เปิดกลยุทธ์การบริหารเงินทุนที่ผู้ประกอบการต้องรู้ เข้าใจ 2 ประเภทเงินทุนสำคัญ พร้อมทริคมีเงินสำรองให้ธุรกิจอยู่รอดแม้ในภาวะวิกฤต ที่มืออาชีพแนะนำ

ความฝันของการเป็นเจ้าของธุรกิจกำลังอยู่ในมือคุณ แต่สิ่งที่ทำให้ธุรกิจหลายรายต้องปิดตัวลงกลับไม่ใช่คุณภาพของสินค้า หรือบริการ แต่เป็นการขาดทักษะการบริหารเงินทุนที่ดี! เงินทุนเปรียบเสมือนเลือดหล่อเลี้ยงธุรกิจ หากไหลเวียนผิดจังหวะอาจทำให้ธุรกิจสะดุด หรือล้มลงได้ ในบทความนี้ เราได้รวบรวมเคล็ดลับการบริหารจัดการเงินลงทุนที่เจ้าของธุรกิจทุกคนควรรู้ ทั้งการแบ่งประเภทเงินทุน การวางแผน รวมถึงทริคง่าย ๆ ที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างมั่นคง และมีสภาพคล่อง

การบริหารเงินทุนมีความสำคัญกับการทำธุรกิจอย่างไร

การบริหารเงินทุนเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จในการทำธุรกิจ เพราะไม่ว่าธุรกิจของคุณจะมีไอเดียที่โดดเด่น หรือสินค้าที่ยอดเยี่ยมเพียงใด หากขาดสภาพคล่อง และการจัดการทางการเงินที่ดี ธุรกิจก็ไม่อาจเติบโตได้อย่างยั่งยืน

เมื่อคุณมีระบบการบริหารจัดการเงินทุนที่มีประสิทธิภาพ คุณจะสามารถเห็นภาพรวมทางการเงินของธุรกิจได้ชัดเจน รู้ว่ามีเงินเท่าไร ควรใช้จ่ายอย่างไร และต้องสำรองไว้เท่าไหร่ ซึ่งจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผล ลดความเสี่ยง และพร้อมรับมือกับสถานการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้น

การบริหารเงินทุนที่ดียังช่วยให้ธุรกิจมีความยืดหยุ่น สามารถปรับตัวได้เมื่อเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย หรือเมื่อมีโอกาสในการลงทุนเพื่อขยายกิจการ ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงควรทราบข้อมูลพื้นฐานของธุรกิจตัวเองอย่างถ่องแท้ ทั้งงบประมาณในการลงทุน ขนาดของธุรกิจ สภาพคล่อง กำไร และความเสี่ยง หรือที่เรียกว่า แผนธุรกิจนั่นเอง เพื่อให้สามารถบริหารจัดการเงินทุนได้ตามสภาพความเป็นจริง และมองภาพการเติบโตของธุรกิจในอนาคตได้อย่างชัดเจน

2 ประเภทเงินทุนที่ต้องรู้ก่อนวางแผนบริหารให้ดี

ก่อนจะเริ่มวางแผนการบริหารเงินทุน คุณควรทำความเข้าใจก่อนว่าเงินทุนในการทำธุรกิจสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ซึ่งมีวัตถุประสงค์ และวิธีการบริหารที่แตกต่างกัน มาทำความรู้จักกัน!ช

1. เงินทุนคงที่ (Fixed Capital)

เงินทุนคงที่ คือ เงินทุนที่ใช้ในการลงทุนซื้อสินทรัพย์ถาวรที่มีอายุการใช้งานยาวนาน เช่น ที่ดิน อาคาร โรงงาน เครื่องจักร อุปกรณ์สำนักงาน หรือยานพาหนะ สินทรัพย์เหล่านี้เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจ และมักเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ในช่วงเริ่มต้นธุรกิจ หรือเมื่อต้องการขยายกิจการ

การบริหารเงินทุนคงที่ต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบ เพราะเป็นการลงทุนระยะยาวที่อาจมีผลกระทบต่อสภาพคล่องของธุรกิจ หากเป็นเงินทุนที่มาจากการกู้ยืม คุณต้องคำนวณภาระดอกเบี้ย และการชำระคืนให้ดี ไม่ให้กระทบกับเงินทุนหมุนเวียนที่ใช้ในการดำเนินงานประจำวัน นอกจากนี้ คุณควรพิจารณาถึงผลตอบแทนจากการลงทุนในสินทรัพย์เหล่านี้ว่าคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปหรือไม่

2. เงินทุนหมุนเวียน (Working Capital)

เงินทุนหมุนเวียน คือ เงินทุนที่ใช้ในการดำเนินกิจการประจำวัน ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ เช่น การจัดซื้อวัตถุดิบ ค่าการผลิต ค่าจ้างแรงงาน ค่าขนส่ง รวมถึงค่าใช้จ่ายในการขาย และการตลาด เงินทุนประเภทนี้มีความหมุนเวียนอยู่ตลอดเวลาตามวงจรธุรกิจ จากเงินสดไปเป็นสินค้า และกลับมาเป็นเงินสดอีกครั้งเมื่อขายสินค้าได้

การบริหารเงินทุนหมุนเวียนที่ดีจะช่วยให้ธุรกิจมีสภาพคล่องเพียงพอในการดำเนินงาน ไม่ประสบปัญหาขาดแคลนเงินสดในยามจำเป็น คุณควรมีการติดตาม และควบคุมวงจรเงินสด (Cash Cycle) อย่างใกล้ชิด รวมถึงการบริหารสินค้าคงคลัง และลูกหนี้การค้าให้มีประสิทธิภาพ เพื่อให้มั่นใจว่าธุรกิจจะมีเงินสดพร้อมใช้ในเวลาที่ต้องการ

“มีเงินสำรองไว้เสมอ” ทริคบริหารเงินทุนง่าย ๆ ช่วยให้ธุรกิจดำเนินงานได้ปกติ

หนึ่งในเคล็ดลับสำคัญของการบริหารเงินทุนที่มืออาชีพแนะนำคือ การมีเงินสำรองไว้เสมอ ไม่ว่าธุรกิจของคุณจะเล็ก หรือใหญ่ การมีเงินสำรองเป็นเหมือนถังออกซิเจนที่จะช่วยให้ธุรกิจหายใจได้เมื่อเกิดภาวะฉุกเฉิน หรือสถานการณ์ไม่คาดฝัน

ในโลกธุรกิจที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน มีหลายปัจจัยทั้งภายใน และภายนอกที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน เช่น ภาวะเศรษฐกิจถดถอย การส่งออกมีปัญหาเนื่องจากประเทศคู่ค้าสั่งซื้อน้อยลง หรือนักท่องเที่ยวต่างชาติลดจำนวนลง ในสถานการณ์เช่นนี้ ผู้ประกอบการที่มีเงินสำรองจะสามารถประคับประคองธุรกิจให้อยู่รอดได้ในระยะหนึ่ง โดยใช้เงินสำรองเป็นค่าจ้างแรงงาน หรือค่าใช้จ่ายจำเป็นอื่น ๆ ในขณะที่รายได้ลดลง

สำหรับธุรกิจที่เพิ่งเริ่มต้น การมีเงินสำรองยิ่งมีความสำคัญ เพราะในช่วงแรกลูกค้ายังไม่รู้จักสินค้า หรือบริการของคุณดีพอ ต้องใช้เวลาในการสร้างการรับรู้ และความเชื่อมั่น ดังนั้น "สายป่าน" ของคุณต้องยาวพอที่จะรอให้ธุรกิจเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ซึ่งอาจใช้เวลาต่างกันไปในแต่ละประเภทธุรกิจ

แล้วเงินสำรองควรมีมากน้อยเพียงใด ? คำตอบขึ้นอยู่กับขนาด และลักษณะของธุรกิจ แต่หลักการทั่วไปคือควรมีเงินสำรองเพียงพอที่จะรองรับค่าใช้จ่ายประจำได้อย่างน้อย 3 - 6 เดือน เพื่อให้มั่นใจว่าหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ธุรกิจของคุณจะยังสามารถดำเนินต่อไปได้โดยไม่สะดุด

สรุปบทความ

การบริหารเงินทุนอย่างมีประสิทธิภาพเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในการทำธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็ก หรือใหญ่ สิ่งสำคัญคือการทำความเข้าใจประเภทของเงินทุน ทั้งเงินทุนคงที่ที่ใช้ในการลงทุนสินทรัพย์ถาวร และเงินทุนหมุนเวียนที่ใช้ในการดำเนินกิจการประจำวัน นอกจากนี้ ทริคง่าย ๆ แต่ทรงพลังคือการมีเงินสำรองไว้เสมอ เพื่อเป็นเกราะป้องกันให้ธุรกิจสามารถรับมือกับสถานการณ์ไม่คาดฝันได้ การบริหารจัดการเงินทุนไม่ใช่เรื่องยาก หรือซับซ้อน หัวใจสำคัญอยู่ที่การวางแผนอย่างรอบคอบ มีเป้าหมายชัดเจน มีวินัยทางการเงินที่ดี และทำตามแผนอย่างเคร่งครัด เมื่อคุณสามารถบริหารเงินทุนได้ดี ย่อมนำไปสู่การมีเงินสะสมจากผลกำไร และเปิดโอกาสให้ธุรกิจขยายเติบโตได้อย่างมั่นคง และยั่งยืน