ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ณ ลานเซ็นทรัลเวิลด์ ถือเป็น “แลนด์มาร์คแห่งงานเคาท์ดาวน์ระดับโลกของประเทศมากว่า 20 ปี” ที่เปรียบเสมือน Times Square of Asia และในปีนี้ ณ ลานเซ็นทรัลเวิลด์แห่งนี้จะต้องกลายเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์โลกที่ทุกคนต้องจดจำ เพราะถือเป็นการเคาท์ดาวน์แบบ New Normal ที่ทั่วโลกพร้อมใจกันรักษาระยะห่างแต่ยังสร้างโมเมนต์ที่ดีที่สุดร่วมกัน และทันทีที่สถานการณ์โควิด-19 เริ่มยกระดับ “เซ็นทรัลพัฒนา” จึงประกาศทันทีว่าจะถ่ายทอดสดทางช่อง ONE 31 และ LINE TV เท่านั้น เพื่อร่วมกับคนไทยทั้งประเทศในการก้าวผ่านสถานการณ์นี้ไปโดยเร็วที่สุด แม้ผลกระทบของธุรกิจจะเกิดขึ้น แต่ความรับผิดชอบต่อสังคมและประเทศชาติเป็นสิ่งที่เซ็นทรัลพัฒนายึดมั่นมาโดยตลอด
บริษัทเซ็นทรัลพัฒนา แจ้งว่า เนื่องจากการจุดพลุและดอกไม้ไฟ ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งการเฉลิมฉลองโอกาสสำคัญต่าง ๆ ของทั่วโลก สีสันของพลุและดอกไม้ไฟ จึงมีความหลากหลายและรูปแบบที่ต่างกันไป ถือเป็นส่วนผสมของทั้งศาสตร์และศิลป์ ซึ่งผ่านการตีความ ร้อยเรียงเป็นเรื่องราว เพื่อรังสรรค์ความจดจำให้กับผู้พบเห็นได้อย่างตราตรึงใจ วันนี้เซ็นทรัลเวิลด์จึงจะพาคุณมาทำความรู้จักกับ ความหมายสุดลึกซึ้งของ ‘A Symbol of Hope’ ที่เป็นทั้งการแสดงพลุ ผสมผสาน Digital Synchronization สุดพิเศษจากเซ็นทรัลเวิลด์ เพื่อสะท้อนทัศนคติเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการไม่จำเป็นต้องใช้พลุจำนวนมาก แต่ใช้จอดิจิทัลขนาดยักษ์เพื่อสร้างความอลังการกว่าเดิม
ความหมายและสัญลักษณ์ที่ซ่อนไว้กับพลุและดอกไม้ไฟ ทั้ง 4 องก์ ได้รับแรงบันดาลใจจาก World Issue หรือ สถานการณ์ โควิด-19 ที่ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงในการดำเนินชีวิตให้กับคนทั่วโลกอย่างสิ้นเชิง แต่เพราะเราเชื่อว่า มนุษยชาติ ย่อมเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง และ ความเป็นหนึ่งใจเดียว ที่พร้อมจะรวมพลังกันเพื่อเอาชนะวิกฤตที่เกิดขึ้นให้ได้ จึงเป็นที่มาของการออกแบบพลุและดอกไม้ ในธีม ‘A Symbol of Hope’ เป็นสัญลักษณ์ของประเทศไทยในการสะท้อนพลังบวกบนเวทีโลกนั่นเอง
องก์ที่ 1 : Spirit of Togetherness “ความสามัคคี” ของคนทั้งโลก คือวัคซีนล้ำค่า ถึงแม้ประชากรโลกแต่ละคนจะอยู่ห่างกันคนละซีกโลก แต่ทุกคนล้วนมีส่วนสำคัญ ในการร่วมมือร่วมใจกันอย่างสมัครสมานสามัคคี การพุ่งขึ้นของพลุชุดที่ 1 จึงเปรียบเสมือน Spirit หรือจิตวิญญาณของผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกที่พุ่งทะยานขึ้นไปสู่ท้องฟ้า มุ่งสู่เป้าหมายเดียวกัน อย่างพร้อมเพรียงกัน เพื่อร่วมกันฝ่าฟันวิกฤตโควิด-19 ที่เกิดขึ้น เปรียบดั่งความสามัคคีที่จะเป็นวัคซีนที่ล้ำค่าที่สุด ณ ห้วงเวลานี้
องก์ที่ 2 : Believe in Positivity ส่งต่อ “พลังใจ” สู้ไปด้วยกัน ท่ามกลางท้องฟ้าที่มืดมิด แต่ยังคงมีแสงสว่างสีเหลืองระยิบระยับ เปรียบดั่งแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ พลุในชุดที่ 2 สื่อถึง ประกายแห่งความคิดบวก หรือ Positivity และการร่วมกันจุดพลังใจ ท่ามกลางการณ์ที่มืดมน พลุและดอกไม้ชุดที่ 2 ยังได้แรงบันดาลใจ Pantone สีแห่งปี 2021 คือ สี Ultimate Gray ซึ่งเปรียบดั่งท้องฟ้าในยามค่ำคืน เป็นสีที่ซ่อนความนิ่ง และความเยือกเย็นดั่งหินผา และสี Illuminating สีของความคิดบวก ความอดทน ความอบอุ่น และความหวังของมนุษยชาติ
องก์ที่ 3 : Reunite Thailand & Our World เพื่อพวกเรา เพื่อประเทศชาติ เพื่อโลกของเรา พลุชุดที่ 3 สื่อถึงประเทศไทยในสายตานานาประเทศ ที่เป็นหนึ่งในประเทศอันดับต้นๆ ของโลก ที่สามารถจัดการสถานการณ์ได้เป็นอย่างดีจนได้รับการยอมรับไปทั่วโลก สีสันของดอกไม้ไฟในชุดที่ 3 จึงเป็นการนำสีของธงไตรรงค์ อันประกอบด้วย สีแดง สีขาว และสีน้ำเงิน มาเป็นสัญลักษณ์ นอกจากนี้ยังเป็นสีของปลากัด หรือ Siamese Fighting Fish สัตว์น้ำประจำชาติไทยที่ต่างชาติรู้จักเป็นอย่างดี สื่อถึงความสง่างาม ทรงพลัง อ่อนช้อย ทว่าเป็นยอดนักสู้ตัวฉกาจ ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้านพฤติกรรมการต่อสู้ สะท้อนความเป็นไทยในเรื่องของลักษณะนิสัย "นักสู้" ที่รักชาติ นอกจากนี้ ‘ปลากัด’ ยังได้รับการนำไปออกแบบเป็นชุดประจำชาติไทยบนเวทีประกวดนางงามระดับโลกในปีหน้าอีกด้วย
องก์ที่ 4 (High-light) : There is Always Hope ความหวังเป็นพลังของชีวิต สะท้อนการเป็นทุ่งดอกไม้แห่งความหวัง ที่มีความหลากหลายของสีสัน สื่อถึงความหลากหลายทางเพศ ชาติพันธุ์ และความเชื่อของผู้คนทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีการเน้นการใช้สีแดง อันหมายถึง สีของกาชาดสากล หรือ Red Cross เพื่อร่วมกันส่งต่อพลังใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์ และผู้ที่เกี่ยวข้องอื่นๆที่เป็นด่านหน้าที่สำคัญในการต่อสู้กับโควิด-19 รวมถึงยังเป็นการจุดประกายให้กับประชาคมโลกทุกคนคิดบวกไปข้างหน้า อดทนและไม่ย้อท้อ เต็มไปด้วยความหวังที่เชื่อมั่นว่า เราจะสามารถเอาชนะได้ในที่สุด
นอกจากการจุดพลุและดอกไม้ไฟแล้ว อีกหนึ่งความพิเศษของการแสดงพลุในครั้งนี้ คือ การใช้สื่อผสมร่วมกับการแสดงพลุในแบบ Audio & Visual Graphic Art ที่ออกแบบสำหรับการแสดงพลุแต่ละชุดแบบหนึ่งต่อหนึ่ง ผ่านเทคนิค Digital Synchronization ผ่านจอ the panOramix ที่ยาวที่สุดในโลก และ เป็นการแสดงพลุแบบผสมผสานสื่อดิจิทัลเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย ร่วมด้วยถ่ายทอดบทเพลงให้กำลังใจ จากวง Thailand Philharmonic Orchestra วงดุริยางค์ฟีลฮาร์โมนิกแห่งประเทศไทย วงใหญ่แบบเต็มวง และการแสดง ‘เพลงแห่งความหวัง’ สุดเซอร์ไพรส์ ที่จะช่วยสร้างพลังบวกและส่งต่อความหวังให้ผู้รับชมทางบ้าน
ร่วมกันรับชม LIVE และเคาท์ดาวน์จากบ้านไปกับ “Central World Bangkok Countdown 2021 – A Symbol of Hope” ได้พร้อมกัน ตั้งแต่ 23:40 – 00:10 น. ผ่านไลฟ์สดช่อง ONE 31 และ LINE TV เท่านั้น สำหรับลูกค้าที่ต้องการมาเดินในงาน the World festival & gift market ทางศูนย์การค้าได้เตรียมพร้อมคุมเข้มมาตรการความปลอดภัยตามแผนแม่บท ‘เซ็นทรัล สะอาด มั่นใจ’ เพื่อรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 เน้นวินัยลดการแออัด และรักษาระยะห่างแบบ New Normal โดยในคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ลานต้นคริสต์มาส จะปิดให้บริการ เวลา 22.00 น., ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ปิดให้บริการ เวลา 24.00 น. ไม่มีการปิดถนน สามารถมาใช้บริการได้ตามปกติ
https://www.youtube.com/watch?v=mm7_WoV0LPU
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี