นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เผยถึงพัฒนาสิทธิประโยชน์เกี่ยวกับเงินบำนาญ ชราภาพด้วยการปรับเปลี่ยนวิธีคำนวณสูตรบำนาญชราภาพเป็นสูตรใหม่ ที่เรียกกันจนติดปากว่า บำนาญสูตร CARE (Career-Average Revalued Earnings) ที่ยึดหลักความสอดคล้องทางเศรษฐกิจ เพื่อสร้างความมั่นคงในการดำเนินชีวิตของผู้ประกันตนวัยเกษียณ ที่มุ่งเน้นสร้างความมั่งคงเพียงพอในการดำเนินชีวิตของผู้ประกันตนวัยเกษียณ และสอดคล้องทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน
เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวต่อไปว่า สูตรคำนวณบำนาญเดิมของสำนักงานประกันสังคมนั้นใช้ค่าจ้างที่นำส่งเงินสมทบในช่วง 60 เดือนสุดท้ายมาเฉลี่ยเพื่อใช้เป็นฐานค่าจ้างในการคำนวณบำนาญส่งผลกระทบต่อผู้ประกันตนที่จ่ายเงินสมทบมาอย่างต่อเนื่องยาวนานแต่มีค่าจ้างลดลงในช่วงสุดท้ายก่อนสิ้นสภาพความเป็นผู้ประกันตน ทำให้บำนาญที่ได้รับไม่สอดคล้องกับการครองชีพที่เปลี่ยนแปลงตามสภาพเศรษฐกิจและสังคม จึงจำเป็นต้องมีการปรับสูตรบำนาญให้เหมาะสมและเป็นธรรมยิ่งขึ้น คณะกรรมการประกันสังคม จึงได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการศึกษาและปรับปรุงสูตรการคำนวณบำนาญชราภาพของผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และมาตรา 39 (เฉพาะกิจ) โดยมีรองศาสตราจารย์อนุสรณ์ ธรรมใจ ที่ปรึกษาด้านการเงินการคลังของคณะกรรมการประกันสังคม เป็นประธาน และมีองค์ประกอบอื่น ๆ จากทั้งผู้แทนฝ่ายนายจ้าง ผู้แทนฝ่ายผู้ประกันตน ผู้แทนจากองค์กรภาครัฐ และผู้แทนสำนักงานประกันสังคม จากการประชุมคณะอนุกรรมการฯ ทั้ง 2 ครั้ง (ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2568 และครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568) โดยอนุกรรมการฯ ได้พิจารณาการปรับสูตรใน 2 ประเด็น คือ การกำหนด index สำหรับใช้ในการปรับค่าจ้างในอดีตให้เป็นมูลค่าปัจจุบัน และวิธีคำนวณค่าจ้างเฉลี่ยสำหรับคำนวณบำนาญ โดยต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อผู้รับบำนาญทุกคน นอกจากนี้ ได้พิจารณาแนวทางการรับฟังความคิดเห็น และการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรู้ความใจในการปรับสูตรบำนาญครั้งนี้ โดยอนุกรรมการได้เสนอให้สำนักงานประกันสังคมดำเนินการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นทั่วประเทศใน 4 ภาค และจัดทำแบบสำรวจความคิดของผู้ประกันตนผ่านช่องทางต่าง ๆ เพื่อรับฟังความเห็นเพิ่มเติม และสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นนำเสนอต่อคณะกรรมการประกันสังคมต่อไป
“สำนักงานประกันสังคมไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้ดำเนินการร่วมกับองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) อย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาสูตรการคำนวณบำนาญให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ด้วยความรัดกุมและรอบคอบโดยคำนึงถึงความเป็นธรรมต่อผู้ประกันตนทุกกลุ่ม รวมถึงเสถียรภาพทางการเงินของกองทุนประกันสังคม”
รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ ที่ปรึกษาการเงินการคลัง คณะกรรมการประกันสังคม กล่าวในช่วงท้ายว่า ทางอนุกรรมการศึกษาและปรับปรุงสูตรคำนวณฯ ตระหนักถึงความสำคัญของการดำเนินการให้รวดเร็ว รอบคอบและรัดกุมเพื่อความเป็นธรรมต่อผู้ประกันตนทุกกลุ่มพร้อมทั้งดูแลความยั่งยืนของกองทุนด้วย และมีความมั่นใจว่าจะสามารถส่งผลการศึกษาการปรับสูตรบำนาญให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 30 มิ.ย. เพื่อนำเสนอให้คณะกรรมการประกันสังคมตัดสินใจต่อไป
การเปลี่ยนแปลงสูตรคำนวณบำนาญจากเดิมคิดฐานคำนวณจากค่าเฉลี่ย 60 งวดเดือนสุดท้าย (Final Averaged Earning, FAE) มาเป็นคิดฐานคำนวณจากค่าเฉลี่ยของค่าจ้างตลอดการทำงานที่ปรับคืนมูลค่าแล้ว (Career Average-Revalued Earning, CARE) ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลมากกว่า สร้างความเป็นธรรมได้มากกว่า อย่างไรก็ตาม บำนาญสูตร CARE นี้ต้องมีการปรับคืนค่า (REVALUE) ค่าจ้างจำเป็นต้องใช้ดัชนีการเพิ่มขึ้นของค่าจ้างมาปรับใช้อย่างเหมาะสมเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อผู้ประกันตนทุกกลุ่มให้มากที่สุด ซึ่งตรงนี้เราต้องพิจารณาอย่างรอบคอบรอบด้าน วางระบบให้ดีที่สุดเพื่อประโยชน์ระยะยาว นอกจากนี้ กองทุนประกันสังคมก็เป็นกองทุนเปิด (Open-end Fund) ที่มีสมาชิกหรือผู้ประกันตนเข้ามาส่งเงินสมทบทั้งชั่วคราวและต่อเนื่อง สามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มต่างๆ ทั้ง กลุ่มเริ่มทำงานใหม่ ผู้ที่ส่งเงินสมทบต่อเนื่อง ผู้หยุดส่งเงินสมทบไม่ว่าจะถูกเลิกจ้าง ทุพพลภาพ เกษียณอายุ หรือ เสียชีวิต ระบบประกันสังคมก็จะดูแลให้ครอบคลุมทั้งหมด
“สังคมไทยนั้นก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างชัดเจน เป็นความท้าทายในการต้องสร้างระบบบำนาญที่ดีที่สุด มีประสิทธิภาพภายใต้ระบบประกันสังคมเพื่อดูแลผู้ประกันตนวัยเกษียณได้อย่างเป็นธรรมและยั่งยืน รวมทั้งมีคุณภาพชีวิตที่ดี”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี