ภาพการคาดเดาการวางตัวแคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทยจึงพุ่งเป้ามาที่ แพทองธาร?
จริงๆ แล้วแคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทยที่ก่อนหน้านี้ ยังมีอีกคนคือ คุณชัชชาติ ที่ก่อนหน้านี้ต้องบอกว่า ได้ช่วยสร้างกระแสเพิ่มคะแนนคนเมืองให้กับเพื่อไทยไม่น้อยเมื่อตอนเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ที่ผ่านมา ที่แม้จะบอกว่าไม่ได้ลงในนามเพื่อไทย แต่การที่เพื่อไทยยังคงรายชื่อแคนดิเดตนายกฯและหลีกทางไม่ส่งผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.แต่ส่งสก.ครบ ภาพจึงหนีไม่พ้นที่เชื่อมโยงและเกื้อหนุนกัน แต่เมื่อพายุมาอะไรก็เปลี่ยนไปปัญหาฝนตกน้ำท่วมในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา ประจวบเวลาเดียวกับที่พลเอกประยุทธ์ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ในฐานะนายกรัฐมนตรี ไฟจึงฉายมาที่ผู้ว่าฯกทม.แบบเต็มๆ และกลายเป็นความหวังของประชาชนแบบไม่ต้องเปรียบเทียบใคร ซึ่งหากดำเนินงานได้ดีกว่าผู้ว่าฯคนก่อนก็จะเก็บแต้มคะแนนนิยมขึ้นมาอีกมากและอาจสะท้อนไปถึงพรรคเพื่อไทย แต่ในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาฝนตกเยอะน้ำระบายไม่ทัน น้ำท่วมบ้านเรือน ท่วมรถยนต์ในแบบที่หลายคนบอกว่ามากกว่าปี’54 ในบางจุดด้วยซ้ำ รถติดติดต่อกันหลายสัปดาห์ ขณะที่นักวิชาการหลายท่านได้ออกมาบอกว่า นี่อาจจะไม่ใช่จุดที่สูงสุดของปริมาณน้ำฝน นั่นหมายถึงปัญหาน้ำท่วมที่ผ่านมาอาทิตย์ก่อนนั้นมันแค่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น เรายังต้องเผชิญปัญหากันอีกต่อไป จากความหวังจึงกลายเป็นวิจารณ์ ทั้งในเรื่องของ การขาดการประสานงานกับหน่วยงานรัฐอื่นๆ หรือการประสานงานกับจังหวัดโดยรอบในการวางแผนจัดการระบายน้ำหรือผันน้ำ จนพื้นที่ของจังหวัดนั้นได้รับผลกระทบ ไม่ว่าจะเป็น ปทุมธานี สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา ซึ่งหากไม่รีบแก้จุดอ่อนเหล่านี้ปัญหาอุทกภัยจะกลายเป็นปัญหาการเมือง ที่นอกจากจะเสียคะแนนคนเมืองแล้วยังต้องพบกับความขัดแย้งกับนักการเมืองพันธมิตรในจังหวัดโดยรอบด้วย ทั้งหมดหากวางแผนไม่ดีก็อาจสะท้อนกลับไปที่ผู้สมัครสส.พรรคเพื่อไทยหรือไม่
เอาเข้าจริง พรรคเพื่อไทยยังมีอีกหนึ่งแคนดิเดตนายกฯ คือ คุณหญิงสุดารัตน์ ที่ถือเป็นหนึ่งในแบรนด์ของพรรคเพื่อไทยมาตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย แต่วันนี้ที่เปลี่ยนไปแล้วจะไปในทิศทางที่แยกจากกันจริงไหม พรรคสร้างอนาคตไทยแม้จะเปิดตัวมาได้ระยะหนึ่งแต่ก็ดูเหมือนว่ากระแสยังไม่เป็นที่รู้จักของประชาชนในวงกว้าง การเปิดตัวนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย ซึ่งถูกวางตัวให้เป็นแคนดิเดตนายกฯ ทำให้พรรคสร้างอนาคตไทยกลับมาเป็นกระแสอีกครั้ง ยังต้องจับตาการเกิดพรรคขั้วที่สาม ระหว่างพรรคสร้างอนาคตไทย กับพรรคพรรคไทยสร้างไทย ซึ่งทั้งสองพรรคมีความเหมือนกันตรงที่ไม่ได้เป็นพรรคอะไหล่ หากแต่เป็นพรรคทางเลือกใหม่ในสถานการณ์ ที่แม้จะไม่ชัดเจนเรื่องเอาหรือไม่เอาพลเอกประยุทธ์ หรืออดีตนายกฯทักษิณ แต่จุดเด่นคือการประกาศเป็นกลางไม่ขวาสุดโต่ง-ซ้ายสุดขั้ว เพื่อดึงคะแนนคนเบื่อการเมืองขัดแย้ง ซึ่งต้องรอดูกันว่ากระแสนี้จะเกิดขึ้นได้หรือไม่? เพราะอย่างไรพลเอกประยุทธ์ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญทางการเมืองตอนนี้ไม่ว่ามองมิติใด การขยับของพลเอกประยุทธ์ยังคงส่งผลต่อการเมืองไม่ว่าฝั่งใด
ปมการดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปี ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา สิ้นสุดลงหรือไม่ ที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณาเอกสารเพิ่มเมื่อวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมาซึ่งจะเป็นตัวชี้ชะตาอนาคตการเมืองของพลเอกประยุทธ์ว่าจะได้ไปต่อหรือต้องพอแค่นี้ โดยที่ประชุมเมื่อวานมีความเห็นว่าหลักฐานเพียงพอที่จะวินิจฉัยแล้ว จึงยุติการไต่สวนและกำหนดวันอ่านคำวินิจฉัยให้คู่ความฟัง โดยศาลรัฐธรรมนูญจะมีนัดอ่านคำวินิจฉัยวันที่ 30 กันยายนนี้
ทั้งนี้หากศาลฯวินิจฉัยว่าการเริ่มดำรงตำแหน่งเริ่มนับจากวันที่รัฐธรรมนูญปี 2560 มีการบังคับใช้ การดำรงตำแหน่งนายกฯของพลเอกประยุทธ์ ก็จะครบ 8 ปี พ.ศ.2568 แต่หากศาลวินิจฉัยว่าระยะเวลาดำรงตำแหน่งนายกฯเริ่มนับเมื่อเลือกตั้งปี’62 ระยะเวลาดำรงตำแหน่งนายกฯจะครบปี พ.ศ.2570 แต่หากศาลฯวินิจฉัยว่าระยะเวลาการดำรงตำแหน่งนายกฯเริ่มนับเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2557 พลเอกประยุทธ์ก็ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตามคำร้องของฝ่ายค้าน ไม่ว่าผลการวินิจฉัยจะออกมาในแนวทางใดคงต้องมาจับตาดูกันว่าฉากทัศน์ทางการเมืองและความเปลี่ยนแปลงทุกองคาพยพที่เคยอยู่ภายใต้ร่มเงาพลเอกประยุทธ์จะเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่? รวมถึงคนที่เคยออกไปแล้วก็อาจเปลี่ยนใจ
แนวโน้มการกลับมาของร้อยเอกธรรมนัส แห่งพรรคเศรษฐกิจไทย ที่มีข่าวว่าจะกลับมาซบพลังประชารัฐดังเดิมดูจะเป็นความหวังให้กับพลเอกประวิตรในฐานะหัวหน้าพรรค แต่ก็ดูเหมือนจะเกิดแรงกระเพื่อมในพลังประชารัฐระลอกใหม่ด้วยเช่นกัน ที่หลายคนในพรรคที่ดูจะเป็นคู่ขัดแย้งต่างออกมาพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าการกลับมาอยู่พรรคพลังประชารัฐของร้อยเอกธรรมนัสคงเป็นเรื่องที่ยาก และเป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น แต่ก็ไม่ถึงกับเป็นการปิดประตูตายของทีมสส.กลุ่มร้อยเอกธรรมนัส ที่ดูเหมือนว่าสส.ในพรรคเศรษฐกิจไทยเองก็อยากจะกลับมาซบบ้านเก่าพลังประชารัฐเช่นกันหรือไม่ เพราะการออกมายืนพรรคใหม่โดยขาดภาพพลเอกประยุทธ์ก็ถือว่าวัดใจอย่างมากในช่วงเลือกตั้งซ่อมแต่ละครั้งที่ผ่านมา
ประเด็นที่ดูเหมือนต้องรอ จึงดูไม่มีใครรอ เพราะอย่างไรก็ต้องนับถอยหลังวันเลือกตั้งที่ไม่ว่าอย่างไร ช้าสุดคือต้นปีหน้า
“คนโง่ก็มิใช่ทุกผู้คนจะหลอกลวงได้ ยิ่งเป็นคนฉลาดเพียงใด ยิ่งหลอกคนโง่เขลาไม่ได้ ... เนื่องจากคนฉลาดมีความคิดกลอกกลิ้งเกินไป ส่วนคนโง่นั้นไม่มีความคิดมากมาย หากมันแน่ใจว่าเจ้าจะหลอกลวง แม้วาจาที่เจ้ากล่าวเป็นความจริง มันก็ไม่เชื่อ”
(นักสู้ผู้พิชิต จาก โกวเล้ง)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี