“โศกนาฏกรรมหนองบัวลำภู..ฟางเส้นสุดท้ายต้องปฏิรูประบบพิทักษ์สันติราษฎร์” ตำรวจเครียดจัดฆ่าตัวตายสูง และฆ่าผู้อื่นตาย “ตำรวจเป็นข้าราชการที่มีการฆ่าตัวตายสูงสุดและฆ่าผู้อื่นตาย” เกิดกรณีกราดยิงที่หนองบัวลำภู ที่มีผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตจำนวนมาก ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในองค์กรตำรวจนั้น มีสาเหตุ 1.เป็นระบบรวมศูนย์อำนาจทางดิ่ง ทำให้เกิดพฤติกรรมเบี่ยงเบน ทั้งนายและพลตำรวจ 2.ตำรวจผู้น้อยถูกบีบคั้นจากทั้งข้างบนและข้างล่าง ถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องเก็บส่วยและต้องส่งส่วยให้นาย ทำให้ถูกมองในแง่ลบจากสายตาประชาชน
3.ภาระหนักเกิน ลองไปดูที่สถานีตำรวจยามค่ำคืน เพราะต้องรับภาระอย่างโดดเดี่ยว และ4.เงินเดือนน้อย ต่างจากตำรวจญี่ปุ่นที่เงินเดือนสูงกว่าข้าราชการอื่นๆ เพราะต้องคัดเลือกอย่างพิถีพิถัน ทั้งนี้ “หลักคิดในการปฏิรูป” ใช้หลักคิดระบบภูมิคุ้มกันประเทศ เลียนแบบระบบร่างกายมนุษย์ซึ่งเป็นระบบที่ดีที่สุดในจักรวาล ร่างกายมนุษย์แม้จะสมบูรณ์แข็งแรงเพียงใดถ้าไม่มีระบบภูมิคุ้มกันชีวิตก็ไม่รอด เพราะภยันตรายเกิดขึ้นทั้งจากภายในและภายนอกตัว
ระบบภูมิคุ้มกันจึงสำคัญยิ่งและเชื่อมโยงกับระบบอื่นๆ ทุกระบบ ประเทศก็ควรมีระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงและเชื่อมโยงกับระบบอื่นๆ ทุกระบบ ระบบตำรวจเป็นส่วนหนึ่งของระบบภูมิคุ้มกันแบบมีส่วนร่วม ไม่ใช่ทั้งหมด “แนวทางปฏิรูประบบตำรวจ” ประกอบด้วย 1.กระจายอำนาจพิทักษ์สันติราษฎร์ไปสู่ชุมชนท้องถิ่น ให้มีตำรวจที่ขึ้นกับชุมชนและตำรวจที่ขึ้นกับท้องถิ่น
ยามชุมชนก็คือตำรวจของชุมชนได้รับเงินเดือนจากชุมชนจะรับผิดชอบต่อชุมชนสูง เพราะถ้าไม่รับผิดชอบชุมชนเขาก็ไล่ออก ตำรวจที่ขึ้นกับท้องถิ่นก็เช่นเดียวกันตำรวจชุมชนและตำรวจท้องถิ่น ไม่ต้องมีหน้าที่รีดไถส่งส่วยนาย ตำรวจจึงเป็นที่รักของประชาชน ทุกชุมชนและท้องถิ่นควรมีตำรวจของตัวเองและถนอมรักตำรวจของตัวเองอย่างดี มีเงินเดือนและสวัสดิการสูง2.ลดภาระความรับผิดชอบ อะไรที่ให้คนอื่นทำได้ก็ควรกระจายภารกิจออกจากตำรวจ ชุมชนท้องถิ่นควรจัดให้มีอาสาสมัครความปลอดภัยของชุมชนและท้องถิ่น ดูแลความปลอดภัย
ทุกอย่างเป็นชุมชนปลอดภัย ท้องถิ่นปลอดภัย ทีมอาสาสมัครความปลอดภัยชุมชนท้องถิ่นทำงานเป็นทีมกับตำรวจชุมชนและตำรวจท้องถิ่น อย่างมีเกียรติมีศักดิ์ศรี มีศักยภาพ “แค่ 2 ประการนี้ คือ การกระจายอำนาจไปสู่ชุมชนท้องถิ่น และระบบความปลอดภัยของชุมชนท้องถิ่นก็จะส่งผลให้ประชาชนมีความปลอดภัยสูง ตำรวจทั้งประเทศมีเกียรติมีศักดิ์ศรี เป็นที่รักของประชาชน ไม่เครียดอีกต่อไป” โดยสรุปทั้งประชาชนและตำรวจ ต่างถนอมรักซึ่งกันและกัน
ประการต่อมา “ปฏิรูปบทบาทขององค์กรตำรวจส่วนกลาง” เมื่อองค์กรตำรวจส่วนกลางเหลือกำลังพลน้อย เพราะตำรวจเกือบทั้งหมดไปขึ้นกับชุมชนท้องถิ่นแล้ว องค์กรตำรวจส่วนกลางแม้มีขนาดเล็กแต่มีบทบาทใหญ่ คือ 1.สนับสนุนระบบตำรวจทางวิชาการ 2.บทบาททางนโยบาย และ 3.เสริมกำลังตำรวจชุมชนท้องถิ่นในกรณีมีปัญหาที่เกินความสามารถของกำลังในชุมชนท้องถิ่น
“ในทางวิชาการนั้น ต้องวิจัยสำรวจความปลอดภัยของประชาชนทั่วประเทศ และนำมาสังเคราะห์เป็นนโยบายและยุทธศาสตร์ความปลอดภัยของประชาชนทั้งประเทศ และทำการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์ ทำโครงการฝึกอบรมตำรวจทั้งประเทศให้มีคุณธรรมและสมรรถนะสูง” ตำรวจส่วนกลางก็ควรมีเงินเดือนและสวัสดิการสูงเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี ดังนี้ ตำรวจทั้งประเทศจะเป็นคนเก่งและคนดี เป็นที่รักของประชาชน ไม่เป็นต้นเหตุของโศกนาฏกรรม แต่เป็นผู้ป้องกันโศกนาฏกรรมทางสังคม
กลไกในการปฏิรูประบบพิทักษ์สันติราษฎร์คือ “คณะกรรมการอิสระปฏิรูประบบตำรวจ” ต้องเข้าใจหลักการของคณะกรรมการอิสระ อันได้แก่ การเฟ้นหาประธานซึ่งมีปัญญาบารมีเป็นที่เชื่อถือของสังคมแล้วให้ประธานเลือกกรรมการเอง โดยรัฐบาลไม่เข้าไปเกี่ยวข้องนายกรัฐมนตรีแต่งตั้งคณะกรรมการอิสระตามข้อเสนอของประธานรัฐสนับสนุนและเอื้ออำนวยความสะดวกในการทำงานของคณะกรรมการอิสระทุกทาง
ขอเสนอ ดร.กิตติพงษ์ กิตยารักษ์ เป็นประธานคณะกรรมการอิสระปฏิรูประบบตำรวจท่านเป็นอดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม มีแนวคิดเรื่องการปฏิรูประบบความยุติธรรมแนวคิดประสบการณ์เรื่องระบบความยุติธรรมชุมชน ซึ่งพบว่าตำรวจคนเดียวกัน ถ้าอยู่ในระบบความยุติธรรมแนวดิ่งจะเป็นที่เกลียดชังของประชาชน แต่ถ้าอยู่ในระบบความยุติธรรมชุมชนจะเป็นที่รักของประชาชน แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า “ระบบ” กำหนดพฤติกรรมของบุคคล ไม่ใช่ กรรมส่วนบุคคลอย่างเดียว จึงสมควรปฏิรูประบบ
ขออวยพรให้การปฏิรูประบบตำรวจสัมฤทธิิผล ประชาชนปลอดภัย ตำรวจทั้งประเทศเป็นคนเก่งและคนดี เป็นที่ถนอมรักของประชาชน!!!
ศ.(เกียรติคุณ) นพ.ประเวศ วะสี
‘ราษฎรอาวุโส’
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี