คอลัมน์นี้ไม่เคยเขียนเรื่องที่พรรคฝ่ายค้านนำโดยเพื่อไทยลงชื่อกัน 171 คน ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวาระนายกรัฐมนตรีของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า ครบแปดปีตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญแล้วหรือไม่
เหตุผลง่ายๆ ที่ไม่แตะต้องประเด็นนี้เพราะผู้เขียนไม่ใช่นักกฎหมาย และไม่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของความสับสนวุ่นวาย และไม่กล้าก้าวล่วงหรือกดดันวิพากษ์วิจารณ์ศาลรัฐธรรมนูญ และศาลยุติธรรมใดๆ
เมื่อคดีอยู่ในข่ายอำนาจศาลแล้ว ต้องให้กระบวนการยุติธรรมไทย ซึ่งนับว่ามีมาตรฐานไม่น้อยกว่ากระบวนการยุติธรรมประเทศใดๆ ในโลกนี้โดยส่วนตัว ถือว่าผู้ใดก็ตามที่นำเรื่องที่อยู่ระหว่างศาลพิจารณา ใช้วิธีการชี้นำ กดดัน ข่มขู่ วิจารณ์ศาลผู้นั้น เป็นอันธพาล ที่ไม่เคารพฝ่ายตุลาการไม่เคารพการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข การปกครองในระบอบประชาธิปไตยได้มีการถ่วงดุลอำนาจฝ่ายบริหาร ฝ่ายตุลาการ และ นิติบัญญัติไว้อย่างชัดเจน
แต่วันนี้จะมองข้ามประเด็นนี้ไป โดยไม่เขียนถึงเสียเลยไม่ได้ เพราะนอกจากสื่อไทยที่ส่วนใหญ่ไม่เป็นกลาง ในการวิพากษ์วิจารณ์คดีแปดปี พลเอกประยุทธ์ แล้วยังมีสื่อเทศที่มักเสนอข่าวในแง่ลบต่อสถาบันฯและประเทศไทยได้รายงานเรื่องนี้ด้วย
สื่อออนไลน์ของสหรัฐที่ชื่อว่า เดอะ ดิโพลแมตซึ่งเป็นหนึ่งในเครือข่ายไอโอ หรือ ปฏิบัติการข่าว (Information Operation) ของซีไอเอพลเรือนอเมริกา ที่เรียกว่า NED หรือ National Endowmentfor Democracy ที่จ้างเอ็นจีโอให้สร้างความปั่นป่วนไว้หลายคนในประเทศไทย
เมื่อวันที่ 15 กันยายน ดิ โพลแมต โดย นายเซบาสเตียน สแตรนดิโก เสนอรายงานข่าวในหัวข้อที่ว่า “ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกมาสถานใด ก็มิใช่เป็นคลื่นลูกใหญ่ที่สร้างความสั่นสะเทือนแก่รากฐานทางเมืองอันมั่นคงของสถาบันฯและทหารที่มีบารมีต่อการปกครองประเทศมายาวนานได้...
...“ตรงกันข้ามหากศาลฯตัดสินให้พลเอกประยุทธ์พ้นหน้าที่ไป อาจทำให้สถาบันฯ กับ กองทัพมีอำนาจทางการเมืองเข้มแข็งมั่นคงขึ้นไปอีกเป็นไปได้สูง ด้วยเหตุว่าฝ่ายอนุรักษ์นิยมที่รักเคารพเทิดทูนในสถาบันพระมหากษัตริย์ และนิยมชมชอบกองทัพยังมีอยู่มากในประเทศไทย ดังนั้นความพยายามนำนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งลี้ภัยอยู่ต่างประเทศกลับบ้านอย่างสะดวกสบายโดยไม่ติดคุกคงไม่ง่ายดังที่ฝ่ายค้านเข้าใจ..”
ดิ โพลแมต ให้รายละเอียดว่า หากศาลฯหากตัดสินให้พลเอกประยุทธ์ พ้นจากหน้าที่ตามที่ฝ่ายค้านร้องเรียนว่า พลเอกประยุทธ์ต้องพ้นจากหน้าที่เพราะครบกำหนดแปดปีตาม รธน. 2560 แล้ว อาจทำให้ฐานการเมืองของสถาบันฯและทหารเข้มแข็งขึ้นไปอีก เพราะฝ่ายอนุรักษ์นิยมผู้จงรักภักดีต่อสถาบันฯและชื่นชมทหารสายเหยี่ยวจะเลือกนักการเมืองที่เป็น Proxy หรือพรรคการเมืองทำงานแทนฝ่ายพลเอกประยุทธ์กลับเข้ามา สาเหตุเพราะว่าฝ่ายอนุรักษ์นิยมทั้งเกลียดและกลัวนายทักษิณ (ดิโพลแมต ไม่ได้ให้เหตุผลว่าเกลียดและกลัว นายทักษิณเพราะอะไร แต่ในฐานะผู้สังเกตการณ์อนุมานได้ว่าคนไทยทั้งเกลียดทั้งกลัวว่าสัมภเวสีหนีคุกจะกลับมาโกงชาติและไม่เคารพกฎหมาย=ผู้เขียน”)
ดิ โพลแมต ให้รายละเอียดด้วยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ พลเอกประวิตรวงษ์สุวรรณ ผู้รักษาการนายกรัฐมนตรี ในระหว่างที่รอศาลวินิจฉัยอนาคตทางการเมืองของพลเอกประยุทธ์นั้น พลเอกประวิตรเป็นนายพลรุ่นพี่ที่เคยเป็นสหายร่วมรบกับพลเอกประยุทธ์มานานหลายทศวรรษเป็นเหตุให้ทั้งสองรักกันเหมือนพี่น้องคลานตามหลังกันมา ดังนั้น ฝ่ายอนุรักษ์นิยมซึ่งมีอยู่จำนวนมากต้องเลือกพรรคที่พลเอกประวิตรเป็นหัวหน้าหรือไม่ก็พรรค Proxy ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นตัวแทนพลเอกประยุทธ์ในการเลือกตั้งสมัยหน้าที่จะมาถึง
ดิโพลแมต สาธยายต่อไปว่า ฝ่ายค้านได้พยามยามมาหลายปีที่จะโค่นล้มพลเอกประยุทธ์ ทั้งในสภา และการประท้วงนอกสภาแต่ความพยายามที่ผ่านมาไม่ได้สร้างความระคายเคืองให้พลเอกประยุทธ์ ฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจพลเอกประยุทธ์ สามครั้งตั้งแต่ปี 2562 ครั้งล่าสุดเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งสุดท้ายของสภาชุดนี้เมื่อกรกฎาคมที่ผ่านมา แต่พรรคเพื่อไทย ก็พ่ายแพ้เสียงสนับสนุนในสภาเช่นเคยเหมือนที่ผ่านมา ฝ่ายค้านเคยเสนอเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาถึงสถานะนายกรัฐมนตรีของพลเอกประยุทธ์มาแล้วสองครั้งในปี 2562 และ ปี 2563 แต่พลเอกประยุทธ์ก็ผ่านพ้นมาได้
สาเหตุที่พ่ายแพ้อาจเป็น เพราะพรรคฝ่ายค้านไม่มีหมัดน็อก ไม่มีข้อมูลเด็ดคว่ำรัฐบาลมีแต่สำนวนโวหารที่ไม่มีหลักฐานในเชิงประจักษ์ ดังที่ฝ่ายค้านกล่าวหาว่า รัฐบาลว่าล้มเหลวในเรื่องบริหารจัดการวิกฤตโควิด-19 หรือรัฐบาลไม่มีประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจตลอดถึงทุจริตคอร์รัปชั่น
คนรุ่นใหม่ที่เป็นแนวร่วมสำคัญของฝ่ายต่อต้านพลเอกประยุทธ์ ก็เช่นกัน ที่เคยมีผู้สนับสนุนหลายหมื่นหลายพันคนเมื่อเริ่มต้นเคลื่อนไหวต่อต้านสถาบันพระมหากษัตริย์ และพลเอกประยุทธ์ในต้นปี 2562 แต่คนรุ่นใหม่ไม่สามารถรักษาความนิยมอยู่ได้นาน เนื่องจากถูกต่อต้านจากฝ่ายอนุรักษ์นิยมที่เทิดทูนสถาบันฯ และชื่นชมทหารประกอบกับการเคลื่อนไหวที่ไร้ประสิทธิภาพในองค์กร ขาดประสบการณ์ไม่มีแผนงานที่ชัดเจน
การเคลื่อนไหวของคนรุ่นใหม่ ใช้อารมณ์ความรู้สึกรุนแรงที่แสดงออกถึงความเกลียดชังสถาบันฯ การปราศรัยในที่ชุมนุมประท้วงด้วยวาจากักขฬะ หยาบช้า โจมตีสถาบัน เป็นเหตุให้แกนนำถูกดำเนินคดีด้วยกฎหมายอาญา มาตรา 112 หลายรายทำให้ขบวนการคนรุ่นใหม่เสื่อมถอยลงไปในระยะเวลาอันสั้น
ดังนั้นเมื่อศาลรัฐธรรมนูญกำหนดอ่านคำพิพากษาในวันที่ 30 กันยายน จึงคาดการณ์ได้ล่วงหน้าไม่ว่าศาลรัฐธรรมนูญตัดสินออกมา สถานใดจะไม่เป็นคลื่นลูกใหญ่ที่สร้างความสั่นคลอนให้กับสถาบันฯและทหารซึ่งมีฐานสนับสนุนจากฝ่ายอนุรักษ์นิยมมาอย่างยาวนานได้
เอาเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟัง เพราะเห็นว่าสื่อที่เป็นไอโอของสหรัฐ ซึ่งมักออกข่าวในแง่ลบต่อประประเทศไทยได้ วิเคราะห์สถานการณ์ออกมาอย่างนี้ จึงเป็นเรื่องที่ควรนำเสนอให้คนไทยส่วนใหญ่ที่ยังกังวลใจว่า หลังจากวันที่ 30 ก.ย.2565 ประเทศไทยจะเป็นอย่างไร เนื่องจากฝ่ายต่อต้าน พลเอกประยุทธ์ ท่องเป็นนกแก้วนกขุนทองอยู่ตลอดเวลาว่า แลนด์สไลด์ๆ
หากพิเคราะห์ตาม ดิ โพลแมต รายงานและวิเคราะห์จากพื้นฐานความเป็นจริงที่สัมผัสได้ก็จะพบว่า การเมืองไทยจะเป็นการเมืองที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเหมือนที่เคยเป็นมาและเป็นอย่างนี้ตลอดไป คือไม่ราบรื่นทีเดียว แต่ก็ไม่รุนแรงจนเกินไปและสิ่งหนึ่งที่รับประกันได้ คือ การเลือกตั้งครั้งต่อไปไม่มีคำว่าแลนด์สไลด์
สัมภเวสีหนีคุก ก็ต้องทนทุกข์อยู่ต่างแดนต่อไปถึงอย่างไรประเทศนี้มีพระสยามเทวาธิราชคอยปกป้องคุ้มครองป้องกันไม่ให้คนชั่วได้กลับมามีอำนาจอีกต่อไป
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี