หลังจากสหรัฐในสมัยประธานาธิบดีทรัมป์ได้ประกาศยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก ที่ถือเอาจีนเป็นภัยคุกคามที่จะต้องต่อต้าน จำกัดการขยายตัวและทำลายแม้กระทั่งการใช้แสนยานุภาพทางทหารเพื่อทำสงคราม นับเป็นท่าทีที่หนักหน่วงรุนแรงที่สุดที่สหรัฐเคยปฏิบัติต่อประเทศจีน
หลังจากนั้นก็มีการจัดตั้งแกนปฏิบัติการทั้งสามภูมิภาค คือตั้งแกน QUAD รับผิดชอบพื้นที่มหาสมุทรอินเดีย ตั้งแกน AUKUS รับผิดชอบพื้นที่มหาสมุทรแปซิฟิก และตั้งแกนอาเซียนเพื่อรับผิดชอบพื้นที่ภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้มีการแถลงการณ์ร่วมที่ประเทศไทยเข้าร่วมยุทธศาสตร์นี้ในปี 2561
หลังจากนั้นก็เกิดการเคลื่อนไหวมากมายหลายประการทั้งด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการทหาร เพื่อดำเนินการตามยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก ซึ่งชูธง “เสรีและเปิดกว้างอย่างทั่วด้าน” หมายความว่าสหรัฐและนาโตมีเสรีอย่างทั่วด้านที่จะเข้ามาปฏิบัติการใดๆ ในบรรดาประเทศที่เป็นภาคียุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก และบรรดาประเทศภาคีเหล่านั้นก็ต้องเปิดกว้างอ้าซ่ายอมให้เขาเข้ามาทำการทุกอย่าง แม้กระทั่งส่งกองทัพเข้ามาใช้ดินแดนเป็นฐานทัพเพื่อก่อความขัดแย้งหรือความรุนแรงหรือปฏิบัติการทางทหารต่อประเทศจีน
ตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นมา บรรดาข้อตกลงหลายประการที่ประเทศไทยเคยทำไว้กับประเทศจีนได้ถูกยกเลิกเพิกถอน หรือไม่ปฏิบัติ หรือเบี่ยงเบนการปฏิบัติ จนไม่สามารถปฏิบัติให้เป็นไปตามความตกลงนั้น
ยกตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดคือ ข้อตกลงไทย-จีน ในการสร้างรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน หนองคาย-โคราช, โคราช-กรุงเทพฯ และสระบุรี-แหลมฉบัง-มาบตาพุด ซึ่งเป็นข้อตกลงคู่ขนานกันข้อตกลงที่จีนจะต้องซื้อข้าวเน่า 1 ล้านตัน ข้าวดี 1 ล้านตัน และยางพารา 2 แสนตันจากประเทศไทย
สภานิติบัญญัติแห่งชาติได้ลงมติให้ความเห็นชอบให้รัฐบาลดำเนินการตามข้อตกลงนั้นตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติในปลายปี 2557 ซึ่งรัฐบาลมีหน้าที่ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติซึ่งปฏิบัติหน้าที่รัฐสภาได้ให้ความเห็นชอบไว้ ทั้งนี้เพื่อเป็นการคุ้มครองรักษาประโยชน์แห่งรัฐ แต่ปรากฏว่ามีการบูดเบี้ยวบิดตะกูดไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติได้อนุมัติไว้จนกระทั่งถึงบัดนี้
ยกเว้นการขายข้าวเน่า ข้าวดี และยางพาราให้แก่จีน ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศไทย และฝ่ายจีนก็ปฏิบัติตามข้อตกลง จนกระทั่งถึงวันนี้การก่อสร้างทางรถไฟตามที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติได้อนุมัติไว้เพิ่งสร้างเสร็จเพียง 3.5 กิโลเมตร จากบ้านกลางดงไปบ้านปางสีดา ซึ่งเป็นการก่อสร้างที่วิปริตผิดเพี้ยนที่สุดในโลก
แม้กระนั้นแล้วก็ยังมีการปล่อยข่าวสร้างกระแสลวงโลกให้คนไทยหลงเชื่อว่ากำลังพัฒนาเชื่อมต่อประเทศไทยและเชื่อมประเทศไทยกับโลกด้วย ช่างไม่รู้จักอายกันบ้างเลย
นั่นคือตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดและในขณะเดียวกันก็มีการสร้างกระแสต่อต้านจีน ขับไล่จีน ด้อยค่าจีน และสร้างความเกลียดชังประเทศจีนอย่างต่อเนื่อง และยกระดับความรุนแรงมากขึ้นโดยลำดับ นี่คือสิ่งที่ปรากฏชัดเจนตลอดระยะเวลา 1 ปีมานี้
และนี่ก็คือการใช้ IO หรือแนวรบสื่อมวลชน และแนวรบทางด้านวัฒนธรรม เพื่อบ่อนทำลายความสัมพันธ์ไทย-จีน และด้อยค่าประเทศจีนเท่านั้น
ไม่ต่างกับยุคสงครามเย็นที่มีการปฏิบัติในลักษณะเดียวกัน ถึงขั้นสร้างภาพลักษณ์ว่าจีนเป็นยักษ์เป็นมาร มีการวาดภาพแจกไปทั่วประเทศเป็นรูปประธานเหมา เจ๋อตุง กำลังกินโลกอยู่ โดยใช้แบบราหูอมจันทร์เพื่อสร้างความเกลียดชัง แม้ลิเกก็ร่วมขบวนด้วย เช่น บทออกแขกบางบทที่ว่า “คอมมิวนิสต์มันคิดฉลาด มันจะรื้อวัดทำร้านกาแฟ”
การปฏิบัติลักษณะนี้กำลังกลับคืนมา ดังเช่นปฏิบัติการเรื่องทัวร์ศูนย์เหรียญที่ผลการปฏิบัติก็คือขับไล่ กวาดล้าง ผู้ประกอบการท่องเที่ยวจีนเพื่อสกัดขัดขวางไม่ให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาประเทศไทย ซึ่งสร้างความฉิบหายใหญ่หลวงให้แก่บ้านเมืองและผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั่วประเทศมาแล้ว
ลักษณะของปฏิบัติการคือ เกาะเกี่ยวกับการกระทำความผิดของผู้ประกอบการบางรายแล้วขยายผลให้เกิดกระแสว่าการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวจีนในประเทศไทยนั้นเป็นเรื่องน่าชิงชังรังเกียจ เป็นทัวร์ศูนย์เหรียญ คือเป็นการมาเที่ยวในประเทศไทยโดยไม่มีการจับจ่ายใช้สอยใดๆ ในประเทศไทยเลย เป็นผลให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวจำนวนมากต้องขาดทุน เสียหายและปิดกิจการ โดยรู้แก่ใจดีว่านักท่องเที่ยวจีนที่มาท่องเที่ยวประเทศไทยนั้นได้ใช้เงินในการท่องเที่ยวหรือไม่
มาถึงวันนี้การสร้างกระแสไล่จีน ให้เกลียดชังจีน และด้อยค่าจีนกำลังเกิดเป็นกระแสใหญ่ โดยปูกระแสในลักษณะที่ว่าบ่อนการพนันทั่วประเทศ การค้ายาเสพติดทั่วประเทศ ขบวนการมาเฟียทั่วประเทศไทย เป็นการกระทำของทุนจีน 5 กลุ่มใหญ่ ซึ่งทั้ง 5 กลุ่มนี้ไปเชื่อมต่อกับนายบี และนายบีไปเชื่อมต่อกับนายเอ ส่วนนายเอก็ไปเป็นลูกน้องขึ้นตรงต่อนายเจ้าเหว่ย ประธานคณะกรรมการเขตเศรษฐกิจพิเศษร่วมจีน-ลาว
ตั้งสติกันเถิดพี่น้องไทย บ่อนการพนันทั่วประเทศ การค้าขายยาเสพติดทั่วประเทศ มาเฟียทั่วประเทศไทย เป็นของคนจีนหรือทุนจีน 5 กลุ่มตามที่เป็นข่าวจริงหรือ ไม่มีคนไทยหรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยเกี่ยวข้องเป็นเจ้าของแม้แต่คนเดียวหรือ และทำไมกระแสเหล่านี้จึงใหญ่โตในช่วงที่จะมีการประชุมเอเปกซึ่งมีข่าวว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะเดินทางมาร่วมประชุม
นี่คือการทำร้ายและทำลายประเทศไทย ประชาชนไทย และความสัมพันธ์ไทย-จีน ที่อำมหิตที่สุด เหตุการณ์กำลังหมุนกลับไปสู่ยุคสงครามเย็นเมื่อ 70 ปีก่อนอีกแล้ว แต่จะมีความร้ายแรงและหายนะมากขึ้นหลายร้อยเท่า โดยประเทศไทยและประชาชนไทยทั้งประเทศจะต้องรับชะตากรรมนั้น
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี