แนะนำ 3 เทคนิคปรับโครงสร้างหนี้รถยนต์สำหรับคนที่มีปัญหาผ่อนรถไม่ไหว ไม่ส่งผลกระทบแต่เครดิตการเงิน ตอบโจทย์ทั้งคนที่ยังต้องการขับรถอยู่ และปล่อยรถออกไป

ช่วงนี้หลายคนคงรู้สึกถึงความกดดันจากสภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่แน่นอน ค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้นทุกเดือน โดยเฉพาะค่าน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นลง ทำให้หลายคนเริ่มรู้สึกว่า ผ่อนรถไม่ไหว และกำลังมองหาทางออกในการจัดการภาระหนี้รถยนต์ หากคุณเป็นหนึ่งในนั้น การปรับโครงสร้างหนี้รถยนต์อาจเป็นคำตอบที่ช่วยให้คุณบริหารภาระการเงินได้ดีขึ้น

แล้วควรทำด้วยวิธีไหนดี ? บทความนี้ มี 3 วิธีปรับโครงสร้างหนี้รถยนต์แก้ปัญหาผ่อนรถไม่ไหวมาแนะนำ ที่จะช่วยให้คุณสามารถจัดการภาระหนี้รถยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังคงรักษาประวัติเครดิตที่ดีไว้ได้ด้วย

1. ขอปรับโครงสร้างหนี้กับไฟแนนซ์โดยตรง

วิธีแรกที่แนะนำคือ การติดต่อสถาบันการเงินหรือบริษัทไฟแนนซ์ที่เราทำสัญญาเช่าซื้อรถอยู่โดยตรง เพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้รถยนต์ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วสถาบันการเงินจะมีแนวทางช่วยเหลือลูกค้าที่กำลังประสบปัญหาทางการเงิน เช่น

• การปรับลดค่างวดรายเดือน
• การยืดระยะเวลาการผ่อนชำระให้นานขึ้น
• การเสนอแผนผ่อนชำระแบบขั้นบันได ที่จะเริ่มผ่อนจำนวนน้อยในช่วงแรก แล้วค่อย ๆ เพิ่มขึ้นเมื่อสถานการณ์การเงินดีขึ้น

สิ่งสำคัญคือ ควรรีบดำเนินการก่อนที่จะเริ่มค้างชำระ เพื่อป้องกันไม่ให้ประวัติเครดิตเสียหาย และเพื่อให้ได้รับการยกเว้นการรายงานไปยังบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ ทำให้ไม่ส่งผลกระทบต่อคะแนนเครดิตในอนาคต

ผู้ที่เหมาะกับวิธีนี้

• คนที่ยังต้องการเก็บรถคันเดิมไว้ใช้ต่อ
• ผู้ที่ประสบปัญหาทางการเงินเป็นการชั่วคราว และคาดว่าจะฟื้นตัวได้ในอนาคต
• คนที่ยังไม่เคยค้างชำระ และต้องการรักษาประวัติเครดิตที่ดี
• ผู้ที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับสถาบันการเงินเดิม

2. ปรับโครงสร้างหนี้รถยนต์ด้วยการรีไฟแนนซ์

การรีไฟแนนซ์รถยนต์เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการปรับโครงสร้างหนี้รถยนต์ โดยมีรูปแบบหลัก ๆ อยู่ 2 แบบ คือ การรีไฟแนนซ์กับสถาบันการเงินเดิม หรือการย้ายไปใช้บริการกับสถาบันการเงินแห่งใหม่ที่มีเงื่อนไขดีกว่า

ข้อดีหลักของการรีไฟแนนซ์ คือ ทำให้ค่างวดรายเดือนลดลง อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า และอาจได้เงินส่วนต่างมาใช้จ่ายในกรณีฉุกเฉิน อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณาถึงผลข้างเคียงด้วย เช่น ระยะเวลาผ่อนที่อาจนานขึ้น ค่าธรรมเนียมในการดำเนินการ และค่าปรับในการไถ่ถอนก่อนกำหนดจากสัญญาเดิม

ผู้ที่เหมาะกับวิธีนี้

• คนที่ต้องการลดค่างวดรายเดือนลง แต่ยังคงต้องการใช้รถคันเดิม
• ผู้ที่พบสถาบันการเงินที่เสนออัตราดอกเบี้ยที่ดีกว่าสัญญาเดิม
• คนที่ต้องการเงินสดเพิ่มเติมจากการรีไฟแนนซ์
• ผู้ที่สามารถรับภาระค่าใช้จ่ายในการดำเนินการรีไฟแนนซ์ได้

3. เปลี่ยนโอนสิทธิ์ผู้เช่าซื้อ หรือเปลี่ยนชื่อคนผ่อนรถ

การเปลี่ยนโอนสิทธิ์ผู้เช่าซื้อเป็นวิธีการที่ผู้เช่าซื้อคนเดิมโอนสิทธิ์ และหน้าที่ในสัญญาเช่าซื้อให้กับบุคคลอื่น โดยผู้รับโอนจะเข้ามาเป็นคู่สัญญากับสถาบันการเงินโดยตรง และรับผิดชอบในการผ่อนชำระค่างวดต่อไป

ผู้ที่เหมาะกับวิธีนี้

• คนที่ไม่ต้องการเก็บรถไว้ใช้แล้ว และต้องการปลดภาระการผ่อนชำระ
• ผู้ที่มีคนในครอบครัวหรือคนใกล้ชิดที่สามารถรับโอนการผ่อนชำระได้
• คนที่ต้องการรักษาประวัติเครดิตโดยไม่ต้องขายรถก่อนครบสัญญา
• ผู้ที่หาคนรับโอนที่มีความสามารถทางการเงินที่เพียงพอได้

การแก้ปัญหาผ่อนรถไม่ไหวไม่จำเป็นต้องนำไปสู่การสูญเสียรถหรือประวัติเครดิตที่เสียหาย ด้วย 3 ทริคการปรับโครงสร้างหนี้รถยนต์ที่แนะนำ ไม่ว่าจะเป็น การขอปรับเงื่อนไขกับไฟแนนซ์โดยตรง การรีไฟแนนซ์เพื่อลดภาระ หรือการเปลี่ยนโอนสิทธิ์ผู้เช่าซื้อ แต่ละวิธีมีข้อดี และความเหมาะสมที่แตกต่างกัน

สิ่งสำคัญคือ การดำเนินการให้เร็วที่สุดเมื่อรู้ว่าตนเองกำลังเผชิญปัญหา เพื่อให้มีทางเลือกมากที่สุด และป้องกันผลกระทบต่อประวัติเครดิต การวางแผนการเงินล่วงหน้า และการเลือกวิธีแก้ไขที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของตนเอง จะช่วยให้คุณผ่านช่วงเวลาที่ท้าทายนี้ไปได้อย่างมั่นคง และยังคงรักษาความมั่นคงทางการเงินไว้ได้