วันนี้ (10 ก.ค.63) ที่ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดพิธี ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการเสริมศักยภาพและการขับเคลื่อนเครือข่ายเยาวชนพลเมืองคาร์บอนต่ำและการจัดกิจกรรม ACE Youth Camp 2020 ระหว่าง กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม (สส.) กับ องค์การบริหารจัดการ ก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. ภายใต้การสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนสิ่งแวดล้อมโลก (Global Environment Facility: GEF) ผ่านโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (United Nations Development Programme; UNDP) เพื่อเติมเต็มศักยภาพผู้นำเยาวชนในการร่วมขับเคลื่อน ขยายเครือข่ายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและพลเมืองคาร์บอนต่ำ สู่การเป็นเมืองคาร์บอนต่ำอย่างเป็นรูปธรรม
นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า การปล่อยก๊าซ เรือนกระจกจากกิจกรรมของมนุษย์ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตและสิ่งแวดล้อมทั้งโลกในทุกด้าน โดยในปี 2563 ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ได้ร้อยละ 14 จากที่ตั้งเป้าหมายไว้ ร้อยละ 7-20 อย่างไรก็ตาม เพื่อความท้าทายในก้าวต่อไป ได้เสนอเป้าหมายลดก๊าซเรือนกระจกลงให้ได้ ร้อยละ 20-25 ภายในปี 2573 โดยมุ่งเน้นไปที่ภาคพลังงานและคมนาคมขนส่ง
การจัดการขยะ และอุตสาหกรรม จึงจำเป็นต้องอาศัยพลังความร่วมมือจากทุกภาคส่วนร่วมผลักดันและขับเคลื่อนนโยบายสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม โดยกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ ให้เป็นหน่วยประสานงานกลางของประเทศในการส่งเสริมความร่วมมือด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ Action for Climate Empowerment หรือ ACE
โดยมีวัตถุประสงค์ คือ ทำให้สังคมไทยเป็นสังคมปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำ สามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนสภาพภูมิอากาศ ได้
ทั้งนี้ จากการประชุมประจำปีด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก ครั้งที่ 25 หรือ COP25 (The 25th Conference of the Parties) ณ เมืองมาดริด ราชอาณาจักรสเปน เมื่อเดือน ธ.ค. 2562 ที่ประชุมได้ให้ความสำคัญกับภาคประชาสังคมในการมีส่วนร่วมลดก๊าซเรือนกระจกอย่างเข้มแข็ง โดยเฉพาะภาคการศึกษาและเยาวชน ซึ่งสอดคล้องกับผลการประเมินผู้เยี่ยมชมนิทรรศการการแสดงผลการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย ที่พบว่า ภาคการศึกษาและกิจกรรมของเยาวชนเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจเป็นลำดับต้น
การลงนามความร่วมมือในครั้งนี้จึงเป็นก้าวสำคัญในการสร้างความเข้มแข็ง เติมเต็ม และ ต่อยอดขีดความสามารถของผู้นำเยาวชน เกิดเครือข่ายเยาวชนด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ที่ร่วมกันพัฒนาแนวทางการปรับพฤติกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและการลดก๊าซเรือนกระจกลงได้อย่างยั่งยืน โดย กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมจะรับผิดชอบด้านการคัดเลือกผู้นำเยาวชนและสร้างความเข้มแข็งให้กับเครือข่ายผู้นำเยาวชนด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การพิจารณาประเด็นและความต้องการเติมเต็มและต่อยอดขีดความสามารถของผู้นำเยาวชน ตลอดจนการจัดกิจกรรม ACE Youth Camp 2020 สนับสนุนการขยายเครือข่ายเยาวชนฯ พัฒนาแนวทางการปรับพฤติกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและลดก๊าซเรือนกระจก ซึ่งมีระยะเวลาดำเนินการ 10 เดือน ระหว่างเดือนกรกฎาคม 2563 - เมษายน 2564 ในรูปแบบภาคีร่วมพัฒนา
ด้าน นายเกียรติชาย ไมตรีวงษ์ ผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก กล่าวว่า องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ดำเนินโครงการพัฒนาเมืองคาร์บอนต่ำผ่านระบบการจัดการเมืองอย่างยั่งยืนด้วยการมีส่วนร่วมจากภาคประชาสังคม โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนสิ่งแวดล้อมโลก(Global Environment Facility: GEF) ผ่านโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (United Nations Development (UNDP) โดยจะให้การสนับสนุนด้านวิชาการและประสบการณ์ด้านการลดก๊าซเรือนกระจก ตลอดจนแนวทางการขับเคลื่อนเมืองคาร์บอนต่ำอย่างรอบด้าน รวมทั้งสนับสนุนงบประมาณ ผู้เชี่ยวชาญ และบุคลากรในการเสริมศักยภาพและการขับเคลื่อนเครือข่ายเยาวชน พลเมืองคาร์บอนต่ำ และการจัดกิจกรรม ACE Youth Camp 2020 ตลอดจนร่วมกับกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมติดตามและประเมินผลการดำเนินงานเพื่อนำมาวิเคราะห์และขยายผลการดำเนินงานร่วมกันต่อไป ด้วยเชื่อว่า ภาคการศึกษาและเยาวชน เป็นพลังสำคัญในการเปลี่ยนแปลงสังคมสามารถเป็นต้นแบบของการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการดำเนินชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นำไปสู่การลดก๊าซเรือนกระจกอย่างยั่งยืน
ขณะที่ Mr. Renaud Meyer UNDP Resident Representative in Thailand เน้นย้ำว่า ความเข้าใจ ความตระหนัก และความร่วมมือของทุกภาคส่วนในการลดก๊าซเรือนกระจก และการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นสิ่งสำคัญ จึงมีแผนในการสนับสนุนการดำเนินการ ACE กับ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ในการส่งเสริมความร่วมมือกับทุกภาคส่วนต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี