แน่ชัดแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเดินหน้าการเมืองต่อ และเดินในแบบที่ต่างไปจากครั้งก่อน คือ ครั้งนี้ จะเป็น “สมาชิกพรรคการเมือง” ด้วย
โดยเมื่อวันที่ 3 ม.ค.2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงท่าทีทางการเมืองในการไปสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ว่า “การเมืองอีกแล้ว ก็เนี่ยก็รอหน่อยสิ เดี๋ยวก็ไปเองแหละ”
จากนั้นก็ไล่ตอบคำถามนักข่าวไปทีละข้อ สรุปประเด็นได้ว่า
1) การไปสมัครเข้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ต้องดูวันที่เหมาะสม เมื่อถามว่าจะเร็วๆ นี้หรือภายในสัปดาห์นี้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยท่าทีไม่อยากตอบคำถามว่า
“เอ้ย จะวันไหนก็ไม่ได้สำคัญอะไรหนักหนา”
2) ถามว่าที่นายกฯบอกจะไปสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ นั่นหมายถึงจะรับตำแหน่งอะไรในพรรคด้วยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดอะไรทั้งสิ้น
3) ถามอีกว่า จะไปเป็นประธาน ซูเปอร์บอร์ด ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ตามข่าวลือหรือเปล่า พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อย่าไปพูดอย่างนั้นสิ พูดอย่างนั้น ใครออกไปพูดก็ไม่รู้เรื่อง ซูเปอร์บอร์ดบ้าง และเรื่องอะไรอีกนะผู้สื่อข่าวตอบว่าประธานพรรค พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ผมยังไม่ได้ตัดสินใจอะไรเลยสักอย่าง ผมแค่จะไปสมัครเป็นสมาชิกก่อนก็เท่านั้น เออ จะได้ไม่มีปัญหามากนัก”
4) เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ บอกว่าไม่ได้เป็นคู่แข่งนายกฯเพราะนายกฯเป็นน้อง แต่สุดท้ายใครดีใครได้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “อ้าว ในฐานะหัวหน้าพรรคท่านก็ต้องพูดอย่างนั้นละมั้ง ใช่ไหม มันเป็นเรื่องของการเมือง”
5) ถามว่า พล.อ.ประวิตรให้พรปีใหม่อย่างไรหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็เหมือนเดิมแหละ ไม่มีปัญหาอะไร ตนก็ไปคุยกับท่าน เสาร์ อาทิตย์ ก็ไปคุยกับท่าน ไม่ใช่ว่าเออทะเลาะกัน ไม่เคยทะเลาะกัน ทะเลาะกันไม่ได้อยู่แล้วนะจ๊ะ เมื่อวันเสาร์ อาทิตย์ ตนก็ไปคุยกับท่านมา นั่งกันอยู่เป็นชั่วโมง ก็คุยกระเซ้าเย้าแหย่กันเหมือนเดิมไม่ได้มีปัญหาอะไรทั้งสิ้น
6) เมื่อถามอีกว่า แค่ในการทางเมืองมีความเห็นต่างกันใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็ถามเองก็ตอบเองได้อยู่แล้ว
7) ถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าพรรครวมไทยสร้างชาติจะสามารถนำสส.มาได้มากกว่า 25 เสียงเพื่อเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯแข่งกันในสภา พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตนจะมั่นใจได้อย่างไรก็ต้องถามประชาชนสิจ๊ะ คนเลือกไม่ใช่ฉันเองนะ ฉันจะประเมินตัวเองไม่ได้ ต้องให้ประชาชนเป็นคนประเมิน เพราะทุกอย่างเป็นการเลือกตั้ง กระบวนการทางประชาธิปไตยก็ว่ากันไป ตามรัฐธรรมนูญก็ว่ากันไป ส่วนใครจะได้ไม่ได้เป็นเรื่องของประชาชนที่จะตัดสินใจ ไม่ใช่เราจะไปกำหนดได้ เราจะไปคาดหวังนี่โน่นไม่ได้หรอก
8) เมื่อถามว่านายกฯจะเหวงๆหรือไม่ที่ไม่มี พล.อ.ประวิตรเดินเคียงคู่ในทางการเมืองพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “คือใจมันถึงใจกันอยู่แล้ว ก็เรื่องอื่นก็คือเรื่องอื่นการเมืองก็ว่ากันไป ผมก็เรียนท่านไปแล้วว่าเราไม่ใช่คู่ขัดแย้งกัน ไม่ใช่ การเมืองต้องไม่ใช่คู่ขัดแย้งกันไม่ว่าจะพรรคไหนก็ตาม เพราะเราทำเพื่ออะไร เพื่อประเทศไทยใช่ไหม ไม่ว่าจะพรรคฝ่ายค้านฝ่ายรัฐบาล ประเทศไทยใช่ไหม เราทำเพื่อคนไทยใช่ไหม ฉะนั้นอะไรต่างๆ ก็ตาม ที่ไม่ใช่เรื่องจะมาเป็นประเด็นขัดแย้งกันสู่การเลือกตั้ง ผมไม่อยากให้ทำอันตราย”
9) เมื่อถามว่าจะเป็นปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1 ของพรรครวมไทยสร้างชาติหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ปฏิเสธที่จะตอบคำถามพร้อมเดินออกจากวงสัมภาษณ์
10) เมื่อถามอีกว่าระยะเวลาที่เหลือ 2 ปีจะเอาอะไรเป็นจุดขายเพื่อให้ได้กลับมา พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อยู่ก็ทำงานให้มันจบ ให้เรียบร้อย ราบรื่น
สรุปว่า : จะไปสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติแน่ เรื่องนี้วิเคราะห์กันได้ไม่ยาก เพราะการไม่เป็นสมาชิกพรรค อยู่แบบคนนอกเหมือนที่เคยอยู่กับพรรคพลังประชารัฐนั้น ทำให้เข้าไปบริหารจัดการ ร่วมคิด ร่วมประชุม และขึ้นเวทีปราศรัย ก็กังวลเรื่องข้อกฎหมาย จึงต้องขจัดอุปสรรคและความเสี่ยงในเรื่องนี้ก่อน
ถัดมา คือ พรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นการเดินเกมที่ซ้ำกับพรรคพลังประชารัฐ ในขณะที่ฐานการเมือง + กลไกมหาดไทย + กลไกทหาร ไม่ได้แน่นหรือแข็งเท่ากับยุคที่ใช้พรรคพลังประชารัฐเป็นนั่งร้าน จุดขายเดียวของพรรครวมไทยสร้างชาติ คือ “ลุงตู่” หากไม่แสดงความเป็นหนึ่งเดียวกับพรรค คนเลือกก็จะลังเล คนที่คิดจะย้ายพรรคมาสมทบก็กังวล ลุงตู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ จึงต้องแสดงตนถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอย่างแท้จริง และสามารถเดินสายปราศรัย หาเสียง หรือลงพื้นที่ในนามพรรครวมไทยสร้างชาติได้ แยกบทบาทระหว่างการเป็นนายกฯ และหัวหน้าพรรค นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ก็เป็นเลขาธิการนายกฯ ด้วยลดคำครหา ลดคำถามของสังคม เหมือนตอนไปเปิดงานรำลึก ร.6 ที่นครปฐม แต่ป้ายนายพีระพันธุ์เนืองแน่นไปทั้งงาน จากนี้จะได้ไม่ต้อง “เคอะเขิน” และใช้วิธีเช่นนี้ให้เป็นที่ติฉินนินทาอีก กกต. ก็อย่าลืม ตรวจสอบเรื่องป้ายด้วยล่ะ
ส่วนเรื่อง “ยุบสภา” หรือ “อยู่ครบเทอม” นั้น
ก) นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการยุบสภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้เปรยบ้างหรือไม่ ว่า ก็ไม่ได้เปรยมาก แต่เราก็พอรับรู้กัน ซึ่งความเห็นตนมองว่าน่าจะยุบสภาแน่นอนอยู่แล้ว แต่น่าจะยุบใกล้ๆรัฐบาลครบวาระ วันนี้บางที สส.ในพรรคหรือต่างพรรคก็กังวลว่าถ้ารัฐบาลครบวาระแล้วจะย้ายพรรคไม่ได้ ซึ่งตนได้บอกเพื่อนในกลุ่มสส.ว่า นายกรัฐมนตรียุบสภาแน่นอนไม่ต้องกังวล เพราะตัวของตนก็อยู่พรรคพลังประชารัฐและตัดสินใจจะอยู่กับนายกรัฐมนตรีแล้ว ซึ่งก็รู้อยู่แล้วว่าพล.อ.ประยุทธ์ ไปอยู่พรรคไหน เพราะฉะนั้น พล.อ.ประยุทธ์ต้องยุบสภาอยู่แล้ว เพื่อให้พวกเราย้ายพรรคได้
“ความเห็นของผม เท่าที่ผมประเมิน และได้คุยได้ฟังทุกฝ่ายที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันก็มั่นใจว่าพล.อ.ประยุทธ์ จะยุบสภาช่วงใกล้ครบวาระ” นายธนกร กล่าว
ส่วนความชัดเจนการสมัครสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติของ พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นในช่วงเดือนมกราคมนี้เลยหรือไม่ หรือในช่วงใด นายธนกรกล่าวว่า คาดว่าจะภายในเดือนมกราคมนี้ ซึ่งเขาคงมีการพูดคุยกันแล้ว
ข) นายสมคิด เชื้อคง สส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทยฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวโดยเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม จะประกาศยุบสภา ช่วงกลางเดือนมีนาคม 2566 เพราะต้องการลากอำนาจยาวเพื่อให้พรรครวมไทยสร้างชาติแต่งตั้งให้เสร็จและพร้อมส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง และรอให้พรรคการเมืองบางพรรคดึงสส.ต่างพรรคไปอยู่ใต้สังกัด ส่วนตัวเชื่อว่าการย้ายพรรคยังเกิดขึ้นเรื่อยๆ
“การเมืองปี 2566 เป็นปีที่ประชาชนจะพิสูจน์ว่ารัฐบาลชุดนี้จะได้ไปต่อหรือไม่ คงต้องไปวัดกันในสนามเลือกตั้ง เป็นการวัดความนิยมระหว่างฝ่ายรัฐบาลและ
ฝ่ายค้านในสนามเลือกตั้งครั้งหน้า ทั้งนี้หวังว่าเมื่อผลการเลือกตั้งออกมาอย่างไรทุกฝ่ายต้องยอมรับผลการตัดสินใจของประชาชน” นายสมคิด กล่าว
นายสมคิดกล่าวด้วยว่าสำหรับการเลือกตั้งที่จะมาถึงจะทวีความเข้มข้น และเป็นการแข่งขันที่ดุเดือด โดยเฉพาะพรรคการเมือง ที่สะสมกระสุนดินดำสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้าไว้เยอะ นักการเมืองหลายคน จะใช้กระสุนดินดำออกมาเพื่อจูงใจให้ประชาชนเลือกตั้งพรรคที่ตนสังกัด
“ภายหลังการเลือกตั้งไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์ที่พรรคที่ได้อันดับหนึ่งไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล เพราะประชาชนตาสว่างแล้ว การที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะสืบทอดอำนาจ
ต่อไปประชาชนคงไม่ยอม ทั้งนี้ภายใต้การบริหารของพลเอกประยุทธ์ ประชาชนต้องพบกับความยากลำบากในการใช้ชีวิตมาก ในขณะที่พรรคเพื่อไทยเดินหน้าทุกเขตเลือกตั้ง เพื่อไปบอกพี่น้องประชาชนถึงนโยบายของพรรคที่จะมาพลิกชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น”นายสมคิด กล่าว
ค) ส่วนความเห็นของผมนั้น คิดว่า พล.อ.ประยุทธ์ คงเลือกวิธี “ยุบสภา” แต่คงไม่รีบร้อนยุบ คงใช้เวลาให้นานที่สุดในการสร้างความรับรู้เรื่อง “พรรครวมไทยสร้างชาติ” ที่ค่อนข้าง “โนเนม” หากไม่มี “ลุงตู่”เราคงได้เห็นการหนีบเอาพีระพันธุ์ไปออกงานต่างๆ มากขึ้น เราคงเห็นการเคลื่อนของพรรครวมไทยสร้างชาติชัดเจนขึ้น ทั้งการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร นโยบาย และอื่นๆ สำคัญที่สุดคือ จะต้องเจรจาหาคนมาเติม ดึงตัว สส. จากพรรคอื่น โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์เข้ามา ให้แน่ใจว่ามีตัวแข็งๆ 25 คนแน่ๆ
การอยู่จนครบเทอม จะสร้างภาระเรื่องอายุการเป็นสมาชิกพรรคที่ต้องถึง 90 วัน แต่หากยุบสภา แม้เพียง 2 วันก่อนครบวาระ อายุการสังกัดพรรคใหม่ของว่าที่ผู้สมัคร สส. ก็หดเหลือ 30 วัน ในขณะที่กฎหมายให้ กกต. จัดการเลือกตั้งได้อย่างเร็วคือ 45 วัน ยุบสภาแล้ว ยังมีเวลา “ล่า” อีกตั้ง 14 วันด้วยซ้ำไป (ฮ่าๆ)
ขณะเดียวกัน ก็ต้องค่อยๆ ผสาน “ความต่าง”ที่ต้องมา “ผสม” กัน เพื่อเป็น “นั่งร้านที่เป็นไปได้”ผลักดันให้ “ลุงตู่” ขึ้นถึง “เก้าอี้นายกฯ”
เช่น กรณีที่ นายชัชวาลล์ คงอุดม หรือ“ชัช เตาปูน” สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าภายหลังสมัครเป็นสมาชิกพรรค รทสช.ว่า หลังจากนี้เตรียมพูดคุยถึงแนวทางการทำงานผลักดันนโยบายดีๆ เช่น ทำบ่อนกาสิโนถูกกฎหมายและนโยบายให้เด็กเรียนหนังสือฟรีจนถึงปริญญาเอก โดยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครทสช.เห็นด้วยกับนโยบายดังกล่าว อันนี้ก็ต้องรอฟังนายพีระพันธุ์หัวหน้าพรรค ว่า จะไปแนวนี้จริงๆ หรือ และ “ลุงตู่” ก็เอาแนวนี้ ใช่หรือไม่ ถ้าไม่ใช่ ชัชวาลล์จะทำอย่างไร แต่โดยปกติ เขาก็เลือกจะ “เงียบ” เสมอมา ตลอดเวลาที่หนุน “ลุงตู่” ขณะอยู่ “พรรคพลังท้องถิ่นไท”
ต้องตีความกันให้ชัดว่า ครั้งนี้ ข้อเสนอนี้ของชัชวาลล์ คือการ “เสนอเงื่อนไข” หรือ “เสนอนโยบาย” กันแน่
เพราะสังคมต่างทราบว่า ชัชวาลล์กับบ่อนการพนัน ดูจะเป็นสิ่งที่ “เข้าถึง” และ “เข้าใจ” กัน เป็นอย่างดี
หากนี่คือ “ข้อต่อรอง”
ลุงตู่กับลุงตุ๋ย จะลุยหรือจะเซย์โน!!
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี