กระติกเก็บความร้อนญี่ปุ่นเป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับคนที่ต้องการพกเครื่องดื่มอุ่น ๆ หรือน้ำเย็นติดตัว เนื่องจากความทนทานและคุณภาพที่ดี

ในบทความนี้เราจะพามือใหม่หัดซื้อไปรู้จักวิธีการเลือกซื้อกระติกเก็บความร้อนญี่ปุ่นให้คุ้มค่า ใช้งานได้ดี และตอบโจทย์การใช้งานประจำวันของคุณ

ขอบคุณภาพจาก https://www.zojirushi.co.th/product/details/zojirushi-carry-mug-sm-rb/

ประโยชน์ของการใช้กระติกเก็บความร้อนญี่ปุ่น

กระติกเก็บความร้อนญี่ปุ่นมีข้อดีที่ทำให้เป็นที่ต้องการของผู้ใช้งานหลายคน เช่น

• คุณภาพวัสดุ: ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง เช่น สเตนเลสสตีลเกรดอาหาร ปลอดภัยและไม่เกิดสนิมง่าย
• เทคโนโลยีเก็บอุณหภูมิ: ใช้เทคโนโลยีการเก็บความร้อนและเย็นได้ยาวนานถึง 6-12 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับรุ่น
• การออกแบบ: มีดีไซน์ที่เรียบหรูและขนาดพกพาง่าย เหมาะกับการใช้ทั้งในชีวิตประจำวันและการเดินทาง

ปัจจัยที่ต้องคำนึงเมื่อเลือกซื้อกระติกเก็บความร้อนญี่ปุ่น

1. ขนาดและความจุ

หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่คุณควรพิจารณาในการเลือกกระติกเก็บความร้อนคือขนาดและความจุกระติกเก็บความร้อนมีขนาดและความจุตั้งแต่ 300 มล. ถึง 1 ลิตรขึ้นไป ขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้งาน เช่น หากคุณต้องการกระติกสำหรับพกพาในกระเป๋าไปทำงานหรือไปเรียน ขนาด 300-500 มล. อาจเพียงพอ แต่ถ้าคุณต้องการใช้ระหว่างการเดินทางไกล ขนาด 700 มล. ขึ้นไปจะตอบโจทย์มากกว่า

2. วัสดุภายในและภายนอก

วัสดุที่ใช้ผลิตกระติกเก็บความร้อนญี่ปุ่น มีผลอย่างมากต่อความสามารถในการเก็บรักษาอุณหภูมิ วัสดุยอดนิยมที่ใช้ในการผลิตกระติกเก็บความร้อนญี่ปุ่นคือสเตนเลสสตีล เนื่องจากทนต่อการกัดกร่อน ทนความร้อน และยังมีน้ำหนักเบา ดังนั้น จึงควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าวัสดุที่ใช้ในกระติกนั้นเป็นเกรดอาหารและปลอดภัยในการใช้งาน โดยเฉพาะภายในที่สัมผัสกับเครื่องดื่มโดยตรง

3. เทคโนโลยีการเก็บอุณหภูมิ

กระติกเก็บความร้อนญี่ปุ่นที่มีคุณภาพดีจากญี่ปุ่นมักจะใช้ เทคโนโลยีการเก็บอุณหภูมิแบบสุญญากาศ ซึ่งจะช่วยเก็บความร้อนและความเย็นได้นานกว่า หากคุณต้องการกระติกที่สามารถเก็บเครื่องดื่มให้อุ่นหรือเย็นได้นานกว่า 8 ชั่วโมง ให้เลือกกระติกที่มีเทคโนโลยีการเก็บอุณหภูมิสูง เช่น รุ่นที่มีการเคลือบผิวด้านในด้วยสารสะท้อนความร้อน

4. ระบบปิดเปิด

เรื่องของระบบปิดเปิดเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณา เพราะช่วยป้องกันการรั่วซึมและสะดวกต่อการใช้งาน กระติกเก็บความร้อนญี่ปุ่นบางรุ่นมีฝาปิดแบบ สไลด์หรือบิดล็อก ที่ป้องกันการรั่วซึมได้อย่างดีเยี่ยม และบางรุ่นมีปุ่มกดเปิด ซึ่งทำให้การดื่มน้ำสะดวกขึ้นโดยไม่ต้องถอดฝาปิดออกมา

5. น้ำหนักและขนาดพกพา

หากคุณต้องการพกกระติกเก็บความร้อนไปในทุกที่ ควรคำนึงถึงน้ำหนัก และขนาดที่พกพาง่าย กระติกขนาดใหญ่แม้จะจุได้มากแต่ก็มักจะมีน้ำหนักมากตามไปด้วย ทำให้ไม่สะดวกต่อการพกพา ขณะที่กระติกขนาดเล็กมักมีน้ำหนักเบาและพกพาสะดวก เหมาะสำหรับการพกในกระเป๋าหรือใช้ในกิจกรรมกลางแจ้ง

6. ความสะดวกในการทำความสะอาด

การดูแลรักษากระติกเก็บความร้อนเป็นเรื่องสำคัญ เพราะการทำความสะอาดที่ยากอาจทำให้เกิดการสะสมของแบคทีเรียหรือคราบเครื่องดื่ม ควรเลือกกระติกที่สามารถถอดฝาและอุปกรณ์ประกอบต่าง ๆ ได้ง่ายเพื่อสะดวกต่อการล้างทำความสะอาด นอกจากนี้ บางรุ่นยังสามารถใส่ในเครื่องล้างจานได้ ช่วยประหยัดเวลาและทำให้กระติกสะอาดพร้อมใช้งานอยู่เสมอ

การเลือกซื้อกระติกเก็บความร้อนญี่ปุ่นนั้น ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่คุณพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ที่กล่าวมาข้างต้น ก็จะสามารถเลือกซื้อกระติกที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้อย่างแน่นอน