ปัญหากฎหมายที่ว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ถือหุ้นสื่อหรือไม่ มีทีท่าจะบานปลายเป็นขวากหนามสำคัญที่ไม่สามารถข้ามผ่านไปได้ แต่พิเคราะห์แล้วเห็นว่าปัญหา ก.ม.ไม่น่าจะรุนแรงเท่ากับความขัดแย้งแตกแยกภายใน และความไม่พอใจจากเพื่อนบ้านรอบประเทศไทยที่ขัดใจในนโยบายสุดโต่งของพรรคก้าวไกล และนักกิจกรรมการเมืองในเครือข่ายที่ทำให้รัฐบาลประเทศเพื่อนบ้านไม่ไว้วางใจไม่ว่าจะเป็นสหภาพเมียนมา กัมพูชา และ มาเลเซีย
ประเทศเพื่อนบ้านทิศตะวันตกรองนายกรัฐมนตรีรัฐบาลทหารเมียนมา พลเอกโซ วิน ออกแถลงการณ์เตือนประชาชนว่า “ให้ระวังอันตรายจากพรรคก้าวไกล พรรคก้าวไกลสนับสนุนผู้ก่อการร้าย ขอให้ประชาชนระวังตรวจตราบริเวชายแดน..” แถลงการณ์ของพลเอกโซ วิน มาจากสาเหตุที่พรรคก้าวไกลมีนโยบายสนับสนุนรัฐบาลเงาเมียนมาและกองกำลังติดอาวุธต่อต้านรัฐบาลของพรรคเอ็นแอลดี ฝ่ายนางออง ซาน ซู จี ที่รัฐบาลทหารเมียนมาขึ้นบัญชีดำให้รัฐบาลเงาและกองกำลังติดอาวุธต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมาเป็นผู้ก่อการร้าย
ประเทศเพื่อนบ้านทางทิศตะวันออก อัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา พูดกับนักศึกษาหลายพันคนว่า“ไม่พอใจพรรคก้าวไกลที่มีนโยบายเหยียดหยามคนเขมร และไล่แรงงานกัมพูชากลับบ้าน..” สำหรับ นายฮุนเซน พอเข้าใจได้ว่าใกล้เลือกตั้งทีไรมักปลุกระดมให้คนเขมรมีความรู้สึกคลั่งชาติเกลียดชังโกรธแค้นประเทศเพื่อนบ้านโดยใช้ เวียดนาม สปป.ลาว และประเทศไทยเป็นแพะรับบาป
ล่าสุดชายแดนทางทิศใต้ปลายด้ามขวานของไทยร้อนระอุขึ้นมาเมื่อนักศึกษาและนักการเมืองในเครือข่ายของพรรคก้าวไกลและพรรคประชาชาติ ไปร่วมกิจกรรมทำประชามติจำลองว่า#ให้ปาตานีทำประชามติเป็นเอกราชอย่างถูกกฎหมาย ในการจัดสัมมนานักศึกษาและประชาชนที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี หัวข้อ “กำหนดอนาคตตนเอง (Self Determination)กับสันติภาพปาตานี” นักศึกษาที่เรียกตัวเองว่า กลุ่มนักศึกษาแห่งประเทศไทยได้ทำประชามติจำลองขึ้นมาว่า “ปาตานีลงประชามติเป็นเอกราชถูกต้องตามกฎหมาย”
รัฐปาตานีเป็นชื่อที่กลุ่มแยกดินแดน เรียกรัฐสามจังหวัดภาคใต้ มารวมกัน การทำประชามติจำลองของกลุ่มนศ.ในเครือข่ายพรรคก้าวไกล และพรรคประชาติได้สร้างความกังวลให้หลายฝ่าย “นี่ถือเป็นการขบถ...นักศึกษาและคนในเครือข่ายพรรคการเมืองจะไม่เหิมเกริมถึงขนาดนี้หากไม่ได้รับการหนุนหลังจากมหาอำนาจและประเทศตะวันตก” สว.สมชาย แสวงการ กล่าวกับแนวหน้า เขากล่าวด้วยว่า เป็นที่น่าสังเกตที่ทูตสหรัฐประจำประเทศไทยเดินทางไปพบใครต่อใครในจังหวัดยะลา นอกจากทูตสหรัฐนายโรเบิร์ด เอฟ โกเดค แล้วทูตประเทศตะวันตกรวมทั้งทูตฝรั่งเศสลงพื้นที่สามจังหวัดภาคใต้ให้คึกคักก่อนหน้า นศ.จะทำประชามติจำลองแยกสามจังหวัดภาคใต้จากประเทศไทย
“ปกติทูตจะไม่เดินทางไปในสถานที่อ่อนไหว เลยไม่แน่ใจว่าพรรคการเมืองที่มีนโยบายสุดโต่งและพรรคการเมืองในเครือข่ายกับทูตตะวันตกมีส่วนรู้เห็นกับกลุ่มขบถมากน้อยเพียงไหน” สว.สมชาย กล่าว และให้ข้อมูลว่า สหรัฐอเมริกาส่งเงินเข้ามาปีละห้าหมื่นสี่พันล้านบาท“เงินจำนวนมหาศาลไหลเข้าไปอยู่ในมือภาคประชาสังคม เอ็นจีโอ ไอลอว์ ฯลฯ ทว่าห้าหมื่นสี่พันล้านบาท ที่ว่านี้รวมทั้งอาจใช้ในสหภาพเมียนมา เวียดนาม กัมพูชา และประเทศไทย..” สว.สมชายกล่าวสรุป
นักวิชาการด้านความมั่นคงมีความเห็นคล้องจองกับ สว.สมชายว่า“การทำประชามติในที่สัมมนาถือว่าร้ายแรงมาก นี่เป็นการประกาศเป็นเอกราชอย่างเปิดเผย กลุ่มแบ่งแยกดินแดนเหิมเกริมถึงขนาดนี้เพราะมีพรรคการเมือง และมหาอำนาจให้การสนับสนุนอย่างออกหน้า ว่าที่ สส.พรรคประชาชาติ และ คนในเครือข่ายพรรคก้าวไกลไปอยู่ในที่สัมมนาด้วย”นักวิชาการด้านความมั่นคงกล่าว และเสริมว่า“การประกาศเอกราชในที่สัมมนาทำให้พรรค PASS ในมาเลเซียลิงโลดมากพวกเขาไม่ต้องทำอะไรเลยเพราะในที่สัมมนา นักศึกษาประกาศเอกราชให้แล้ว แต่การก่อขบถของนักศึกษาและแนวร่วมพรรคการเมืองครั้งนี้ทำให้รัฐบาลมาเลเซียไม่พอใจมาก” แหล่งข่าวกล่าว
นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กล่าวกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทยเมื่อครั้งเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างทางการว่า “จะทำทุกอย่างที่ทำได้ให้เกิดความสงบสุขในสามจังหวัดภาคใต้ ซึ่งอยู่ติดชายแดนมาเลเซีย” ส่วนพรรค PASS ซึ่งเป็นพรรคมุสลิมนิยม พรรค PASS สนับสนุนและเป็นแนวร่วมกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในสามจังหวัดภาคใต้ ตลอดเวลากว่าสิบเก้าปีที่ผ่านมา
องค์กรปลดปล่อยสหปัตตานี หรือ พูโล (Patani United Liberation Organization หรือ PULO) เป็นขบวนการแบ่งแยกดินแดน ผู้ก่อความไม่สงบในสามจังหวัดภาคใต้หลายสิบปีและความรุนแรงในภาคใต้สงบลงได้ ตั้งแต่ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ให้นิรโทษกรรมทั่วไปตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 66/2523
แต่ความรุนแรงในสามจังหวัดภาคใต้ ได้ปะทุขึ้นมาใหม่ในสมัยรัฐบาล นายทักษิณ ชินวัตร ตั้งแต่เดือนมกราคม 2547 ถึงวันนี้เป็นเวลากว่า 19 ปี ที่ความรุนแรงในภาคใต้ยังมีต่อไป และความรุนแรงในภาคใต้ทำให้มีคนตายไปแล้วเกือบเจ็ดพันราย ทุกๆ รัฐบาลที่ผ่านมาใช้ความพยายามในการเจรจาเพื่อสันติภาพไปพร้อมๆ กับการปราบปรามทำให้ความรุนแรงทุเลาบางลงไปมาก แต่ความรุนแรงมีแนวโน้มว่าสถานการณ์จะเลวร้ายลงไปไม่ว่าพรรคก้าวไกลจะได้เป็นรัฐบาลหรือไม่
พรรคก้าวไกลมีนโยบายเสรีนิยมสุดโต่ง โดยให้การสนับสนุนให้ภาคประชาสังคม เอ็นจีโอ และนักศึกษาเคลื่อนไหวให้สามจังหวัดภาคใต้ ซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นมุสลิมได้ปกครองตนเองโดยเป็นอิสระจากรัฐบาลกลางในกรุงเทพฯ
การประกาศเอกราชปาตานีเมื่อวันที่ 7 มิ.ย. ที่ผ่านมา จึงถือว่าเป็นผลพวงนโยบายสุดโต่งของพรรคก้าวไกล ดังนั้น นายพิธาจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ประเทศไทยหรือไม่ สถานการณ์ในภาคใต้และรอบๆ ประเทศไทยต้องเลวร้ายลงไปอีก นโยบายสุดโต่งของพรรคก้าวไกลจะทำให้เกิดการเผชิญหน้าระหว่างฝ่ายอนุรักษ์นิยมซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงวัยต้องเผชิญหน้าและอาจถึงขั้นปะทะกับฝ่ายก้าวหน้าซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่สนับสนุนพรรคก้าวไกล
หากนายพิธาได้เป็นนายกฯสิ่งแรกที่เผชิญหน้า คือ การแก้/ยกเลิก มาตรา 112 ซึ่งเป็นกฎหมายปกป้องสถาบันที่ฝ่ายอนุรักษ์นิยมยอมไม่ได้ สองเรื่องประกาศเป็นเอกราชรัฐปาตานี ที่นอกจากคนไทยทั่วไปยอมไม่ได้ฝ่ายมั่นคงและกองทัพไทยก็ไม่ยอมเช่นกัน
นอกจากนั้นหากก้าวไกลเป็นรัฐบาลก็เกิดการเผชิญกับ สหภาพเมียนมาและกัมพูชาที่ประกาศออกมาแล้วว่า รังเกียจพรรคก้าวไกล ส่วนมาเลเซีย รักษามารยาทแสดงอาการไม่พอใจผ่านช่องทางการทูตว่า นโยบายพรรคก้าวไกลรับไม่ได้
ดังนั้น ที่สงสัยว่านายพิธา หัวหน้าพรรคก้าวไกลจะผ่านด่านกฎหมายอันสืบเนื่องมาจากถือหุ้นไอทีวีหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อีกต่อไป เพราะผ่านด่านกฎหมาย หรือไม่ผ่าน ก็เกิดการเผชิญหน้าอาจถึงขั้นปะทะกัน หากผ่านด่านกฎหมายไปได้ และนายพิธาได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของไทย สถานการณ์จะเลวร้ายลงไปอีก สังคมไทยต้องเผชิญหน้า อาจถึงขั้นปะทะกันภายใน นอกจากนั้น ยังต้องเผชิญหน้ากับสหภาพเมียนมา กัมพูชา และ มาเลเซียนี้ยังไม่นับรวมการแทรกแซงกิจการภายในจากมหาอำนาจตะวันตก ที่มหาอำนาจตะวันออกพร้อมเผชิญหน้าและอาจใช้เมียนมากับประเทศไทยเป็นยุทธภูมิสงครามพันทางระหว่างสองมหาอำนาจ
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี