"บี้-แก้ม-นภ-แพนเค้ก-โก้-อินทัช" ร่วมขับร้องเพลงแนวคลาสสิค "กาชาดคอนเสิร์ต" ครั้งที่ 44 บรรเลงโดย "ซิมโฟนีออเคสตร้า ดุริยางค์ราชนาวี" ที่หอประชุมใหญ่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ช่วง 5-6 กรกฎาคมนี้
"ดนตรีแนวคลาสสิค" ไม่ใช่ดนตรีบรรเลงที่เข้าใจยากและจำกัดกลุ่มผู้ฟังเฉพาะในกลุ่มชนชั้นสูง เพียงแต่อาจเป็นเรื่องไกลตัวเพราะค่อนข้างจะหาฟังยาก โดยดนตรีแนวคลาสสิค ถือเป็นทางเลือกหนึ่ง เช่นเดียวกับดนตรีแนวอื่นๆ ที่ล้วนแล้วแต่เป็นการจรรโลงจิตใจและให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลายกับความเครียดในชีวิตประจำวัน
โดยการแสดงดนตรีคลาสสิคจะใช้เครื่องดนตรี 4 กลุ่มคือเครื่องสาย (ไวโอลิน วิโอล่า เชลโล และดับเบิลเบส) เครื่องลมไม้ (ฟลุต คลาริเน็ต โอโบ บาสซูน ปิคโคโล) เครื่องลมทองเหลือง เช่น ทรัมเป็ต ทรอมโบน ทูบา เฟร็นช์ฮอร์น และ เครื่องเคาะ หรือ Percussion ซึ่งเมื่อเล่นรวมกันเป็นวงเรียกว่า "วงดุริยางค์" หรือ "ออร์เคสตรา" (Orchestra) ซึ่งมีผู้อำนวยเพลง (conductor) เป็นผู้ควบคุมวงโดย "วงออเคสตร้า" ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักกันดีในแดวงนักฟังดนตรีแนวคลาสสิค ในประเทศไทย หนึ่งในนั้นคือ "วงดุริยางค์ราชนาวี" ซึ่งถือเป็นวงซิมโฟนีออเคสตร้า ที่บรรเลงเพลงคลาสสิคในยุคแรกๆ ของประเทศ และได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จอย่างสูงมาจนถึงปัจจุบัน
วงดุริยางค์ราชนาวี ได้ถือกำเนิดขึ้นมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงมีพระราชประสงค์ที่จะพัฒนาการทหาร ให้ทัดเทียมนานาอารยประเทศ จึงทรงสนับสนุนให้มีวงดนตรีเพื่อการเดินสวนสนามของทหาร และพิธีการสำคัญบนเรือรบ ตามแบบตะวันตก ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาวงดุริยางค์ราชนาวี ได้พัฒนาปรับปรุง ให้เจริญก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง
โดยในปี 2500 ได้จัดตั้งโรงเรียนดุริยางค์ทหารเรือเพื่อรับบุคคลพลเรือนเข้ามารับการฝึกหัดเป็นนักดนตรีทหารเรือ ต่อมาสามารถจัดวงดุริยางค์ซิมโฟนี่ แสดงในรูปแบบคอนเสิร์ตเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2502 และจัดตั้งวงดนตรีไทยเดิม วงหัสดนตรี นักร้องประสานเสียง เพื่อปฏิบัติภารกิจทั้งในงานพระราชพิธี รัฐพิธี และงานบรรเลงต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ
วงดุริยางค์ราขนาวี ได้เปิดคอนเสิร์ตขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ในชื่อ "ออร์เคสตรัลคอนเสิร์ต" เมื่อ 28 พฤศจิกายน 2502 ณ หอประชุมศูนย์วัฒนธรรม ต่อมาในปี 2503 ได้เปิดคอนเสิร์ตขึ้น 3 ครั้ง โดย 2 ครั้งแรกคือ "ราชนาวีคอนเสิร์ต" ส่วนคอนเสิร์ตที่ 3 คือ "อานันทมหิดลคอนเสิร์ต" ซึ่งจัดให้มีขึ้น ณ หอประชุมศูนย์วัฒนธรรม ตามพระราชประสงค์ของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เพื่อหารายได้สมทบทุนมูลนิธิอานันทมหิดล และในเวลาต่อมาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 มีพระราชประสงค์ให้กองทัพเรือจัดแสดงดนตรี เพื่อหารายได้บำรุงสภากาชาดไทย เพื่อที่จะให้การช่วยเหลือรักษาพยาบาลเพื่อนมนุษย์ผู้เจ็บป่วยทั้งมวลให้ได้อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขตลอดไป
นอกจากนี้ ยังเป็นการเผยแพร่ดนตรีแนวเพลงคลาสสิคให้เป็นที่แพร่หลายแก่คนทั่วไปอีกด้วย ทั้งนี้ กองทัพเรือได้ดำเนินการตามพระราชประสงค์ โดยจัดวงดุริยางค์ราชนาวี บรรเลงคอนเสิร์ต ตั้งแต่ปี 2504 เป็นต้นมา โดยใช้ชื่อว่า "กาชาดคอนเสิร์ต" และได้ดำเนินการต่อเนื่องมาตราบจน จะมีเว้นบ้างตามสถานการณ์ ที่ไม่เอื้ออำนวย ซึ่งรายได้จากการบริจาคทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่ายจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายโดยเสด็จพระราชกุศลบำรุงสภากาชาดไทย
สำหรับการแสดงกาชาดคอนเสิร์ต ครั้งที่ 44 ในครั้งนี้กำหนดจัดการแสดงในวันที่ 5-6 กรกฎาคม 2561 เวลา 19.30 น.ที่หอประชุมใหญ่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย โดยกองดุริยางค์ทหารเรือ ฐานทัพเรือกรุงเทพ ได้จัด "วงซิมโฟนีออเคสต้า ดุริยางค์ราชนาวี" ร่วมบรรเลงเพลงอันไพเราะด้วยเครื่องดนตรีเกือบ 100 ชิ้น
โดยช่วงแรกเป็นการบรรเลงบทเพลงคลาสสิก ประกอบด้วยเพลง The Sound of Music ประพันธ์โดย Richard Rodgers และ Oscar Hammerstein เพื่อใช้ประกอบภาพยนตร์เรื่อง The Sound of Music เพลง Oboe Concerto in C Major K . 314 ประพันธ์โดย Wolfgang Amadeus Mozart เพลง An American in Paris ประพันธ์โดย George Gershwin และเพลง The girl in 14G ซึ่งเป็นบทเพลงร่วมสมัย
ส่วนในช่วงที่สองเป็นการขับร้องบทเพลง อันไพเราะหลากหลายบทเพลง โดยนักร้องรับเชิญ และนักร้องวงดุริยางค์ทหารเรือ จำนวน 15 บทเพลง ประกอบด้วย เพลง สยามินทร์วชิราลงกรณ์ ซึ่งประพันธ์ขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติองค์กษัตรา รัชกาลที่ 10 ด้วยความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ขับร้องโดย จ่าเอก อภิชัย ดาวัลย์, จ่าเอก ปรัชญา ธรรมโชติ และ จ่าเอก อินทัช ฤกษ์เย็น
เพลง My Heart ซึ่งเป็นบทเพลงบรรเลงโดย "วงดุริยางค์ราชนาวี" ร่วมกับการเดี่ยว "แซกโซโฟน" โดย "เศกพล อุ่นสำราญ" หรือ โก้ Mr.Saxman เพลง "เธอคือพรหมลิขิต" และเพลง "เอะใจ" ขับร้องโดย "บี้ สุกฤษฏิ์ วิเศษแก้ว" เพลง "เติมใจให้กัน" เพลง "ยิ่งรู้จักยิ่งรักเธอ" ขับร้องโดย "แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์" เพลง Time to Say Goodbye ขับร้องโดย "จ่าเอก ธีรวัฒน์ แก้วศิริ" และนักเรียนดุริยางค์หญิง ไตรสิกขา พึงชุ่มชื่น เพลง "ออเจ้าเอย" (เพลงประกอบละครบุพเพสันนิวาส) ขับร้องโดย "จ่าเอก อินทัช ฤกษ์เย็น" เพลง Wind Beneath My Wings ขับร้องโดยนักเรียนดุริยางค์หญิง ไหมแพร ศิริสาร เพลง Love เพลง "เหมือนเคย" ขับร้องโดย "นภ พรชำนิ" เพลง "ความผูกพัน" (ซื้อความรักไม่ได้) และเพลง Symphony ขับร้องโดย "แก้ม วิชญาณี เปียกลิ่น" เพลง "ราชาทรงพระเจริญ" เพลง "รักกันไว้เถิด" ขับร้องโดยนักร้องรับเชิญ นักร้องและนักร้องประสานเสียง วงดุริยางค์ทหารเรือ
ทั้งนี้ การจัดการแสดงกาชาดคอนเสิร์ตฯ จะไม่มีการจำหน่ายบัตรเข้าชมแต่อย่างใด แต่จะเปิดรับบริจาคเงินตามกำลังศรัทธา เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 สภานายิกาสภากาชาดไทย โดยเสด็จพระราชกุศล บำรุงสภากาชาดไทย โดยสามารถร่วมบริจาคเงิน ได้ที่กรมการเงินทหารเรือ หมายเลขโทรศัพท์ 024755683 หรือโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) สาขากองบัญชาการกองทัพเรือ บัญชีออมทรัพย์ ชื่อบัญชี "กาชาดคอนเสิร์ตกองทัพเรือ ครั้งที่ 44" เลขบัญชี 115-2-26093-9 และส่งสำเนาการโอนเงินพร้อมชื่อ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ติดต่อกลับให้ชัดเจน สำหรับการส่งกลับใบเสร็จรับเงินเพื่อใช้ในการลดหย่อนภาษี โดยส่งมาที่กรมการเงินทหารเรือ หมายเลขโทรสาร (อัตโนมัติ) 024755557 และติดต่อสำรองบัตรที่นั่งเข้าชมได้ที่กรมข่าวทหารเรือ หมายเลขโทรศัพท์ 024727660 ในวันและเวลาราชการ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี