เส้นทางการตะเกียกตะกายขึ้นสู่ตำแหน่ง “นายกรัฐมนตรีของ พิธาคิโอ” ที่ยุติลงนี้ทำให้ฉากทัศน์การเมืองต้องเปลี่ยนแปลงอย่างช่วยไม่ได้ เพราะปัญหาปากท้องปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนจะหยุดนิ่งรอรัฐบาลที่ไม่รู้อนาคตไม่ได้ที่ประชุม 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลจึงมีมติให้ “พรรคเพื่อไทย” ซึ่งมีที่นั่งเป็นอันดับสองในการเลือกตั้งที่ผ่านมารองจาก “พรรคก้าวไกล” ได้ทำหน้าที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแทน

“พรรคเพื่อไทย”จัดตั้งรัฐบาลโดยเอาปัญหาประเทศชาติและประชาชนเป็นโจทย์ จึงเชิญพรรคการเมืองอื่นมาร่วมเพื่อเพิ่มเสียงสนับสนุนให้เกินกึ่งหนึ่งของสมาชิกรัฐสภา (376 เสียง) โดยไม่ต้องพึ่งลมหายใจสมาชิกวุฒิสภา ทาบทามหารือถึงประเด็นเหตุผลในการไม่ออกเสียงสนับสนุนให้ความเห็นชอบ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล ทั้งภท. 71 เสียง, ชพก. 3 เสียง, รทสช. 36 เสียง, พปชร. 40 เสียง, ชทพ. 10 เสียง

ในขณะที่ “พรรคเพื่อไทย”กำลังดำเนินการหาหนทางที่เหมาะสมและมั่นคงในการจัดตั้งรัฐบาล เพราะปัญหาต่างๆ และแนวโน้มการลงทุนของทุนต่างชาติต้องได้รับหลักประกันจากรัฐบาลแม้ปัจจุบันจะมีรัฐบาลรักษาการ แต่รัฐบาลรักษาการก็มีข้อจำกัดตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ทำให้นักธุรกิจไทยและต่างประเทศต่างต้องการความเชื่อมั่นในแนวนโยบายของรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง

แต่“พิธาคิโอและพรรคก้าวไกล”กลับบิดเบือนข้อเท็จจริงกล่าวหาให้ร้ายสมาชิกรัฐสภาว่าเป็นผลผลิตจากฝ่ายอนุรักษ์นิยมเดิมที่ร่วมกันขัดขวางการก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีของเขาโดยเอาประเด็นมาตรา 112 มาเป็นเงื่อนไขราวกับว่าเป็นกระบวนการที่มีการนัดแนะวางแผน และปลุกปั่นแฟนคลับไร้สติ “ด้อมส้ม”ออกมาคัดค้านการดำเนินการของพรรคเพื่อไทยให้มวลชนกดดันให้ 8 พรรคการเมืองที่ลงนามในเอ็มโอยูยึดมั่นหลักการและจัดตั้งรัฐบาลโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง

เหตุจาก “สันดานไม่น่าคบ” ... “พิธาคิโอและแกนนำพรรคก้าวไกล”รู้แก่ใจดีว่าการจัดตั้งรัฐบาลที่พรรคก้าวไกลเป็นแกนนำล้มเหลวจน “พิธาคิโอ, ทิม-พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ตะเกียกตะกายไม่ถึงเก้าอี้นายกรัฐมนตรีนั้นมาจากความดื้อรั้นทะนงสุดโต่งจนไม่มีใครยอมร่วมงานด้วย

“พิธา” อุปมาอุปไมยว่า เรือรั่ว ไม่รู้ว่าคิดได้ด้วยสมองส่วนไหน กับข้อเสนอที่ให้ 8 พรรค 312 ที่นั่ง 27 ล้าน เสียงเลือกตั้งประสานจับมือกันให้เหนียวแน่น รองรับข้อเสนอที่ให้อดทนรออีก10 เดือน สมาชิกวุฒิสภาจะระเหิดไปตามบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ที่ผ่านประชามติ 16.8 ล้านเสียง ค่อยดันก้น “พิธาคิโอ”ไปเป็นนายกรัฐมนตรี สำรอกขนาดว่า 9 ปี ประชาชนยังทานทนได้อีก 10 เดือนจะเป็นไรไป

พูดอย่าง “กบในกะลา” 9 ปี ที่กบฏสร้างความเสียหายให้แก่เศรษฐกิจของประเทศฉุดรั้งความเจริญของประเทศชาติของระบอบประชาธิปไตย

“พิธาคิโอและติ่งพรรคก้าวไกล” คิดเยี่ยงนี้จริงหรือ นั่นสิถึงต้องประกาศจะหน้าด้านกว่า หน้าด้านให้ถึงที่สุด ฉุดรั้งไม่ให้ “พรรคเพื่อไทย” ได้ดำเนินการจัดตั้งรัฐบาล ที่จะมาดูแลแก้ไขทุกข์ยากของประชาชน อย่างที่ประกาศในช่วงหาเสียง ริษยาอิจฉาที่ดูเหมือน “เพื่อไทย”ทำได้เข้าใกล้ความจริง

จึงยกอุปมาอุปไมยปราศรัยหลอกตัวเองหลอกอุปกรณ์การเกษตร(ด้อมส้ม)ให้กดดันขัดขวางการจัดตั้งรัฐบาลที่ไม่มี “พรรคก้าวไกล”อยู่ในฉากทัศน์

ถ้าคิดไม่ได้ ไม่ใช่แค่ถ่วงประชาธิปไตยแต่ถ่วงความเจริญประเทศชาติบ้านเมือง

ฉุดลากคนไทยไปประสบปัญหาปากท้องย้อนแย้งเสียงสำรอกสำรากห่วงใยประชาชน