กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ทุ่มงบประมาณปี64 จำนวน 40 ล้านบาท เปิดรับข้อเสนอโครงการหรือกิจกรรม เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนมีโอกาสผลิตสื่อที่มีคุณภาพ ปลอดภัยและสร้างสรรค์ พร้อมเผย ความพิเศษของปี 64 เปิดกว้างคุณสมบัติผู้เสนอขอรับทุนให้เยาวชนอายุตั้งแต่ 13 ปี ไม่เกิน 25 ปี เปิดรับโครงการทางออนไลน์ถึง 28 ตุลาคม นี้
‘กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ จะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมไทย ให้มีสติในการเปิดรับสื่อ และมุ่งหวังให้มีการผลิตสื่อสร้างสรรค์ที่มีคุณภาพ โดยให้สื่อคุณภาพของคนไทย สามารถเข้าไปอยู่ในแพลตฟอร์มสื่อต่าง ๆ ที่เปิดกว้าง และเกิดเป็นกระแสบวกบอกต่อกับสังคม’
ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เปิดเผยว่า การเปิดรับข้อเสนอโครงการหรือกิจกรรมเพื่อขอรับการสนับสนุนเงินกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ประจำปี 2564 ประเภทส่งเสริมและสนับสนุนเด็กและเยาวชน เป็นโครงการสำคัญเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนมีโอกาสผลิตสื่อที่มีคุณภาพ ปลอดภัย สร้างสรรค์ ช่วยเป็นเวทีสำคัญให้เด็กและเยาวชนมีโอกาสนำเสนอผลงานที่ดี ออกสู่สังคม อีกทั้งยังเปรียบเหมือนกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนการผลิตสื่อ และเสพสื่ออย่างสร้างสรรค์ และรู้เท่าทัน
โดยที่ผ่านมากองทุน ฯ ได้มีการจัดสรรทุนเพื่อพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์มาแล้ว5ปี ตั้งแต่ปี 2560 – 2564 และได้ให้ทุนกับผู้รับทุนไปแล้วทั้งสิ้น 446 โครงการ งบประมาณรวมกว่า 1,139 ล้านบาท และการเปิดรับข้อเสนอโครงการเพิ่มเติมใน ปี 2564 ครั้งนี้ มีวงเงินงบประมาณ 40 ล้านบาท โดยมีการเปิดกว้างให้แก่กลุ่มเป้าหมายที่เป็นกลุ่มเด็กและเยาวชนได้มีโอกาสเสนอโครงการ หรือกิจกรรมที่สร้างสรรค์เพื่อขอรับทุนสนับสนุนได้ นับว่าเป็นครั้งสำคัญของกองทุน ฯ ที่มีการเปิดโอกาสให้กับเยาวชนโดยตรง เนื่องจากเล็งเห็นถึงศักยภาพของเด็กไทยในปัจจุบัน ที่มีความคิด ความสามารถในการสร้างสรรค์ และเปิดโอกาสให้กับ 2 กลุ่ม หลัก ๆ ได้แก่ กลุ่มบุคคลธรรมดา ที่เป็นสัญชาติไทย อายุตั้งแต่ 13 ปี และไม่เกิน 25 ปีบริบูรณ์ ในกรณีผู้ขอรับการสนับสนุนมีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ ต้องได้รับความยินยอมจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือผู้แทนโดยชอบธรรมแล้วแต่กรณี และ นิติบุคคล ซึ่งเป็นได้ทั้งสถานศึกษา หรือนิติบุคคลที่ไม่แสวงหากำไร โดยมีกรอบเนื้อหาที่จะพิจารณาให้ทุนสนับสนุน 5 ด้านหลัก ประกอบด้วย 1.เนื้อหาที่เกี่ยวกับการสร้างความสัมพันธ์อันดีในครอบครัว ชุมชน และสังคม 2. เพื่อส่งเสริมการรู้เท่าทันสื่อและพัฒนาทักษะการใช้ชีวิต เฝ้าระวังสื่อที่ไม่ปลอดภัย ไม่สร้างสรรค์ 3.เพื่อนำเสนอเรื่องราวในชุมชน วิถีชีวิต ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น การท่องเที่ยว หรือมุมมองใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นจากสภาพความเปลี่ยนแปลงของสังคม 4.เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วม หรือสร้างความเข้าใจระหว่างกลุ่มคนต่างวัย หรือเป็นการลดความเหลื่อมล้ำในสังคม หรือเป็นการสร้างโอกาสให้แก่คนพิการในการเข้าถึงสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ 5. เพื่อส่งเสริมการพัฒนาองค์ความรู้และการสร้างนวัตกรรม โดยเปิดรับโครงการหรือกิจกรรมตั้งแต่วันที่ 29 กันยายนที่ผ่านมา ถึง 28 ตุลาคม 2564 ภายในเวลา 16.30 น. ที่เว็บไซต์ www.thaimediafund.or.th และสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางโทรศัพท์หมายเลข 0 2273 0116 – 8 ในวันและเวลาราชการ
นอกจากนี้ กองทุน ฯ ยังได้เตรียมดำเนินการจัดสรรทุนปี 2565 โดยได้มีการเปิดรับฟังความคิดเห็นในงาน TMF Public Hearing: Grants for Change 2022เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ที่ผ่านมา เพื่อเปิดกว้างให้ผู้สนใจได้แสดงความคิดเห็น และนำมาสู่การปรับกลไก หลักเกณฑ์การรับทุนที่เป็นประโยชน์ต่อการนำไปปฏิบัติมากยิ่งขึ้น โดยประเภทการให้ทุนในปี 2565 ส่วนตัวคิดว่าจะยังคงแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ 1. ทุนประเภทเปิดรับทั่วไป 2.ประเภทยุทธศาสตร์ 3.ประเภทความร่วมมือ
ดร.ธนกร กล่าวเพิ่มเติมว่า การดำเนินงานสนับสนุนของกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ มีความมุ่งหวังว่า จะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมไทยให้มีสติในการเปิดรับสื่อ และยึดหลักสำคัญ คือ เปิดรับสื่ออย่างมีสติ อย่ารีบแชร์ต้องการให้สังคมมีทักษะรู้เท่าทันสื่อ และมุ่งหวังให้มีการผลิตสื่อสร้างสรรค์ที่มีคุณภาพ โดยมุ่งหวังให้สื่อคุณภาพของคนไทย สามารถเข้าไปอยู่ในแพลตฟอร์มเผยแพร่สื่อต่าง ๆ ที่เปิดกว้าง และเกิดเป็นกระแสบอกต่อของสังคม เพื่อมุ่งให้เกิดการพัฒนาสังคมและประเทศชาติในอนาคต
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี