แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...
nn “เบื้องต้นจะต้องทำความเข้าใจให้กระจ่างว่าการงานที่เข้าไปทำนั้น เป็นงานที่มีโครงการดำเนินต่อเนื่องกันมาแล้ว ตัวท่านเป็นผู้ที่จะเข้าไปร่วมเสริมกำลังงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จำเป็นจะต้องศึกษางานที่จะทำให้ทราบโดยตลอดก่อน ว่ามีวัตถุประสงค์และโครงการเป็นอย่างไร มีระเบียบวิธีการปฏิบัติวางไว้อย่างไร ด้วยเหตุผลอะไร เมื่อศึกษาพื้นฐานของงานให้เห็นโดยถ่องแท้แล้ว ท่านก็จะทราบได้อย่างถูกต้องแน่นอนว่าควรจะเสริมกำลังงาน ณ จุดใด โดยวิธีใด ทำให้สามารถใช้วิชาความรู้ พร้อมทั้งความคิดสติปัญญาได้เต็มภาคภูมิ” (ความตอนหนึ่งจากพระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันที่ 13 กรกฎาคม 2515)...
nn การเป็นนายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้มาจากการลงแข่งขันสมัครเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) โดยตรง มักถูกตั้งคำถามจากคนทั่วไปว่า เป็นตัวแทนของประชาชนอย่างจริงแท้แน่หรือ คำถามดังกล่าวนี้คือสิ่งที่ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันถูกถามเชิงกระทบกระแทกมาโดยตลอด...
nn คำถามนี้จะหมดไป หากประยุทธ์ได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีในสมัยหน้า โดยที่ประยุทธ์ลงสมัคร สส. แต่คำถามที่สำคัญยิ่งกว่าคือ พรรคการเมืองที่เสนอชื่อประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีจะได้ สส. เกิน 5 เปอร์เซ็นต์ของจำนวน สส. ทั้งหมดหรือไม่ หากได้ ก็ต้องดูต่อไปว่า สส. อื่นๆ จะให้การสนับสนุนประยุทธ์หรือไม่...
nn สำหรับสมาชิกวุฒิสภา (สว.) นั้นไม่ต้องถาม เพราะอย่างไรเสียก็คงจะต้องสนับสนุนประยุทธ์ต่อไป ยกเว้นเสียแต่ว่า บิ๊กป้อม-ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีด้วย แล้วพรรคการเมืองของประวิตรมีคะแนนเหนือกว่าพรรครวมไทยสร้างชาติหลายเท่า (เชื่อกันว่ารวมไทยสร้างชาติจะต้องเสนอชื่อประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี) หากเกิดเรื่องมหัศจรรย์พันลึกเช่นนี้ขึ้นมา ก็ไม่แน่ใจว่า สว. จะยังเทคะแนนหนุนประยุทธ์ต่อไปหรือไม่...
nn ย้อนหลังไปดูการขึ้นรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อปี 2562 ของประยุทธ์ จันทร์โอชา คอการเมืองยังจดจำได้ดีว่าในวันลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีในรัฐสภา วันที่ 22 มิถุนายน 2562ประยุทธ์ได้รับเสียงสนับสนุนจากรัฐสภารวม 500 เสียง ไม่เห็นชอบ244 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง จากสมาชิกรัฐสภาทั้งหมดที่เข้าร่วมประชุม 747 คน แบ่งเป็น ส.ส. 497 คน สว. 250 คน ในครั้งนั้น สว. ทั้งหมดต่างให้การสนับสนุนประยุทธ์อย่างพร้อมหน้าพร้อมตา...
nn บิ๊กตู่-ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในวันเก่า กับบิ๊กตู่-ประยุทธ์ในวันใหม่ หลังจากประกาศตัวเป็น สส. แล้ว รับรองว่าสถานภาพทางการเมืองจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แล้วประยุทธ์ก็จะได้รับรู้ด้วยตัวเองว่า การเป็นนักการเมืองจริงๆ มันต่างจากการเป็นผู้ได้ครองอำนาจรัฐโดยไม่ต้องผ่านสถานภาพ สส. เพราะในสมัยที่ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีโดยไม่ต้องเป็น สส. จะไม่ค่อยได้ยินเสียง สส. พรรคร่วมรัฐบาลตำหนิติติงหรือโจมตีประยุทธ์ แต่ให้จับตาดูให้ดีว่าเมื่อประยุทธ์สวมเสื้อพรรคการเมืองในฐานะผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งแล้ว จะยังมีนักการเมืองสักกี่คนที่ให้ความเคารพนบนอบต่อประยุทธ์ โดยเฉพาะนักการเมืองจากพรรคพลังประชารัฐที่ต้องการให้บิ๊กป้อมเป็นนายกรัฐมนตรี...
nn คอการเมืองทั้งฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายต้านประยุทธ์ กำลังจับตาดูการเปิดตัวประยุทธ์ในฐานะผู้สมัคร สส. พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ วันที่ 9 มกราคม 2566 ด้วยใจอันระทึก หลายคนอยากได้ยินว่าประยุทธ์จะพูดอะไรในฐานะนักการเมืองเต็มตัว ขอย้ำว่าประยุทธ์จะขึ้นเวทีเปิดตัวในเวลา 18.00 น. ...
nn งานนี้มีผู้จับตามองด้วยว่า ประยุทธ์จะออกจากทำเนียบรัฐบาลเพื่อไปร่วมงานนี้ในเวลากี่โมง หากออกจากทำเนียบไปร่วมงานนี้ก่อน 16.30 น. ก็จะถูกมองว่าหนีเวลาราชการไปเพื่องานส่วนตัว แล้วก็ยังถูกมองอีกว่า เมื่อไปร่วมงานนี้จะใช้รถหลวงหรือใช้รถส่วนตัว จะมีขบวนตำรวจนำหน้ารถหรือไม่ จะมีการจัดเลี้ยงในงานหรือไม่รับรองว่างานนี้มีคนคนหนึ่งที่เฝ้าจับตามองการเคลื่อนไหวของประยุทธ์ในวันที่ 9 มกราคม คือสมชัย ศรีสุทธิยากร นักการเมืองพรรคเสรีรวมไทยอดีต กกต. สมชัยคงต้องติดตามทุกฝีก้าวของประยุทธ์เพื่อหาทางจับผิดให้จงได้...
nn มีข่าวแพลมๆ เล็ดลอดมาจาก กกต. ว่าการแบ่งเขตเลือกตั้งเพื่อเลือก สส. 400 เขต จากฐานประชากรทั้งหมด 66,090,475 คน หรือคิดเฉลี่ย 165,226 เสียง ต่อ สส. 1 คน แบ่งเป็นกรุงเทพฯ จะมี สส. 33 คน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมี สส. 135 คน ภาคเหนือ43 คน ภาคกลาง 98 คน ภาคกลางตอนบน 30 คน ภาคใต้ 61 คน ย้ำว่าตัวเลขที่ได้มานี้ยังเป็นข่าวที่แพลมๆ เท่านั้น ยังไม่มีการยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะโดย กกต. ดังนั้นขอให้จับตาดูให้ดีว่า กกต. จะประกาศเรื่องนี้เป็นทางการในวันที่ 9-10 มกราคมนี้หรือไม่...
nn ปิดท้ายด้วยเรื่องงบประมาณ 33 ล้านบาท ที่รัฐบาลต้องจ่ายเพื่อการเปลี่ยนป้ายชื่อสถานีกลางบางซื่อเป็นสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ประเด็นงบประมาณเป็นสิ่งที่สาธารณชนสามารถตั้งคำถามได้ ส่วนคำตอบในเรื่องนี้ก็อยู่ที่เหตุและผลว่าใช้งบฯ เหมาะสมหรือไม่ ประเด็นนี้ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ตอบกระทู้นี้ในสภาเมื่อวันที่ 5 มกราคมไปแล้ว เมื่อฟังแล้วจะเชื่อหรือไม่ ก็เป็นสิทธิ์ของปัจเจก แต่หากไม่เชื่อแล้วมีหลักฐานหักล้าง ก็ต้องนำหลักฐานไปแสดงต่อสภา หรือต่อสาธารณะ แต่ไม่ควรจะโยงใยไปถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ แล้วก็ต้องไม่ลืมว่าการก่อสร้างใดๆ ก็ตามที่เกี่ยวข้องกับราชการนั้น มักมีคำถามเรื่องเงินใต้โต๊ะเป็นประจำไม่เว้นแม้กระทั่งการสร้างป้ายชื่อมหาวิทยาลัย และป้ายชื่อ อบต. รวมถึงการสร้างซุ้มประตูและป้ายชื่อวัด เรื่องแบบนี้จะยังคงมีคำถามไปเรื่อยๆ ตราบเท่าที่สังคมยังไม่เชื่อใจว่าเรื่องนี้สะอาดใสไร้มลทิน...nn
ธรรมกร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี