“ทีเส็บ” ยกระดับบุคลากรภาคกลาง (จังหวัดกรุงเทพมหานคร) พร้อมเพิ่มขีดความสามารถ องค์ความรู้ และทักษะวิธีการต่าง ๆ ด้านการบริหารสถานที่การจัดงาน
เดินทางมาครบทั่วทั้งประเทศ และล่าสุดเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2566 กับ “ทีเส็บ” โดยฝ่ายพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมไมซ์ จัดกิจกรรมอบรม Venue Management Course ครั้งที่ 5 ณ โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน จ.กรุงเทพมหานคร
โดยมีวิทยากรร่วมเสวนาได้แก่ คุณนันทินี เชื้อชูวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ โรงแรมรามา การ์เด้นส์ กรุงเทพ, คุณอิทธิพล สุรีรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม่น้ำร้อยสาย จำกัด และอุปนายกสมาคมธุรกิจสร้างสรรค์การจัดงาน และคุณอรชร ว่องพรรณงาม ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมไมซ์ ร่วมแบ่งปันประสบการณ์และองค์ความรู้เกี่ยวกับ Mega Trend สำหรับอุตสาหกรรมไมซ์ อีเวนต์ และการจัดงานต่าง ๆ ในปัจจุบัน ในมุมมองของผู้จัดงาน กับการปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย โดยมีความโดดเด่นในการนำเสนอจุดแข็ง หรือรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับภาคกลาง โดยเฉพาะแถบกรุงเทพฯและปริมณฑล และกลยุทธ์ในการดึงดูดลูกค้า บริหารคนของโรงแรมรามา การ์เด้นส์ กรุงเทพ ซึ่งเป็นโรงแรมที่ได้ให้บริการรองรับการจัดงาน รวมถึงมีการให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกให้ความสำคัญเป็นลำดับแรก ๆ ในการมองหาที่จัดงานในปัจจุบัน รวมไปถึงการแบ่งบันประโยชน์ด้านการ “สร้าง Customer Experience อย่างไรให้โดนใจลูกค้า” โดย คุณสุกัญญา จันทร์ชู ที่ปรึกษากรรมการสมาคมโรงแรมไทย และอดีตผู้จัดการทั่วไป โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ
โดยมีผู้เข้าร่วมอบรมจากหลายภาคส่วนทั้งภาครัฐ และสถานประกอบการ ที่พร้อมยกระดับการให้บริการครบทุกด้าน
“การตลาด MICE Venue ที่ใช่ กับกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์ MICE Destination” โดย คุณอรชร ว่องพรรณงาม ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมไมซ์ สสปน. กล่าวว่า “โควิดทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการจัดงานอีเวนต์โดยได้เปลี่ยนเป็นแบบ Online ก็คือ Virtual Meeting จนถึงปัจจุบันการจัดประชุมแบบออนไลน์ก็ยังคงมีการจัดขึ้นเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง” และยังพูดถึงการช่วยเหลือเกื้อกูลของคนในประเทศ “MICE หลายๆประเทศไม่ได้ดีเท่ากับไทย เราสามารถเติมเต็มสิ่งต่าง ๆ ที่ลูกค้าต้องการได้ เราสามารถนำสิ่งต่างๆเข้ามาเพิ่มเติมได้ เช่น ชุมชน, กิจกรรม, อาหาร มาใส่เพิ่มเพื่อดึงดูดลูกค้าพัฒนาจนสามารถเกิดเสน่ห์ของความเป็นไทย แต่ละพื้นที่จะคอยช่วยเหลือ MICE เช่นเดียวกับที่เราช่วยเหลือชุมชน (MICE for CBT) และที่สำคัญเราต้องรับผิดชอบต่อสังคม”
ในยุคของการเปลี่ยนแปลง ด้านธุรกิจต่าง ๆ ก็เปลี่ยนแปลงไปด้วย ด้านคุณนันทินี เชื้อชูวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ โรงแรมรามา การ์เด้นส์ กรุงเทพ เสวนาในหัวข้อ Transform or Die? ถึงเวลาธุรกิจสถานที่จัดงานไทยต้องปรับตัว กล่าวว่า “หมดยุคของปลาใหญ่กินปลาเล็ก แต่อยู่ในยุคที่ปลาเร็วกินปลาช้า ให้ลำดับความสำคัญของสถานการณ์และบริการจัดการ มีการชี้แจงและอัพเดทสถานการณ์กับพนักงานอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้พนักงานเข้าใจต้องทำ Report ในทุก ๆ อย่าง การทำงานนั้นห้ามช้าโดยเด็ดขาดต้องลงมือทำเพื่อที่จะได้รับรู้ปัญหาและแก้ไขได้ รวมไปถึงด้านการระดมสมองกับพนักงาน ประเมินค่าใช้จ่าย 50 ลำดับแรก ลด การจัดซื้อ อย่างช่วงโควิด 19 ที่ผ่านมา มีการเริ่มลดต้นทุนเช่น ทำแปลงผักปลอดสารพิษ เรือนเพาะชำในโรงแรม จะอยู่ในจุดที่เราได้กำไรเท่าเดิมหรือมากขึ้น แต่ลดต้นทุนได้ด้วย”
ด้านผู้เชี่ยวชาญการจัดงาน คุณอิทธิพล สุรีรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม่น้ำร้อยสาย จำกัด และอุปนายก สมาคมธุรกิจสร้างสรรค์การจัดงาน แชร์มุมมองประเด็น เทรนด์การจัดงาน Event สู่ธุรกิจ MICE ยุคใหม่ กล่าวว่า “Organizer มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ซึ่งนับเป็น Tools ตัวหนึ่งที่มาช่วยเราและอีเวนต์ ก็ยังคงเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ไม่หยุดนิ่ง เปลี่ยนบรรยากาศไปเรื่อย ๆ และด้าน Exhibition ซึ่งเรามีเยอะ มาก ด้านงาน MICE ที่น่าจับตามองก็คือ Incentive และ Festival ซึ่งไทยก็ยังคงเป็นที่น่าจับตามองในต่างชาติ สิ่งที่ลูกค้ามองหาคือความ Unique เราต้องมองหาว่า Venue ของเรานั้นมีจุดเด่นอะไร คุณมี Cost ที่สามารถแข่งกับคู่แข่งของคุณได้ไหม และมี 6 ตัวหลัก ๆ ที่สำคัญคือ
1.Uniqueness มีความโดดเด่นไหม มีความ iconic ไหม
2.Brand Image เรามีภาพลักษณ์ของความเป็นแบรนด์ไหม
3.Facility เรามีอุปกรณ์ ห้องพัก พื้นที่ใช้งานพอไหม
4.Location สถานที่ของเรานั้นอยู่ตรงไหน
5.Cost เรามีกำลังเงินเท่าไหร่
6.Sustainability Action
คุณสุกัญญา จันทร์ชู ที่ปรึกษากรรมการสมาคมโรงแรมไทย และอดีตผู้จัดการทั่วไป โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ กล่าวเสริมเกี่ยวกับธุรกิจโรงแรมด้านภาคกลาง “ว่ากรุงเทพ เป็นจุดหมายปลายทางหลักของนักท่องเที่ยว และมีสิ่งอำนวยความสะดวกและกิจกรรมมากมาย แต่สิ่งหนึ่งที่อยากให้โรงแรมในพื้นที่ทำคือ การร่วมมือกันเพื่อสร้างพื้นที่ในการแบ่งปันข้อมูลและแบ่งปันตลาดไม่ใช่แค่ระหว่างโรงแรม แต่รวมไปถึงระดับชุมชนด้วย เพราะการเข้าถึงข้อมูลภาคพื้น จะช่วยส่งเสริมธุรกิจเราได้มากยิ่งขึ้น การปรับเปลี่ยนโปรโมชันของโรงแรม ให้สอดคล้องกับเทรนด์ในปัจจุบันก็เป็นสิ่งสำคัญ เช่น การเช็คค่าเงิน หากค่าเงินมันลดเราไม่ต้องปรับตาม ตัวนี้จะทำให้เราได้กำไรเพิ่ม แต่ต้นทุนเท่าเดิม หรือการนำ Spa and Wellness ที่กำลังมาแรงนั้นมาปรับใช้จะช่วยให้หลาย ๆ โรงแรมกลายเป็น Destination ที่ผู้บริโภคมองว่ามีศักยภาพที่จะรองรับการบริการสำหรับคนหมู่มากทั้งคนไทยและคนต่างชาติ”