สรุปว่า กสทช.ยังไม่พิจารณาปมการรวมธุรกิจ ระหว่าง บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE และ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ DTAC โดยจะรอตีความจากกฤษฎีกาเสียก่อน
ทั้งๆ ที่ “พ.อ.เศรษฐพงศ์ มะลิสุวรรณ” อดีตรองประธาน กสทช. เคยชี้ไว้ว่า การรวมทรู-ดีแทค ยึดประกาศปี’61 ไม่ต้องขออนุมัติ โดย กสทช.แค่รับทราบและออกเงื่อนไขได้ เหมือนกับ 9 ดีลรวมธุรกิจก่อนหน้า ต้องไม่สับสน
ผมเห็นด้วยว่า กสทช. ควรพิจารณาว่าจะออกมาตรการเงื่อนไขอะไรออกมาบ้าง เพื่อป้องกันมิให้เกิดผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์หลังรวมธุรกิจ ไม่ใช่ยื้อ มิใช่ห้าม มิใช่ขัดขวาง อันมีผลทำให้ผู้ประกอบการที่ครองตลาดโทรคมนาคมอันดับหนึ่งไม่ต้องเผชิญกับคู่แข่งที่แข็งแรงขึ้น กับการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น ยืดเวลาออกไปเรื่อยๆ
1. จากข้อมูลโครงการสร้างตลาดข้างต้นเอไอเอสครองอันดับหนึ่งในตลาด
คิดง่ายๆ โดยสามัญสำนึก ไม่ต้องไปอ้างอะไรให้เข้าใจยาก
ถ้าอันดับสองและอันดับสาม คือ ทรูกับดีแทครวมกัน แล้วผู้บริโภคจะได้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์?
ผู้บริโภคทรูและดีแทค รวม 51 ล้านเลขหมาย - ได้ประโยชน์แน่นอน เพราะสามารถเข้าถึงโครงข่าย คลื่นความถี่ สัญญาณเร็ว แรง ครอบคลุมพื้นที่มากขึ้น บริการสะดวกมากขึ้น ลูกค้าดีแทคเดิม 19 ล้านเลขหมายได้เข้าถึง 5G จริงๆ แล้วจะต้องมีโปรโมชั่นแพ็กเกจต่างๆ ออกมาเพื่อดึงดูดทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่จากศักยภาพที่สูงขึ้น
ผู้บริโภคเอไอเอส 44 ล้านเลขหมาย – ได้ประโยชน์ตามไปด้วย เพราะเอไอเอสจะต้องเพิ่มแรงจูงใจแก่ลูกค้าเก่าของตนเองและดึงดูดลูกค้าใหม่ เพื่อแข่งขันกับคู่แข่งที่มีศักยภาพสูงขึ้น
อย่าลืมว่า ลูกค้าไม่ใช่ลูกทาส ไม่ใช่ทาสในเรือนเบี้ย บริษัทเอกชนทุกราย จะต้องใช้สิทธิประโยชน์ คุณภาพบริการ ออกมาดึงดูดจูงใจลูกค้าแข่งขันกัน
เพราะฉะนั้น ที่มีการวาดภาพจินตนาการว่า สองรายรวมกันแล้วจะขึ้นราคา เขาคงไม่โง่ขึ้นราคา เพื่อให้ลูกค้าแห่ไปหารายใหญ่อีกรายกันหมดหรอก
2. ประการสำคัญ เรื่องค่าบริการจะแพงขึ้นหรือไม่? กสทช.มีอำนาจเต็มในการกำกับดูแลและคุ้มครองผู้บริโภค ทั้งเรื่องคุณภาพสัญญาณและค่าบริการอยู่แล้ว
ที่ผ่านมา ก็สามารถกำกับดูแลจนค่าบริการในประเทศไทยราคาถูกติดอันดับต้นๆ ของโลก
มีการกำหนดเพดานราคาค่าบริการ กำหนดบทลงโทษ
ชัดเจนว่า เรื่องว่าเอกชนจะไปขึ้นราคามหาโหด 2 เท่าตัวอย่างที่วาดเป็นจินตนาการออกมาข่มขู่ปั่นกระแสกันในวันนี้ เป็นไปไม่ได้เลย เว้นแต่ กสทช.จะไปยกเลิกการกำหนดเพดานค่าบริการ ซึ่งก็ไม่ใช่
แต่ความน่ากลัวที่ยกมาเพื่อขัดขวางดีลรวมทรูกับดีแทค หากทำให้เรื่องยืดเยื้อออกไปเรื่อยๆ ผู้ที่ได้ประโยชน์แท้จริงกลับเป็นผู้ครองตลาดอันดับหนึ่งในปัจจุบัน ที่ครองความเหนือกว่าไปเรื่อยๆ
3. ปัจจุบัน คนยุคใหม่ใช้มือถือคุยกันน้อยลง หันไปใช้ไลน์ ใช้แชท ใช้อินเตอร์เนตติดต่อกันผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียมากขึ้น มีผลต่อการแข่งขันในตลาดโทรคมนาคม
เราสามารถใช้มือถือซื้อขายสินค้าบริการ ประชุม เรียนหนังสือ สั่งยา คุยกับหมอรักษาโรค จองโรงแรม ดูหนัง ต่อไปรถยนต์ก็เชื่อมต่อออนไลน์ ทุกอย่างเชื่อมต่อหมด Smart City การลงทุนพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล เทคโนโลยีสารสนเทศโทรคมนาคมยุคใหม่ เป็นสิ่งสำคัญมาก จะต้องใช้เงินลงทุนในการขยายโครงข่าย การควบรวมเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการทั้งหลาย เพื่อบริการที่เกิดประโยชน์ในทางเศรษฐกิจ การค้าขาย การเดินทาง สร้างโอกาสเติบโตแก่ผู้ประกอบการและสตาร์ทอัพ สร้างรายได้ ช่วยลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาสที่เท่าเทียมด้านการศึกษาแก่ผู้อยู่ในพื้นที่ห่างไกล สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล และเป้าหมายตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ
ลองคิดเมื่อผู้ใช้กว่า 51 ล้านเลขหมายเข้าถึงโครงข่ายครอบคลุมมากขึ้น ก็สามารถทำธุรกิจ ใช้บริการรับ-ส่งข้อมูลสารสนเทศได้สะดวกมากขึ้นทันที กระตุ้นการแข่งขันที่จะต้องลงทุนเพิ่มของผู้ประกบการที่ครองอันดับหนึ่งอยู่ เพื่อรักษาลูกค้าอีก 44 ล้านเลขหมาย ทุกคนได้ประโยชน์หมด ยกเว้น แค่นายทุนที่ต้องการรักษาสภาพการแข่งขันที่ตนเองเหนือกว่าเอาไว้ไปนานๆ
ถามว่า ภาครัฐควรขัดขวาง เตะถ่วง หรือสนับสนุน?
หากเห็นว่า อาจมีผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ ก็สามารถกำหนดมาตรการเสริมตามสมควร มิใช่ขวางคลอง สร้างเกราะป้องกันการแข่งขันชิงบัลลังก์เบอร์หนึ่งของผู้ประกอบการบางราย
4. ดีลใหญ่นี้ สร้างความฮือฮาตั้งแต่ประกาศเมื่อปีที่แล้ว
แต่จนบัดนี้ รายงานข่าวระบุว่า ทั้ง 2 บริษัทได้ยื่นความประสงค์ พร้อมแผนธุรกิจและข้อมูลให้ กสทช. ตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม 2565 หรือเป็นเวลาประมาณกว่า 7 เดือนแล้ว
น่าแปลกใจ... ในเมื่อประกาศ กสทช.ปี 2561 เรื่อง มาตรการกำกับดูแลการรวมธุรกิจในกิจการ ได้ใช้ปฏิบัติกับการพิจารณาควบรวมกิจการโทรคมนาคมมาไม่น้อยกว่า 9 ราย แล้วทำไมจะต้องยืดเยื้อกับดีลนี้ ?
อย่ากลัวว่า จะไม่มีการแข่งขัน
ดีลนี้ จะมีผลกระเทือนเจ้าของบัลลังก์แชมป์เก่า ทำให้ต้องลงทุนแข่งขันมากขึ้น
สันติสุข มะโรงศรี
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี