พรรคเพื่อไทยโหมสโลแกนเพื่อไทยมาเหนือเมื่อคราวไปหาเสียงที่จังหวัดเชียงใหม่ ที่ลูกสาวสัมภเวสีหนีคุก ไปอ้อนคนบ้านเกิดบิดาว่า พ่ออยากกลับบ้านการขึ้นไปเชียงใหม่เที่ยวนี้ที่มีสโลแกนว่ามาเหนือนั้น ไม่ได้ความหมายว่า มาภาคเหนือ แต่มีนัยบอกว่า เพื่อไทยอยู่เหนือกฎเกณฑ์ใดๆ ที่กฎหมายและสังคมไทยทำอะไรกับเจ้าของพรรคเพื่อไทยไม่ได้จริงๆ
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ทายาทอสูรและตระกูลโกงฮึกเหิมมั่นใจ เพราะวันนี้มีป้อมไม่รู้ ดูแลประเทศไทยในห้วงเวลาที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยว่าวาระแปดปีในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพลเอกประยุทธ์ สิ้นสุดลงแล้วหรือไม่
เมื่อลุงตู่ ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว และป้อมไม่รู้ ดูแลบ้านเมืองแทนลุงตู่ สัมภเวสีหนีคุกเลยแสดงความเหนือชั้น ท้าทายกฎหมาย โดยสั่งให้น้องสาว ที่ถูกแจ้งความดำเนินคดีข้อหาโกงโครงการจำนำข้าวซึ่งหนีหน้าหายตาจากสังคมไปนานนับปีมาโผล่ตัวเสนอหน้าในเวทีปราศรัยเพื่อไทยมาเหนือ
การปรากฏตัวของ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์มีนัยสำคัญว่ากฎหมายไทย ในยุคป้อมไม่รู้ดูแลบ้านเมืองทำอะไรกับตระกูลนี้ไม่ได้ เพราะ ป.ป.ช.ที่นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญเรียกว่า “ป.ป.ช. ชุดนาฬิกาเพื่อน”ทำงานช้ากว่าเต่าคลาน
ใช้เวลามาเป็นปีถึงวันนี้ ยังไม่สามารถชี้มูลความผิดนางเยาวภาในคดีโกงจำนำข้าวลอตสองได้
เพื่อไทยมาเหนือคราวนี้ เป็นที่รู้กันทั่วไปว่าเป้าหมาย คือ ทำลายความน่าเชื่อถือของพลเอกประยุทธ์โดย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ถึงกับพูดในเวทีต่อหน้า คุณหญิงพจมาน, นางเยาวภา และ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ พร้อมทั้งสมุนบริวารสัมภเวสีหนีคุกที่รวมตัวกันพร้อมหน้าว่า
“มีคนเขาเรียกประยุทธ์ว่าเป็นนายกฯเถื่อน แต่ผมขอประกาศในที่นี้ว่าประยุทธ์ เป็นนายกฯถ่อยคุณอุ๊งอิ๊ง อยากให้พ่อกลับบ้าน ทำไมลูกสาวประยุทธ์ ไม่เรียกให้พ่อกลับบ้านบ้าง เป็นนายกฯแปดปีอยู่นานเกินไปแล้ว..”
การปราศรัยในเวทีเพื่อไทยมาเหนือ เน้นไปที่โจมตีด้อยค่าพลเอกประยุทธ์ โดยเฉพาะโดยที่ไม่มีนักปราศรัยคนไหนพูดถึงนโยบายว่า “เมื่อไล่พลเอกประยุทธ์ออกไปแล้ว จะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นได้อย่างไร”
หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยที่คาดหมายว่าจะเป็นแคนดิเดตนายกฯคนต่อไป ซึ่งเป็นพันธุกรรมทางการเมืองสายตรงพูดในเวทีว่า “ดีใจที่ได้มาบ้านเกิดของพ่อ พ่ออยากกลับบ้าน แต่วิธีการอย่างไรเอาไว้เป็นเรื่องอันดับรอง และดีใจมากที่แม่มาให้กำลังใจในวันนี้”
ส่วนหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ขึ้นเวทีปราศรัยเอาใจนายว่า “หมดเวลาของพลเอกประยุทธ์ และ ต่อไปนี้เป็นเวลาของเพื่อไทย เลือกเพื่อไทยแลนด์สไลด์ เพื่อให้ดวงใจสุดที่รักของเรากลับมา เราจะมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของพวกเรา เราไม่เอารัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการ”
สโลแกนเพื่อไทยมาเหนือ จึงอนุมานได้ว่า มาเหนือได้ เพราะป้อมไม่รู้ดูแลบ้านเมืองชั่วคราว ทำให้เพื่อไทยมาเหนือลุงตู่ได้ โดยท้าทายกฎหมายเอาคนที่หนีคดีหายไปนาน มาปรากฏตัวหน้าเวทีปราศรัยซึ่งกลายเป็น family reunion ที่มี ทั้งเมีย น้องสาว น้องเขย ลูกเขย ลูกสาวมาอยู่ร่วมกันได้ รวมทั้งให้สมุนบริวารดาหน้าด้อยค่าพลเอกประยุทธ์ในเวทีปราศรัย
เราเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่า ผู้ต้องหาที่ถูกแจ้งความในข้อหาโกงจำนำข้าวลอตสอง ไม่กล้าปรากฏตัวหากลุงตู่ ไม่ถูกศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย
มีกระแสข่าว ลือมานานแล้วว่า “ป้อมไม่รู้” มี“ดีลลับกับสัมภเวสีหนีคุก” โดยมีพ่อค้าแป้งเป็นตัวประสานเดินงานให้ และชัดแจ้งแดงแจ๋เมื่อป้อมไม่รู้ บอกกับนักข่าวว่า “เขตไหนที่พรรคเศรษฐกิจไทยส่งผู้สมัคร สส. พรรคพลังประชารัฐไม่ส่งผู้สมัครเขตนั้นๆ”
ดังนั้นเมื่อป้อมไม่รู้ รับหน้าที่รักษาการดูแลบ้านเมืองชั่วคราว เจ้าของพรรคเพื่อไทยจึงฉวยโอกาสสร้างสถานการณ์ให้สมุนบริวารและคนทั่วไปได้เห็นว่าเขามีบารมีเหนือกว่าพลเอกประยุทธ์ ในสายของผู้สนับสนุนเพื่อไทย และมีกระแสข่าว มีข่าวลือมานานแล้วว่า ที่ฝ่ายต่อต้านลุงตู่ ชูลุงป้อม ทำงานเป็นขบวนการประสานกับฝ่ายค้านในสภากับฝ่ายต่อต้านลุงตู่นอกสภา ตามถนนรนแคมนั้น เพราะมีประโยชน์ร่วมกัน ผลประโยชน์ที่ว่าคือให้ทุกฝ่ายได้หลุดพ้นจากคดีความที่เป็นชนักติดหลังกันอยู่ทั้งฝ่ายที่เคยต่อต้านสัมภเวสีหนีคุกและฝ่ายสนับสนุนสัมภเวสีหนีคุก ฝ่ายต่อต้านเอง ก็ขาข้างหนึ่งอยู่ในคุกแล้ว ดังนั้นทั้งสองฝ่ายจึงร่วมมือกันเพื่อไล่ลุงตู่ให้พ้นทางไปให้ได้เพื่อให้ win win ทั้งสองฝ่าย
ว่ากันว่าเคยมีความพยายามทั้งบนดินใต้ดินทั้งข่มขู่แบล็กเมล์ตลอดถึงเสนอปัจจัยให้ลุงตู่ออกกฎหมายนิรโทษกรรมเพื่อความปรองดองแห่งชาติ แต่ลุงตู่ผู้มีความจงรักภักดี ไม่เห็นดีด้วยกับการนิรโทษกรรมให้ผู้ที่มีคดีทางการเมือง แต่สำหรับคนมีความผิดทุจริตโกงชาติพยาบาทสถาบันนั่นลุงตู่ยอมไม่ได้
เพราะฉะนั้นความหวังสุดท้ายที่จะให้สัมภเวสีหนีคุกได้กลับบ้านทางประตูหน้าโดยไม่ต้องมาแวะพักในเรือนจำ ผู้ทำให้เกิดขึ้นได้น่าจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่ถนัดการใช้เกมส์ใต้ดินและบนดิน
ตระกูลโกงในเมืองไทยดูๆ แล้ว คงคล้ายๆ กันนักการเมืองสองตระกูลใหญ่ในประเทศฟิลิปปินส์ที่ร่วมมือกันเพื่อให้เกิดสถานการณ์ win winทั้งสองฝ่าย กล่าวคือ ทั้งประธานาธิบดี เฟอร์ดินานด์มาร์กอส จูเนียร์ หรือ บองบอง ที่ชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ เมื่อวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมากับ รองประธานาธิบดี ซาร่า ดูเตอร์เต ซึ่งได้รับชัยชนะด้วยคะแนนเท่าๆ กัน
โพลล์ทุกสำนักก่อนหน้าเลือกตั้งทำนายว่าซาร่าดูเตอร์เต มีคะแนนนิยมมาอันดับหนึ่ง และบองบอง มีคะแนนนิยมมาเป็นอันดับสอง ครอบครัวดูเตอร์เต กับครอบครัวมาร์กอส เป็นพันธมิตรกัน ดูเตอร์เต้มีฐานเสียงหนาแน่นอยู่ทางภาคใต้ มาร์กอส มีคะแนนนิยมมากทางภาคเหนือ
แต่ซาร่า ดูเตอร์เต เลือกจะลงสมัครในตำแหน่ง รองประธานาธิบดี เปิดทางให้ บองบอง สมัครในตำแหน่งประธานาธิบดี เหตุผลง่ายๆ คือซาร่าปล่อยให้บองบองออกรับหน้าแก้ปัญหารุมเร้าให้บิดาของเธอ โรดิโก ดูเตอร์เต กำลังมีปัญหารุมเร้า คือ ถูกศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) สอบสวนดำเนินคดีในข้อหาก่ออาชญากรรมมนุษยชาติ จากนโยบายสงครามยาเสพติดที่ว่ากันว่ามีคนถูกวิสามัญฆาตกรรมหมื่นกว่าราย แต่ทางราชการบอกตัวเลขคนตายมีเพียง 6,000 คน
ระหว่างที่ ไอซีซี สอบสวนดำเนินคดีประธานาธิบดี ดูเตอร์เต ประกาศว่า ประเทศฟิลิปปินส์ขอถอนตัวออกจากเป็นภาคี ไอซีซี และระหว่างการหาเสียงผู้สมัครประธานาธิบดีทุกคนสนับสนุนให้ศาลโลกดำเนินคดีกับ นายดูเตอร์เตมีแต่บองบอง เพียงคนเดียวที่ประกาศตั้งแต่วันรับสมัครว่า “ผมไม่ให้ค่า ไอซีซี ผู้แทนศาลโลกมาฟิลิปปินส์ได้ในฐานะนักท่องเที่ยวเท่านั้น”
และหลังจากได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีบองบอง ประกาศว่า “ฟิลิปปินส์จะไม่กลับเข้าเป็นภาคีไอซีซีอีกต่อไป เรามีศาลมีกระบวนการยุติธรรมของเราเอง ฟิลิปปินส์ไม่จำเป็นต้องให้คนนอกมาแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมของเรา”
นี่คือความหลักแหลมของซาร่า ที่ยอมเป็นนางรองเพื่อให้นัมเบอร์วัน จัดการแก้ไขปัญหาให้บิดาของเธอ นักการเมืองฟิลิปปินส์ฉลาดแกมโกงฉันใด นักการเมืองไทยก็คงเป็นฉันนั้นจึงทำนายล่วงหน้าว่าหัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทย จะไม่เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ถ้าได้เป็นพรรคร่วมรัฐบาล เธอจะยอมเป็นแค่นางรอง และจะยกตำแหน่งเบอร์หนึ่งให้คนที่สามารถแก้ปัญหาพาบิดาเธอกลับบ้านได้ โดยไม่ติดคุกดังที่มีกระแสข่าวว่าผู้ทะเยอทะยานกระสัน จะเป็นนายกรัฐมนตรี มีดีลลับกับสัมภเวสีหนีคุก
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี