ช่วงเวลาสัปดาห์ที่ผ่านมาดูเหมือนว่า “ออ., มาดามแพ /- แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีสืบสันดาน/เด็กฝึกงาน” ที่พ่อจุ้นจ้านดุนดันอย่างบ้าคลั่งจะแสดงพฤติกรรมเดิมๆ ตามถนัดจนตอผุดถึง “วุฒิภาวะผู้นำ”ที่ไม่มีเอาเสียเลย

หลายคนบอกว่า นี่คือตัวตนที่แท้จริงของ “นางลูกสาว” ... นาง “เฟียส( Fierce )” ศัพท์วัยรุ่นที่ใช้กันในโลกโซเชียลซึ่งหมายถึงอาการ... แรง, เริ่ด, เชิด, กล้า

แต่ถ้าเปิดพจนานุกรม Dictionary ภาษาอังกฤษ คำนี้หมายความถึง ดุร้าย อำมหิตป่าเถื่อน บ้าระห่ำ บ้าคลั่ง ประมาณว่าเป็นตัวร้ายในละครบู๊ล้างผลาญ ซึ่งนางลูกสาวออ. ยังไปไม่ถึงจุดนั้น

ลักษณะบ่งบอกถึงความเฟียสที่ “นางลูกสาว”มี แสดงให้เห็นถึงการขาดวุฒิภาวะผู้นำก็เป็นผลมาจากปฏิกิริยาที่นางแสดงออก หลังสังคมไทยวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมการเจรจาความทวิภาคีกับผู้นำอิหร่านในการประชุม ACD (กรอบความร่วมมือแห่งเอเชีย) ที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ ที่นาง“ก้มหน้าก้มตาอ่านไอแพดกับผู้นำอิหร่าน เพื่อเจรจาการค้าระดับทวิภาคี เป็นการเจรจาที่ไม่มีการแสดงภาษากายหรือส่งสายตายืนยันบทสนทนา

ออ./มาดามแพ ให้ข้อมูลว่า “...เวลาประชุมแบบนี้ทั่วโลกเค้าอ่านกัน มันเป็น commitment เป็นสิ่งที่ต้องบันทึก ... อ่านทุกคนตั้งแต่ sheikhถึง minister เลย ลองหาข้อมูลเพิ่มดู ถ้าเป็น bilateral ส่วนใหญ่ จะจดหัวข้อไปแล้วก็พูดคุยกันแบบไม่ต้องอ่านจะเกิดการสร้าง connection ที่ดี ดูแค่หัวข้อให้ครบถ้วน”

นางฟาดกลับอย่างมิยั้งคิดว่า “...เวลาไปพูดที่ต่างประเทศ เป็นภาษาอังกฤษ มีคำศัพท์เฉพาะในเรื่องกฎหมาย รวมถึงความอ่อนไหวระหว่างประเทศ ซึ่งจริงๆ บางคำนางว่ารู้ตอนมาเป็นนายกฯซึ่งเป็นเรื่องจริงที่ว่าคำศัพท์นี้ต้องใช้ในเรื่องนี้ถ้าเป็นภาษาไทยเรารู้อยู่แล้วจะสบายกว่าเยอะ สรุปก็คือการพูดที่ต่างประเทศต้องเป๊ะ!! ว่าอย่างนั้น แล้วข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรล่ะเป๊ะไหม เมืองโดห้าประเทศกาตาร์ ทั้งที่สังคมไทยทั้งสังคมเรียกเมืองนี้ว่า กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ … นั่นคือบางส่วนที่เกิดขึ้น

ในเวทีประชุสุดยอดผู้นำอาเซียน “ออ.,มาดามแพ /- แพทองธาร ชินวัตร”ถ่ายรูปตนเองโดยยก “ไอแพด” คู่กายมาเป็นส่วนประกอบภาพ เพื่อจะตอกย้ำพฤติปฏิบัติของนางเอง และเพื่อตอกย้ำสังคมไทยว่า “ฉันไม่แคร์เสียงที่สมควรเรียกว่า (เห่าหอน) ... จากบริบทที่ปรากฏในภาพ” ราวจะท้าทายว่าฉันก็เป็นฉันแบบนี้ ใครจะทำอะไรฉันอย่างนั้นหรือ

เหมือนกับที่นาง ไม่แคร์เสียงหนวกหูน่ารำคาญยามใบตองแห้งแกว่งไกวจากสายลมนางหรือไม่ก็พ่อจุ้นจ้านของนางจึงวางเบี้ยบนกระดานหมากรุก แต่งตั้ง “อ้ายเต้น /- ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ”มาเป็น “ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีสืบสันดาน” หลังคนกันเองในอดีตอย่าง “คางคกตู่ /-จตุพร พรหมพันธุ์ อดีตประธานนปช.”กระเหี้ยนกระหือรือจะก่อม็อบนำประชาชนลงถนน หลัง “ประมุขลิ้ม /- สนธิ ลิ้มทองกุล”ประกาศไตรมาสแรกของปีหน้าจะนำมวลชนออกมาขับไล่รัฐบาลที่บริหารงานเละเทะ ไม่เข้าที่เข้าทาง ผิดจริยธรรม จะชี้ชัดให้ประชาชนเห็นว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่ควรจะอยู่บริหารประเทศต่อไป

“รัฐบาลนี้จะล้มได้ จะจุดม็อบติดได้ ไม่ใช่แกนนำม็อบ แต่คือรัฐบาล ที่จะเป็นไม้ขีดไฟเป็นน้ำมันเสียเอง” ประโยคนี้ถูกต้องและกำลังจะเป็นจริงจากการขาดวุฒิภาวะผู้นำ

เตือนแล้วหนา ยิ่งนางเฟียสมากเท่าไหร่ตามเนื้อแท้นิสัย นางจะโดนฟาสต์เบรกในกีฬาบาสเกตบอลมากเท่านั้น

ฤๅชะตากรรมกำหนดให้นักการเมืองตระกูล “ชินวัตร” ต้องไร้ที่อาศัยบนแผ่นดินสุวรรณภูมิอีกครั้ง