ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรครวมไทยสร้างชาติ ประกาศผ่าน TOPNEWS ทีวี ว่าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะลงสมัคร สส.ปาร์ตี้ลิสต์ ของ รทสช.และมั่นใจว่าจะได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง และมั่นใจด้วยว่า พรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบันจะเป็นรัฐบาลผสมชุดเดิม
ในการเสวนา เรื่อง “อนาคตประเทศไทยหลังเลือกตั้งปี 2566” จัดขึ้นในวันครบรอบสองปีสถานีทีวี TOPNEWS ดร.ไตรรงค์ตอบคำถามพิธีกรว่า รทสช. จะได้ สส.กี่คนว่า“ก่อนพลเอกประยุทธ์มาสมัครเป็นสมาชิกพรรค ผมคิดเหมือนน้อง(พิธีกร)ว่าจะได้ประมาณ 30 คน แต่หลังจากที่พลเอกประยุทธ์บอกกับผมว่า เที่ยวนี้ท่านไม่อยู่ลอยๆเหมือนที่แล้วมา คือท่านจะสมัคร สส. ปาร์ตี้ลิสต์ผมมั่นใจเหมือนน้องอีกว่าน่าจะได้ สส. ราว 70 ที่นั่ง”
คือ ดร.ไตรรงค์ประเมินว่า รทสช.จะได้ สส.กี่คน และจะเป็นรัฐบาลตามที่ผู้อำนวยการ TOPNEWS อภิปรายนำยืดยาว ว่า พรรคเพื่อไทยจะได้สส.มาเป็นอันดับหนึ่ง เนื่องจากมีฐานเสียงอยู่ทางภาคอีสานและภาคเหนือ ซึ่งมี สส.มากที่สุดแต่เพื่อไทยไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ และพรรคภูมิใจไทยจะชนะเลือกตั้งเป็นอันดับสองโดยได้ สส. 100 คนบวกลบต่อคำถามที่ว่าเมื่อได้ สส.น้อยกว่าพรรคภูมิใจไทยจะยกตำแหน่งนายกฯให้หรือ ดร.ไตรรงค์ตอบว่า“การเป็นนายกฯต้องมีเหตุผลอธิบายออกทีวีีเรอะ”
อย่างไรก็ตาม ประเมินจากที่ TOPNEWS กับรทสช.ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันจนเกือบจะเรียกได้ว่า ตลอดเวลาสามชั่วโมงแรกของการฉลองครบรอบสองปี TOPNEWS อุทิศเวลาส่วนใหญ่ให้กับการต้อนรับนายกฯ พูดเรื่องความสำเร็จของรัฐบาล และความก้าวหน้าของ รทสช.แม้กระทั่งถึงเวลาตัดเข้าข่าวภาคเที่ยง TOPNEWS ก็ยังเสนอข่าวที่ลุงตู่ไปหาเสียงจังหวัดชุมพรเดือนที่แล้ว และต่อด้วยเสนอข่าวโปรแกรมหาเสียงพรรครวมไทยสร้างชาติในภาคกลาง ภาคอีสาน และภาคเหนือ จึงสรุปได้ว่าพรรค รทสช.กับ TOPNEWS ประเมินสถานการณ์ทางการเมืองไปในทิศทางเดียวกัน ดังนั้น การประเมินสถานการณ์ของ รทสช.กับ TOPNEWS จึงตรงกันข้ามกับการสำรวจของโพลสำนักต่างๆ และสื่อบางสำนัก
โดยธรรมชาติการเมืองในประเทศไทยเมื่อไหร่ก็ตามที่สื่อพากันโหมกระแส และสำนักโพลเริ่มเผยแพร่ผลสำรวจออกมาก็เป็นสัญญาณว่าการเลือกตั้งใกล้เข้ามาแล้ว แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าสำนักโพลกับสื่อมวลชนบางค่ายถือฝักถือฝ่ายแทบจะพูดได้ว่าสำนักโพล และสื่อบางค่ายหาความเป็นกลางแทบไม่ได้ ดังนั้นเมื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งเสพข่าวจากสื่อถือข้างหรือติดตามผลโพลของสำนักต่างๆ จำเป็นต้องใช้วิจารณญาณใช้สติปัญญาในการเลือก สส. ให้มากกว่าเลือกตามกระแสเหมือนในอดีต
คอลัมน์ทวนกระแสข่าว เคารพการนำเสนอของสื่อและผลสำรวจของโพลทุกสำนัก แต่ขอใช้สิทธิ์เห็นต่าง หรือแม้กระทั่งแสดงความคิดเห็นตรงกันข้ามกับสำนักโพลและสื่อทั่วไป ตัวอย่างง่ายๆ คือในห้วงเวลาหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาไทยรัฐโพล สำรวจความนิยมว่าประชาชนต้องการให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรี และพรรคไหนจะได้เป็นรัฐบาล ไทยรัฐโพลเปิดเผยเมื่อวันที่ 24 ม.ค. ถึงผลสำรวจทั่วประเทศมีผู้ตอบแบบสำรวจ 15,708 ราย....
... เมื่อถามว่า“จะเลือกพรรคการเมืองใด??” อันดับหนึ่ง 48.02% ระบุว่าจะเลือกพรรคเพื่อไทย อันดับสอง 32.77% เลือกพรรคก้าวไกล อันดับสาม 6.58% จะเลือกพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้ลุงตู่เป็นนายกฯ ต่ออีก 2 ปี อันดับสี่ 3.36% จะเลือกพรรคเสรีรวมไทย อันดับห้า 2.48% เลือกพรรคไทยสร้างไทย อันดับหก 1.42% เลือกพรรคภูมิใจไทยอันดับเจ็ด 1.40% จะเลือกพรรคประชาธิปัตย์อันดับแปด 0.63% จะเลือกพรรคพลังประชารัฐ
ส่วนผลการสำรวจ SuperPoll จาก 3,470 ตัวอย่าง ด้วยคำถามความว่า “นิยมผู้นำพรรคที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีจากพรรคใด?” ผลสำรวจพบว่า... ภาคเหนือ/อีสาน แพทองธาร ชินวัตร 43.6% ภาคกลาง 8.6% กทม. 17.2% ตามมาติดๆ เป็นนายอนุทิน ชาญวีรกูล ภาคกลาง 44.8% ภาคเหนือ38.5% อีสาน 24.8% ภาคใต้ 21.15% พลเอกประยุทธ์ กทม. 32.3% ภาคอื่นๆ ไม่โดดเด่นนายจุรินทร์ ลักษณ์วิศิษฎ์ ภาคใต้ 34.1% อีสาน 8.9% กทม. 6.51.% เหนือ 2.6%
ส่วนการวิเคราะห์ของ นสพ.ผู้จัดการทำเฉพาะเขตเลือกตั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ สรุปว่า“ประชาธิปัตย์” ภาคใต้โดยการนำของ “นิพนธ์ บุญญามณี” รองหัวหน้าพรรคและผู้อำนวยการเลือกตั้ง กับ “เดชอิศม์ ขาวทอง” รองหัวหน้าพรรคภาคใต้ และ สส.สงขลา เขต 5 จะผนึกกำลังในการไปให้ถึงจุดหมาย นั่นคือได้ สส.เขตใน 14 จังหวัดภาคใต้ 35 เขตจากทั้งหมด 58 เขตเลือกตั้งมีความเป็นไปได้ค่อนข้างชัวร์
ทั้งหมดนั่นคือ การนำเสนอของสื่อสามค่ายกับสำนักโพลสองค่าย เพราะไทยรัฐเป็นทั้งสื่อและสำนักโพลไปในตัว เมื่อการนำเสนอข้อมูลของสามค่ายนี้มาเปรียบเทียบกับข้อมูลของคอลัมน์ทวนกระแสข่าว ที่รวบรวมความคิดเห็นจากสื่อมวลชนทุกภูมิภาคที่รู้จักกันมาหลายสิบปีก็พบว่า มีความแตกต่างจากผลสำรวจของโพลและสื่อบางค่ายอยู่มาก
ตัวอย่างแรกเป็นความเห็นของสื่ออาวุโสภาคอีสาน บอกกับแนวหน้าว่า “ในภาคอีสานคุณหญิงหน่อย มีความนิยมเหนือกว่าอุ๊งอิ๊งอยู่หลายช่วงตัว แต่ที่โพลต่างๆ ทำออกมาว่าอุ๊งอิ๊งนำนั้นมันบ้าตามป้ายโฆษณา เพราะไม่ว่าไปจุดไหนมีป้ายอุ๊งอิ๊งเพื่อไทย ติดเป็นพรืดเต็มไปหมด แต่ตัวผู้นำ และ ว่าที่ผู้สมัครเพื่อไทย สู้พรรคไทยสร้างไทยไม่ได้คุณหญิงหน่อย เป็นคนอีสานและทำพื้นที่มานานเป็นปี เลือกตั้งครั้งนี้นอกจาก พรรคไทยสร้างไทย แล้วยังมีพรรคภูมิใจไทย ที่เป็นก้างชิ้นใหญ่เลือกตั้งปี’62 เพื่อไทยได้ 84 เขต จาก สส. อีสาน 116 คนเลือกตั้งปีนี้ เพื่อไทย ได้ถึง 70 เขต จาก สส. 135 คนเขตในภาคอีสานก็หืดขึ้นคอแล้ว
ความนิยมเพื่อไทยตกลงไปมาก เพราะ 1. เรื่องพาพ่อกลับบ้าน 2. ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาททำให้ชาวนาและเอสเอ็มอีรับไม่ได้ เพราะจ้างคนทำงานในนาต่อไปต้องจ่าย 600 ต่อวัน ชาวนากับเอสเอ็มอีก็ตายซาก อีกอย่างพวกเสื้อแดงมันหันไปหาลุงตู่กันมากแล้ว บัตรประชารัฐ โครงการคนละครึ่งทำให้ลุงตู่มีความนิยมมากขึ้น ดังนั้นคนที่เคยเลือก พปชร. จะหันไปเลือก รทสช. ส่วนพรรคก้าวไกลไม่ต้องพูดถึงคราวที่แล้วมาชนะในหน่วยเลือกตั้งมหาวิทยาลัยขอนแก่นหน่วยเดียว 5,000 กว่าคะแนนเพราะได้แรงหนุนจาก NEZ ของอเมริกามาช่วย ตอนนี้คู่แข่งจับทางได้ผมว่าก้าวไกลสูญพันธุ์ในอีสาน...”
นั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่สื่ออาวุโสของภาคอีสานบอกกับแนวหน้า ซึ่งต่างกับโพลของไทยรัฐ ที่ว่าเพื่อไทย มาอันดับหนึ่ง ก้าวไกล มาอันดับสอง ภูมิใจไทยตกอยู่อันดับ 6 ปชป. อยู่อันดับ 7
จากประสบการณ์ทำข่าวการเมืองมานานผู้เขียนทำนายล่วงหน้าว่า พรรคที่มาอันดับหนึ่งอาจเป็น เพื่อไทย อันดับสองต้องเป็น ภูมิใจไทย สลับก้าวไกล ที่มาอันดับสองของโพลไทยรัฐ อาจมาเป็นอันดับเจ็ด พปชร.กับปชป.เบียดกันขึ้นอันดับสามอันดับสี่ หากดูจากการวิเคราะห์ของ นสพ.ผู้จัดการ เฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งใกล้เคียงกับที่นายนิพนธ์มั่นใจว่าเฉพาะภาคใต้อาจได้ สส.เกินสามสิบคน
ดังนั้นจึงสรุปว่า ทวนกระแสข่าวเห็นต่างกับไทยรัฐโพลโดยสิ้นเชิง ที่เผยผลสำรวจว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านปัจจุบันจะได้ สส.รวมกันประมาณ 420 คนและจะพลิกมาเป็นรัฐบาล ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบัน รวมกันทั้งหมดแล้วจะได้ สส.ประมาณ 55 คน และพลิกเป็นฝ่ายค้าน
นั่นเป็นการประเมินตามความชอบของตัวเองมากเกินไป เพราะตามที่เห็นแค่ ปชป. พรรคเดียวก็ได้สส. เกิน 55 ที่นั่งแล้ว และเป็นไปได้สูงที่ ปชป.จะได้สส.ถึง 70 คน นี่ยังไม่พูดถึง ภท. พปชร.และ รทสช.จึงฟันธงว่ารัฐบาลหลังเลือกครั้งต่อไป รัฐบาลชุดใหม่คือ พรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบัน แต่ก็เห็นต่างจาก TOPNEWS และ ดร.ไตรรงค์ ที่คาดหมายว่าลุงตู่ได้เป็นนายกฯ อีกสองปี
คอลัมน์นี้ เชื่อว่าหากพรรคภูมิใจไทยได้สส.เกินร้อย และชนะเลือกตั้งมาเป็นอันดับสอง นายอนุทินต้องได้เป็นนายกรัฐมนตรี เหตุผลง่ายๆ เพราะวิทยายุทธอาจารย์ใหญ่ภูมิใจไทยไร้เทียมทาน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี