หลักสูตรการออกแบบเชิงโต้ตอบและพัฒนาเกม วิทยาลัยครีเอทีฟดีไซน์ แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์เทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ได้จัดกิจกรรมสัมมนาพิเศษ “All about Game & Digital Content Business” ภายใต้แนวคิด “เมื่อเกมคือมากกว่าความสนุก – เปิดประสบการณ์จริงจากนักพัฒนาเกมไทย” เมื่อวันอังคารที่ 8 กรกฎาคม 2568 ณ ห้องประชุม ดร.ไสว อาคารสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ โดยกิจกรรมนี้เจาะลึกเส้นทางการสร้างเกมอินดี้จากศูนย์สู่เวทีระดับโลก โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรรับเชิญเป็นสองพี่น้องผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Waka Studio Co., Ltd. ผู้อยู่เบื้องหลังเกมมัลติเพลเยอร์สุดครีเอทีฟ “RunOut” ได้แก่ คุณพิศร จึงวิวัฒน์อนันต์ (บิ๊ก) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) และนักพัฒนาเกม และ คุณจิรวัชร์ จึงวิวัฒน์อนันต์ (บอส) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม (Co-CEO) และผู้อำนวยการฝ่ายความคิดสร้างสรรค์ โดยทั้งสองได้ร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ตรงในวงการเกมให้นักศึกษาและผู้เข้าฟังอย่างสนุกสนาน
เรื่องราวของสองพี่น้องผู้ก่อตั้ง Waka Studio (Story of Bros)
จุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ของสองพี่น้องผู้ก่อตั้ง Waka Studio คือการสร้างสรรค์ของเล่นอินเทอร์แอคทีฟเพื่อการศึกษาอย่าง “Spica Bear” ตุ๊กตาหมียุคดิจิทัลที่สามารถมีชีวิตขึ้นมาได้ผ่านเทคโนโลยี AR เมื่อสแกนผ่านสมาร์ทโฟน แนวคิดสร้างสรรค์นี้เป็นผลงานของสองพี่น้องชาวไทย พิศร และ จิรวัชร์ จึงวิวัฒน์อนันต์ ที่ใช้ความเชี่ยวชาญด้านโปรแกรมมิ่งผสานโลกของเล่นกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ จนทำให้ตุ๊กตาหมีธรรมดาสามารถ “มีชีวิต” โต้ตอบกับผู้เล่นได้จริง ความมุ่งมั่นทดลองและประสบการณ์ที่สั่งสมจากโครงการเล็ก ๆ นี้กลายเป็นรากฐานสำคัญในการก้าวสู่การเป็นนักพัฒนาเกมเต็มตัว ซึ่งทั้งสองได้ถ่ายทอดเรื่องราวการเดินทาง การลองผิดลองถูก และบทเรียนจากความล้มเหลวที่กลายเป็นบทเรียนล้ำค่าให้กับผู้ฟังอย่างเปิดเผยและจริงใจ
แรงบันดาลใจในการสร้างเกม (Inspiration to Make the Game)
แรงบันดาลใจในการพัฒนาเกม RunOut ของพี่น้องคู่นี้มิได้เกิดจากทฤษฎีเพียงอย่างเดียว หากแต่มาจากความทรงจำวัยเด็กและเกมยอดนิยมที่พวกเขาเติบโตมาด้วย ไม่ว่าจะเป็น Command & Conquer, Rainbow Six Siege หรือ Super Mario Bros. เกมเหล่านี้จุดประกายความคิดและหล่อหลอมวิสัยทัศน์ในการออกแบบเกมของพวกเขา ประกอบกับการสังเกตพฤติกรรมผู้เล่นรุ่นใหม่และเทรนด์วงการเกม ทำให้วิทยากรถ่ายทอดว่าแนวคิดในการสร้างเกมที่ดีนั้นต้องผสมผสานทั้งประสบการณ์ตรงจากการเล่นเกม ความคิดสร้างสรรค์ด้านกลไกเกม และความเข้าใจในผู้เล่นยุคปัจจุบัน เพื่อให้เกมที่สร้างขึ้นมีความสนุกแปลกใหม่และตรงใจกลุ่มเป้าหมาย
เบื้องหลังการพัฒนาเกม RunOut (Making RunOut)
การพัฒนาเกม RunOut อย่างละเอียดได้ทำอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ผ่านโครงสร้างที่วิทยากรเรียกว่า Game Build 1.0 เริ่มตั้งแต่การวาง ไอเดียและคอนเซ็ปต์หลักของเกม ที่กำหนดจุดเด่น (Core Hook) แพลตฟอร์ม กลุ่มเป้าหมาย และประเภทของเกมอย่างชัดเจน จากนั้นเข้าสู่การออกแบบ แกนหลักของเกม (Game Pillars) และช่วงเวลาสุดมหัศจรรย์ในเกม (Magic Moments) ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้เกมแตกต่างและน่าจดจำ ถัดมาคือการพัฒนา โครงสร้างเกม โดยอาศัยผังงานการไหลของเกม (Flowchart) การเลือกเอนจิน (Game Engine) ที่เหมาะสม และการวางระบบเครือข่าย (Network) สำหรับโหมดมัลติเพลเยอร์ นอกจากนี้ยังพูดถึงการทำงานร่วมกันในทีมผ่านเครื่องมือบริหารโครงการอย่าง Jira และ Trello ที่ช่วยจัดการงานอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนกระบวนการสร้างสรรค์ทรัพยากรเกม (Game Assets) ทั้งงานภาพสองมิติ/สามมิติ เสียงประกอบ และอินเตอร์เฟซผู้ใช้ (UI) จนครบถ้วน สุดท้ายคือ การทดสอบเกมและเก็บฟีดแบ็ก จากผู้เล่นกลุ่มทดลอง นำข้อมูลที่ได้มาปรับแก้และขัดเกลาเกมอย่างต่อเนื่อง กระบวนการทั้งหมดนี้ทำให้ผู้ฟังมองเห็นภาพการพัฒนาเกมตั้งแต่ต้นจนจบอย่างเป็นระบบ และตระหนักถึงความทุ่มเทในทุกรายละเอียดที่ผู้พัฒนาใส่ลงไปในผลงานเกมหนึ่ง ๆ
การนำ RunOut สู่เวทีระดับโลก (RunOut to the World)
สำหรับการนำผลงานเกม RunOut ออกสู่สายตาของผู้เล่นจริงทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ทางวิทยากรได้แบ่งปันกลยุทธ์ การเผยแพร่เกมบนแพลตฟอร์มออนไลน์ และการทำการตลาดในแบบฉบับอินดี้ที่เน้นความคิดสร้างสรรค์และการเข้าถึงคอมมิวนิตี้โดยตรง รวมถึงการสร้างและดูแล บริหารชุมชนผู้เล่น (Player Community Management) เพื่อให้เกิดการบอกต่อและรักษาฐานผู้เล่นในระยะยาว พวกเขาเล่าถึงประสบการณ์การนำ RunOut ไปร่วมจัดแสดงในงานเกมระดับนานาชาติต่าง ๆ เช่น งาน Gamescom 2023 ที่เมืองโคโลญจน์ ประเทศเยอรมนี ซึ่ง Waka Studio ได้เป็นตัวแทนหนึ่งเดียวจากไทยในการโชว์เกมต่อผู้เข้าร่วมงานระดับโลก นอกจากนี้ยังได้มีโอกาสนำเกมไปเผยแพร่บนเวทีเกมชั้นนำ อาทิ Tokyo Game Show 2023 ที่ประเทศญี่ปุ่น, PAX East 2024 ที่สหรัฐอเมริกา รวมถึงงานในภูมิภาคเอเชียอย่าง Taipei Game Show 2024 และ ChinaJoy 2024 เป็นต้น ความสำเร็จในการก้าวสู่เวทีสากลนี้สะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพและความตั้งใจของทีมพัฒนาคนไทย ที่สามารถสร้างสรรค์เกมที่โดดเด่นจนเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ ทั้งด้านความสนุกของเกมเพลย์และความน่ารักมีเอกลักษณ์ของงานออกแบบที่เป็นจุดขายของเกม RunOut (เกมแนวปาร์ตี้แพลตฟอร์มหลายผู้เล่นที่เน้นความมันส์จากการแย่งชิงเหรียญมากกว่าการเข้าเส้นชัยเป็นที่หนึ่ง)
ช่วงถาม-ตอบและข้อคิดส่งท้าย
หลังจบการบรรยาย ได้เปิดโอกาสให้นักศึกษาและผู้เข้าฟังสัมมนาซักถามข้อสงสัยที่ตนสนใจเกี่ยวกับการพัฒนาเกม RunOut อย่างเต็มที่ บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักและเป็นกันเอง โดยวิทยากรทั้งสองได้ตอบคำถามพร้อมแบ่งปันคำแนะนำจากประสบการณ์จริงในวงการเกมอย่างไม่ปิดบัง ก่อนจบงาน วิทยากรได้ฝากข้อคิดสำคัญไว้ 3 ประการ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้เข้าร่วมทุกคนกลับไปต่อยอดความฝันของตนเอง ดังนี้:
Know Nothing – จุดเริ่มต้นของการเรียนรู้คือการยอมรับว่า “เรายังไม่รู้” เปิดใจรับสิ่งใหม่และพร้อมเรียนรู้จากศูนย์
Know Something – เมื่อผ่านการเรียนรู้และลองลงมือทำ เราจะเริ่มเข้าใจและเกิดความรู้ความชำนาญในบางสิ่ง (รู้บางสิ่งแล้ว) ซึ่งเป็นขั้นที่เราสั่งสมประสบการณ์ไว้มากขึ้น
To Be Known – เมื่อเราได้สั่งสมความรู้และประสบการณ์มากเพียงพอจนสามารถส่งต่อหรือแบ่งปันแก่ผู้อื่นได้ เราก็จะกลายเป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับในความรู้ความสามารถนั้น (กลายเป็นผู้ที่เป็นที่รู้จักในสิ่งที่เรารู้)
ข้อคิดทั้งสามข้อนี้สะท้อนแนวทางการพัฒนาตนเองของคนรุ่นใหม่ในสายงานสร้างสรรค์ดิจิทัลได้เป็นอย่างดี จากคนที่เริ่มต้นโดย “ไม่รู้” แต่มีใจรักและความมุ่งมั่น สามารถเติบโตจน “รู้” และต่อยอดจน “เป็นที่รู้จัก” ในผลงานของตนเองได้ในที่สุด วิทยาลัยครีเอทีฟดีไซน์ แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์เทคโนโลยีเชื่อว่าแนวคิดดังกล่าวจะช่วยปลุกไฟและส่งเสริมให้นักศึกษากล้าฝัน กล้าลงมือทำ และไม่หยุดที่จะเรียนรู้เพื่อสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ ต่อไปในอนาคต
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี