คำปาฐกถาของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในที่ประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่กรุงพนมเปญเมื่อวันที่12 พ.ย. ตอนหนึ่งพลเอกประยุทธ์กล่าวว่า.....“#หวังว่ายุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก และข้อริเริ่มอื่นๆ ของสหรัฐฯ อาทิ “ออคัส” (การสนับสนุนให้ออสเตรเลียสร้างเรือดำน้ำเพื่อต่อต้านจีน=ผู้เขียน) กลุ่มภาคี “คว้อด” (ความร่วมมือสหรัฐ อังกฤษ ญี่ปุ่นและออสเตรียเลียในแผนการอินโด-แปซิฟิก=ผู้เขียน) และกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิกจะเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ และหวังที่จะเห็นมหาอำนาจและผู้เล่นสำคัญในภูมิภาคทำงานร่วมกัน เพื่อส่งเสริมความร่วมมือภายใต้หลักการของมุมมองอาเซียนต่ออินโด-แปซิฟิก โดยควรคว้าโอกาสทองจากการประชุมใหญ่สามฟอรั่มในภูมิภาคในห้วงสัปดาห์นี้ เพื่อหารือทางออกที่เป็นไปได้สำหรับวิกฤตที่เร่งด่วน”
#การปรามในทีจากคำปาฐกถาพลเอกประยุทธ์ คงเล็งเห็นว่าผู้นำมหาอำนาจที่ขัดแย้งกันรุนแรงอาจยกเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับเศรษฐกิจการค้าขึ้นมาถกเถียงกันเหมือนกับที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ จี20 ในกรุงจาการ์ตาเมื่อวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งการประชุมครั้งนั้นล่มไม่เป็นท่า เมื่อสมาชิกจี20 บางประเทศนำโดยอเมริการุมกันด่าประณามรัสเซียว่าทำสงครามรุกรานยูเครน จนรมต.ต่างประเทศรัสเซียนายเซอร์เก ลาฟรอฟ สวนกลับอย่างมีอารมณ์ว่า“นี่ไม่ใช่เวทีเศรษฐกิจการค้าแล้ว แต่มันเป็นเวทีโจมตีประณามรัสเซีย..”
พูดเสร็จนายลาฟรอฟนำคณะผู้แทนรัสเซียวอล์กเอาท์จากที่ประชุม ทำให้ประชุมต่อไปไม่ได้ แต่บังเอิญขณะที่ จี20 กำลังประชุมในกรุงจาการ์ตา ได้เกิดเหตุร้ายขึ้นในประเทศญี่ปุ่นคือนายซินโสะ อาเบะ อดีตนายกรัฐมนตรีถูกยิงบนเวทีปราศรัยและเสียชีวิตในเวลาต่อมา การประชุม จี20 ในจาการ์ตาเลยเปลี่ยนจากการเจรจาการค้าผสมกับด่ารัสเซียมาเป็นเรื่องนายอาเบะถูกยิง
การประชุมอาเซียนซัมมิตในกัมพูชา มหาอำนาจทั้งสองฝ่ายหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า ต่างฝ่ายต่างใช้โอกาสพบปะหารือกับพันธมิตรที่ใกล้ชิดของตน นายลี เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน พบปะเจรจาเสริมสร้างความสัมพันธ์กับ สปป.ลาว กัมพูชา และเวียดนาม ฝ่าย ปธน.โจ ไบเดน ก็เน้นเจรจากับญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสิงคโปร์ แต่เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวบอกกับผู้สื่อข่าวว่านายไบเดน จะพบกันซึ่งหน้ากับประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ของจีน ระหว่างการประชุมจี20 ในบาหลี จากท่าทีที่หาแนวร่วมของทั้งสองฝ่ายทำให้นักการทูตตะวันตกทำนายว่าจะมีการถกเถียงกันเรื่องวิกฤตต่างๆ มากว่าการปรึกษาหารือกันในเรื่องความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า
แดนเนียล คริเตนบริงค์ นักการทูตตะวันตกที่ไปสังเกตการณ์ประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในกรุงพนมเปญคาดการณ์ให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า “การประชุมสุดยอดผู้นำในฟอรั่มต่างๆ ที่มีขึ้นในภูมิภาคอาเซียนเจ็ดวันข้างหน้า จะยากลำบากมากเพราะคาดหมายกันว่า จะมีการถกเถียงกันอย่างหนักถึงประเด็นสงครามในประเทศยูเครน เรื่องความตึงเครียดในภูมิภาคนี้ อาทิประเด็นวิกฤตการเมืองในเมียนมา เรื่องความขัดแย้งทะเลจีนใต้ ตลอดถึงเรื่องไต้หวันและเกาหลีเหนือ ผู้นำกลุ่มประเทศ จี20 จะประชุมในบาหลีอาทิตย์หน้า และ ประชุมเอเปกในกรุงเทพฯหลังจากนั้น ผลลัพธ์ที่ตามมาของประเด็นต่างๆ ในภูมิภาค และของโลกจะมาอยู่บนเวทีเหล่านี้ ซึ่งมีความยากมากในการหาข้อยุติในประเด็นที่ผู้นำต่างๆ พูดกัน” นายแดนเนียล กล่าว
สำหรับประเทศไทยที่เป็นเจ้าภาพประชุมเอเปกวันที่ 18-19 พ.ย.มีลางบอกเหตุว่าประเด็นวิกฤตการเมืองในเมียนมา และความตึงเครียดจีน-ไต้หวัน จะมีการถกเถียงกันแทนเรื่องเศรษฐกิจการค้า เพราะเหตุว่าพวกหน้าม้าหากินกับความขัดแย้งเริ่มปรากฏให้เห็นในประเทศไทย เมื่อกลุ่มป่วนเมืองไปเปิดแถลงข่าวในสโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศ (FCCT) ว่าได้ก่อตั้งกลุ่มประชาชนเอเปกขึ้นมา และจะเคลื่อนไหวไปถึงวันที่ 20 พฤศจิกายน
เป็นที่น่าสังเกตว่ากลุ่มป่วนเมือง ที่หลายคนถูกดำเนินคดีอาญาฐานละเมิดมาตรา 112 และได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างพิจารณาคดีอย่างมีเงื่อนไข ซึ่งไม่ได้เคลื่อนไหวสร้างความวุ่นวายอยู่หลายเดือน แต่ประกาศการเคลื่อนไหวหลังจากนายธนาธรจึงรุ่งเรืองกิจ ไปโจมตีประณามพลเอกประยุทธ์ ในเขตเศรษฐกิจไต้หวัน ว่า เป็นลูกไล่จีน และเป็นพันธมิตรใกล้ชิดกับรัฐบาลทหารเมียนมา
ในการให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์นิเคอิ เอเซียในไทเปนายธนาธรกล่าวว่า “ผมยืนหยัดเคียงข้างประชาชนชาวไต้หวัน และขอประณามประยุทธ์ จันทร์โอชาที่ดูเหมือนว่าผวาเข้าสู่อ้อมกอดของปักกิ่งผู้ก้าวร้าวมากขึ้นทุกวัน ตลอดถึงการเป็นพันธมิตรใกล้ชิดกับพลเอกมิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา...”
ในประเด็นความตึงเครียดจีนกับไต้หวันนายธนาธรกล่าวว่า “ผมยืนหยัดเคียงข้างกับประชาชนชาวไต้หวัน ถ้าคุณประสงค์จะเป็นส่วนหนึ่งของประเทศ (จีน) มันต้องมาจากทัศนะของคุณ และถ้าคุณจะเป็นเอกราชมันต้องเป็นความประสงค์ของพวกคุณไม่มีประเทศใดมีสิทธิ์ใช้กำลังยึดครองดินแดนอธิปไตยโดยปราศจากการยินยอม...ผมหมายความถึงการทำสงครามยังไม่มากพอหรือ?”
นิเคอิ เอเซีย รายงานด้วยว่าก๋งของนายธนาธร ทั้งผัวทั้งเมียมาจากฟูเฉียนเมืองตะวันตกเฉียงใต้ของจีน และเขามีญาติอยู่ไต้หวันด้วย “ไต้หวันเป็นประชาธิปไตยไม่ใช่ส่วนหนึ่งของนโยบายจีนเดียว” นายธนาธรกล่าว
ส่วนการแถลงในที่ประชุม oslo ฮิวแมนไรท์ฟอรั่มซึ่งจัดขึ้นในไทเป นายธนาธรกล่าวว่า พลเอกประยุทธ์ กำลังนำประเทศไทยเข้าไปใกล้ชิดแนบแน่นกับจีน ทั้งด้านเศรษฐกิจการค้า การทูตและการทหาร “เรือดำน้ำเราซื้อจากจีน รถไฟความเร็วสูงก็ซื้อจากจีนพลเอกประยุทธ์ทำให้ประเทศไทยเป็นเขตเศรษฐกิจของจีนไม่ว่าคุณไปที่ไหนจะเห็นรอยเท้าคนจีน เหมือนกับที่เห็นในเมียนมา
นายธนาธรยังประณามรัฐบาลไทย ที่ไม่เปิดทางให้ภาคประชาสังคมนานาชาตินำความช่วยเหลือไปให้ชาวเมียนมาที่หนีตายจากการปราบปรามของรัฐบาลทหารเมียนมา และรัฐบาลไทยไม่อำนวยความสะดวกให้ผู้ลี้ภัยชาวเมียนมาเข้ามาอยู่ในความดูแลของนานาชาติ
“ผมเศร้าใจมากที่รัฐบาลไทยให้การสนับสนุนพลเอกมิน อ่อง หลาย เพราะนั่นไม่ใช่ความประสงค์ของคนไทย แต่เราทำอะไรไม่ได้จนกว่าประเทศไทยจะมีรัฐบาลประชาธิปไตย”
นายธนาธรคุยโวให้ที่ประชุมฟังด้วยว่า การเลือกตั้งในเดือน พ.ค. (2566 ตามที่ กกต. กำหนดล่วงหน้า) ฝ่ายประชาธิปไตยซึ่งเป็นฝ่ายค้านปัจจุบัน จะชนะเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย “ผมมั่นใจว่าหลังจากการเลือกตั้งประเทศไทยต้องมีรัฐบาลผสมของฝ่ายประชาธิปไตย เมื่อถึงวันนั้นผมจะรีเซตนโยบายเมียนมาใหม่ กดดันให้พลเอกมิน อ่อง หล่าย ยอมถ่ายโอนอำนาจเป็นประชาธิปไตย โดยใช้เงื่อนไขที่มีชาวเมียนมาอยู่ในประเทศกว่าหนึ่งล้านคน และการค้าขายผ่านชายแดนมูลค่ามหาศาลเป็นเงื่อนไขในการต่อรอง เราจะรับผู้อพยพชาวเมียนมาเข้ามาให้นานาชาติดูแล”
นิเคอิ เอเซีย รายงานด้วยว่า พรรคอนาคตใหม่ของนายธนาธรที่ถูกยุบและเปลี่ยนชื่อเป็นพรรคก้าวไกลเป็นพรรคการเมืองพรรคเดียวในประเทศไทยที่กล้าเสนอให้ปฏิรูปราชวงศ์
นายธนาธรคุยโม้ให้ฝรั่งฟังอีกมากมาย แต่ส่วนใหญ่โจมตีพลเอกประยุทธ์ว่า เป็นพันธมิตรและสนับสนุนช่วยเหลือพลเอกมิน อ่อง หล่าย “หากประเทศไทยสามารถยับยั้งการปฏิวัติรัฐประหารเมื่อปี 2557 ได้การยึดอำนาจในเมียนมาเมื่อวันที่ 1 เดือน ก.พ. 2564 อาจไม่เกิดขึ้นและชาวเมียนมา 1,700 คน คงยังอยู่รอดปลอดภัยไม่ถูกฆ่าตาย”
ทั้งหมดที่นายธนาธรไปเปิดประเด็นในเกาะไต้หวัน เหมือนการเป็นหน้าม้าให้มหาอำนาจตะวันตกอ้างความชอบธรรมในการประณามจีน และเมียนมาในที่ประชุม จี20 และอาจลามมาถึงการประชุมเอเปกในประเทศไทย จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลไทยต้องเตรียมความพร้อมไว้ล่วงหน้า เพราะหน้าม้าที่รับเงินรับงานจากตะวันตกเริ่มออกอาละวาดแล้ว
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี