หนังสือพิมพ์แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา อัดแน่นเต็มไปด้วยเนื้อหาสาระ ท่ามกลางพายุการเมืองโหมกระหน่ำซัด รัฐบาลพ่อเลี้ยง ทั้งภายในประเทศ-ภายนอกประเทศ…nn ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาดขอส่งบรรทัดนี้ไปให้กำลังใจทหารที่กำลังทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติ เราจะไม่ยอมให้ใครมาย่ำยี หรือรุกล้ำแม้แต่ตารางนิ้วเดียว...nn 

เหตุปะทะที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา ในช่วงเช้าตรู่วันที่ 28 พ.ค.2568 ถึงแม้สิ้นเสียงปืนในราวป่าไปแล้ว แต่เสียงวิพากษ์วิจารณ์ยังดังก้องหูคนไทย โดยเฉพาะบทพิสูจน์เรื่องความเป็นผู้นำของแพทองธาร ชินวัตร ว่าเหมาะแก่การออกไปเป็น แม่บ้าน หรือ นั่งในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี...nn 

จากผลหารือระหว่าง พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ.ฝ่ายไทย กับ พล.อ.เมา โซะพัน ผบ.ทบ.ฝ่ายกัมพูชา เมื่อบ่ายวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้บรรลุข้อตกลง 3 ข้อ คือ 1.ให้สองฝ่ายแก้ไขปัญหาผ่านคณะกรรมการเขตแดนร่วม (JBC) 2. ให้สองฝ่ายอยู่ในจุดเหมาะสม หรือถอนกำลังออกมาจากจุดปะทะ 200 เมตร และ 3.รักษาความสัมพันธ์อันดีทั้งสองประเทศ…nn 

แต่ผ่านไป ไม่ถึง 24 ชั่วโมงที่ตกลงกันไว้ 3 ข้อ ไปๆ มาๆ ฝ่ายกัมพูชางอกเพิ่มเป็น 4 ข้อ โดย ฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา บิดาของนายกรัฐมนตรี ฮุน มาเนต เป็นคนแพร่แถลงการณ์ 4 ข้อกองทัพกัมพูชาประกาศ ไม่ถอนกำลังจากจุดปะทะช่องบก ขณะที่ กองทัพบกไทย ออกแถลงการณ์ 4 ข้อยืนยันในเวลาต่อมาว่า ทหาร 2 ฝ่ายถอนกำลังจากจุดปะทะช่องบกแล้ว...nn 

เจอ เหลี่ยมมัดมือชก แบบนี้ของกัมพูชาเข้าไป ทำเอาทีมเจรจาผบ.ทบ.ไทยหัวจะปวด แต่ที่แน่ๆ ก็คือ ความตึงเครียด บนพื้นที่พิพาทยังคงเป็น ระเบิดเวลา ซุกซ่อนอยู่ตามแนวชายแดนต่อไป พร้อมปะทุได้ทุกเมื่อ เนื่องจากข้อแถลงการณ์ไม่ว่าจะ 3 ข้อ หรือ 4 ข้อ มันก็แค่การ หย่าศึกชั่วคราว...nn 

จะว่าไป เหตุปะทะช่องบก ดูแล้ว ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ และ ไม่ใช่เรื่องเข้าใจผิด เนื่องจากก่อนหน้านี้ฝ่ายไทย พบทหารเขมรขุดคูเลตล้ำพื้นที่อ้างสิทธิ์มาแล้ว 2 รอบ รอบแรกเจอเมื่อ 18 พ.ค.2568 ที่ เนิน 745 ช่องบก ในพื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลฯ ห่างเพียง 10 วัน เจออีกที่จุดปะทะล่าสุด คราวนี้ขุดลากยาวกว่าครึ่งกิโลเมตร...nn 

เพราะฉะนั้น การที่รัฐบาลออกมาพูดมุ้งมิ้งว่า เป็นเรื่องเข้าใจผิด คงไม่มีใครเชื่อน้ำลาย ทั้งยังตั้งคำถามต่อท่าทีนิ่งเฉยของรัฐบาลไทยโดยเฉพาะกับตัวนายกฯเองว่า จะกู้ศักดิ์ศรีของชาติคืนอย่างไร หลังถูก ฮุนเซน ชิงแถลงการณ์ไปแล้วว่า กัมพูชาเป็นผู้ถูกกระทำและไทยเป็นฝ่ายรุกราน ซ้ำรอยเหตุการณ์ความขัดแย้งปราสาทพระวิหารช่วงปี 2551-2554…nn 

ท่าทีของ ฮุนเซน ต่อสถานการณ์ปะทะที่ช่องบก ซึ่งมีทั้งลูกล่อลูกชน ทั้งไม่อยากเห็นการปะทะ แต่ขนอาวุธหนักลงพื้นที่ เล่นบทเป็นผู้ถูกกระทำ แต่ชิงประกาศสิทธิ์ในพื้นที่ทับซ้อนผ่านจุดปะทะ กล่าวอ้างว่า สามเหลี่ยมมรกต เป็นของกัมพูชา ตนเคยไปเยือนปี’52 หมากกระดานนี้ ผู้นำไทย ตามทันหรือไม่ว่า ทั้งหมดมันคือ การสร้างหลักฐานในพื้นที่จริง ที่ไม่ใช่แค่ยึด MOU43 บนแผนที่ ไม่งั้นคงไม่ร้องกล้าท้าให้ไทยไปขึ้นศาลโลกหรอก...nn 

หันมาดูการเมืองกันหน่อย กรณีชั้น 14 กลับมาร้อนฉ่าอีกครั้ง หลัง สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา จัดเต็มให้ นายใหญ่ แบบไม่เกินความคาดหมาย ใช้อำนาจวีโต้มติแพทยสภา ที่ลงโทษ 3 หมอ กรณีช่วยทักษิณป่วยทิพย์ โดยไม่นำพาเสียงต้าน…nn 

น่าคิดว่า สมศักดิ์ เทพสุทิน นักการเมืองรุ่นเก๋า ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ น่าจะอ่านเกมออกว่า การวีโต้มติแพทยสภา จะเกิดอะไรขึ้น แต่ทำไมยังกล้าท้าทายกระแสสังคม ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนจะช่วยให้จุดติดซะด้วย หลายๆ ฝ่ายเริ่มออกมาเคลื่อนไหวสนับสนุนแพทยสภายึดตามมติเดิม ถึงขั้นประกาศล่าชื่อกันแล้ว…nn 

ต้องลุ้นต่อไปว่า 12 มิ.ย.วันประชุมใหญ่ของแพทยสภา จะยึดตามมติเดิมหรือไม่ โดยต้องใช้เสียงไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 หรือ 47 จาก 70 คน หากเสียงส่วนใหญ่ยืนยันตามเดิม ผู้ถูกกล่าวหายื่นขอเพิกถอนคำสั่งกับศาลปกครองได้ แต่ถ้าเสียงไม่ถึง ตั้งกรรมการสอบสวนในประเด็นที่วีโต้ใหม่...nn 

ด้วยกระแสเชี่ยวกรากขนาดนี้ แพทยสภา คงไม่เปลี่ยนแปลงมติเดิม เพราะนั่นเท่ากับทำลายศักดิ์ศรีทางวิชาชีพอย่างย่อยยับ สุดท้ายเชื่อว่าจะไปจบที่ศาลปกครอง ซึ่งน่าจะอยู่ในการคาดคำนวณของ สมศักดิ์ เทพสุทิน ยอมใช้ตัวแลกใจปิดจ๊อบให้นายใหญ่ ถึงจะโดนด่าบ้าง แต่ก็มี 10 อรหันต์ที่ตั้งขึ้นมาเป็นหนังหน้าไฟใช้เป็นข้ออ้างเหตุวีโต้ พอจะเอาตัวรอดไปได้ เมื่อดีดลูกคิดรางแก้วแล้ว ดงกระสุนตกคงไม่น่าหนักเท่าคนชื่อ ทักษิณ ชินวัตร…nn 

ควันหลงจาก ทักษิณ ชินวัตร ไปโชว์วิสัยทัศน์ประกาศนโยบายแก้ปัญหายาเสพติดที่ ป.ป.ส.ขู่เปิดศึกว้าแดงทลายแหล่งผลิตใหญ่ยาเสพติด ขันอาสาจะลงพื้นที่ชี้เป้าพ่อค้ายาทั่วประเทศ อ่านทิศทางลม อาจคิดหมากกินสองเข้าฮอส อย่างแรกลงไปช่วยกู้หน้านายกฯลูกสาว อย่างสองถือโอกาส เช็คเรตติ้ง-ตุนคะแนนเสียง ยุบสภาเมื่อไหร่ ก็ได้เปรียบเมื่อนั้น…nn 

สอดรับกับความเคลื่อนไหวล่าสุดของ นายใหญ่ ส่งสัญญาณชัดเจน ปรับใหญ่ ครม. อยากจะยึดหลายกระทรวงจากพรรคร่วม โดยล็อกเป้าทวงคืน มหาดไทย จากพรรคภูมิใจไทย อ้างยังทำงานไม่เต็มที่ เข็นนโยบายลงไม่ถึงประชาชน อย่าลืมว่า มหาดไทยคือกล่องดวงใจคุมการเลือกตั้ง ชงขมๆ แบบนี้ต้องถาม เสี่ยหนู-ครูใหญ่ ว่าจะยอมหักหรือยอมงอ จับตาอย่างระทึกหลังผ่านร่างงบฯปี’69...สวัสดี

สิบแปดสิงห์