วันพฤหัสบดี ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ประชาสัมพันธ์
สศก. เคาะตัวเลข GDP เกษตรไตรมาส 2 น้ำดี-อากาศหนุน ดันผลผลิตพืชสำคัญเพิ่ม ส่งผลGDP เกษตรพุ่ง 5.5%

สศก. เคาะตัวเลข GDP เกษตรไตรมาส 2 น้ำดี-อากาศหนุน ดันผลผลิตพืชสำคัญเพิ่ม ส่งผลGDP เกษตรพุ่ง 5.5%

วันพฤหัสบดี ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 11.56 น.
Tag : กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร(สศก.)
  •  

นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงภาวะเศรษฐกิจการเกษตรในไตรมาส 2 ปี 2568 (เมษายน - มิถุนายน) ขยายตัวถึงร้อยละ 5.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2567โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากปริมาณฝนที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายปี 2567 ต่อเนื่องมาถึงช่วงต้นปี 2568 ส่งผลให้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำและแหล่งน้ำตามธรรมชาติมีเพียงพอสำหรับการเพาะปลูกพืชในช่วงฤดูแล้ง ประกอบกับสภาพอากาศโดยทั่วไปเอื้ออำนวยต่อการเจริญเติบโตของพืชผล เกษตรกรจึงมีการขยายพื้นที่เพาะปลูกในพื้นที่ที่เคยปล่อยว่าง รวมทั้งมีการบำรุงดูแลและเฝ้าระวังโรคมากขึ้น ส่งผลให้สาขาพืชซึ่งเป็นสาขาการผลิตหลักขยายตัวได้ดีและส่งผลบวกต่อเนื่องไปยังสาขาบริการทางการเกษตร ขณะที่สาขาประมงและสาขาป่าไม้ขยายตัวจากความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้น ส่วนสาขาปศุสัตว์มีทิศทางหดตัวสำหรับรายละเอียดการผลิตในแต่ละสาขา มีดังนี้

สาขาพืช ขยายตัวร้อยละ 7.9 เนื่องจากสภาพอากาศในช่วงปลายปี 2567 เอื้ออำนวยต่อการผลิตพืชหลายชนิด โดยเฉพาะไม้ผลที่มีการออกดอกติดผลได้ดี ประกอบกับช่วงต้นปีถึงเดือนพฤษภาคม 2568 มีปริมาณฝนมากกว่าค่าเฉลี่ยปกติ ทำให้พืชหลายชนิดเจริญเติบโตได้ดีและให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นสินค้าพืชที่มีผลผลิตเพิ่มขึ้น ได้แก่ข้าวนาปรัง เนื่องจากปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำและแหล่งน้ำธรรมชาติมีเพียงพอสำหรับการเพาะปลูกและการเจริญเติบโตของต้นข้าว เกษตรกรจึงขยายพื้นที่เพาะปลูกเพิ่มขึ้นทั้งในและนอกเขตชลประทาน บางพื้นที่มีการปลูกข้าวนาปรังถึง 2 รอบ ประกอบกับราคาข้าวในช่วงที่ผ่านมาอยู่ในเกณฑ์ดี จูงใจให้เกษตรกรใส่ปุ๋ยและบำรุงรักษามากขึ้น ส่งผลให้ผลผลิตต่อไร่เพิ่มสูงขึ้นสับปะรดปัตตาเวียผลผลิตเพิ่มขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศเอื้ออำนวยและมีปริมาณน้ำฝนเพียงพอต่อการเพาะปลูก ทำให้ต้นสับปะรดมีความสมบูรณ์ สามารถบังคับให้ออกผลได้มากกว่าปีที่ผ่านมา อีกทั้งไม่ประสบปัญหาภัยแล้งหรือฝนทิ้งช่วงอย่างที่เกิดขึ้นในปีก่อนหน้าส่งผลให้พื้นที่เก็บเกี่ยวและผลผลิตรวมทั้งประเทศเพิ่มขึ้นปาล์มน้ำมัน ผลผลิตเพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาปาล์มในปี 2565 อยู่ในเกณฑ์ดี ทำให้เกษตรกรขยายพื้นที่ปลูกแทนยางพารา พื้นที่นา และพื้นที่รกร้าง ซึ่งเริ่มให้ผลผลิตในปี 2568 เป็นปีแรก ประกอบกับปริมาณน้ำฝนที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางปี 2567 ทำให้ต้นปาล์มสมบูรณ์ มีการออกทะลายเพิ่มขึ้นและมีน้ำหนักมากขึ้นลำไย ทุเรียน มังคุด และเงาะ เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะในภาคตะวันออก เนื่องจากสภาพอากาศเอื้ออำนวยต่อการออกดอกติดผล ไม่ร้อนและแห้งแล้งเหมือนปีที่ผ่านมา ราคาที่อยู่ในเกณฑ์ดีต่อเนื่องหลายปีจูงใจให้เกษตรกรขยายพื้นที่และดูแลรักษาเป็นอย่างดี ประกอบกับในปีที่ผ่านมาไม้ผลส่วนใหญ่ให้ผลผลิตน้อย ทำให้มีการพักต้นสะสมอาหาร ส่งผลให้ปีนี้มีความสมบูรณ์และให้ผลผลิตได้มากขึ้น


สินค้าพืชที่มีผลผลิตลดลงได้แก่มันสำปะหลัง ผลผลิตลดลงจากผลกระทบของการระบาดของโรคใบด่างมันสำปะหลังในแหล่งเพาะปลูกหลักทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับฝนที่มาล่าช้าในช่วงเริ่มต้นฤดูเพาะปลูก และฝนที่ตกชุกในช่วงการสะสมอาหาร ส่งผลให้หัวมันสำปะหลังได้รับความเสียหายอ้อยโรงงาน ผลผลิตลดลง เนื่องจากต้นอ้อยมีการเติบโตได้ดีจากปริมาณฝนในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 ทำให้ผลผลิตส่วนใหญ่ถูกเก็บเกี่ยวไปแล้วในช่วงไตรมาสแรกของปี 2568 ส่งผลให้การเก็บเกี่ยวผลผลิตในไตรมาส 2 ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2567 ยางพารา ผลผลิตลดลง เนื่องจากจำนวนวันกรีดลดลงจากการดำเนินมาตรการขอความร่วมมือเลื่อนฤดูเปิดกรีดยางออกไป 1 เดือน ของภาครัฐ นอกจากนี้ เกษตรกรในภาคใต้และภาคตะวันออกมีการตัดโค่นต้นยางอายุมากที่ให้ผลผลิตน้อย เพื่อปรับเปลี่ยนไปปลูกไม้ผลและไม้ยืนต้นชนิดอื่น

สาขาปศุสัตว์ หดตัวร้อยละ 0.9 โดยสุกรและไข่ไก่มีผลผลิตลดลงจากการดำเนินโครงการรักษาเสถียรภาพราคาของภาครัฐ โดยมีการปรับลดแม่พันธุ์สุกรภายในประเทศ และการขอความร่วมมือให้เกษตรกรปลดแม่ไก่ยืนกรงตามอายุที่เหมาะสมเพื่อรักษาเสถียรภาพราคา ทำให้ปริมาณผลผลิตที่ออกสู่ตลาดลดลง อย่างไรก็ตาม ปริมาณไข่ไก่ยังคงเพียงพอต่อการบริโภคภายในประเทศไก่เนื้อและน้ำนมดิบมีการผลิตเพิ่มขึ้นตามความต้องการบริโภคในประเทศและการส่งออกที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการที่เกษตรกรมีการปรับปรุงการบริหารจัดการฟาร์มและนำเทคโนโลยีมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ประกอบกับภาครัฐมีการเฝ้าระวังโรคระบาดอย่างต่อเนื่อง

สาขาประมง ขยายตัวร้อยละ 1.3 โดยกุ้งขาวแวนนาไมซึ่งเป็นสินค้าหลักในสาขานี้ มีผลผลิตออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากราคากุ้งมีแนวโน้มสูงขึ้น จูงใจให้เกษตรกรปรับเพิ่มปริมาณการปล่อยลูกกุ้ง ประกอบกับมีการบริหารจัดการฟาร์มที่ดี ทำให้กุ้งมีอัตราการรอดสูง ส่วนปลานิล ปลาดุก และสัตว์น้ำที่นำขึ้นท่าเทียบเรือ ผลผลิตลดลง เนื่องจากราคาอาหารสัตว์น้ำซึ่งเป็นต้นทุนการผลิตหลักยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง ทำให้เกษตรกรปรับลดปริมาณการปล่อยลูกพันธุ์ปลา ขณะที่การทำประมงทะเล ต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่แปรปรวน และต้นทุนด้านน้ำมันเชื้อเพลิงที่ค่อนข้างสูง ทำให้ผู้ประกอบการประมงมีการออกเรือจับสัตว์น้ำลดลง

สาขาบริการทางการเกษตร ขยายตัวร้อยละ 2.8 เป็นผลสืบเนื่องจากการขยายตัวในสาขาพืช โดยเกษตรกรมีการขยายเนื้อที่เพาะปลูกในพื้นที่ที่เคยปล่อยว่าง ส่งผลให้ภาพรวมกิจกรรมการจ้างบริการทางการเกษตรเพื่อเตรียมดินและการเก็บเกี่ยวผลผลิตพืชที่สำคัญเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะข้าวนาปรัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และสับปะรดปัตตาเวีย

สาขาป่าไม้ ขยายตัวร้อยละ 0.6 โดยผลผลิตไม้ยูคาลิปตัส ถ่านไม้ และรังนก เพิ่มขึ้นจากความต้องการใช้ภายในประเทศและตลาดต่างประเทศที่ขยายตัว ขณะที่ไม้ยางพาราลดลงตามพื้นที่เป้าหมายการตัดโค่นสวนยางพาราเก่าของการยางแห่งประเทศไทย และความต้องการนำเข้าของจีนสำหรับอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ที่ลดลง ส่วนครั่ง ผลผลิตลดลงจากสภาพอากาศที่แปรปรวนไม่เอื้ออำนวยต่อการเจริญเติบโตของครั่ง

สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจการเกษตรทั้งปี 2568 คาดว่าจะขยายตัวอยู่ในช่วงร้อยละ 2.0 – 3.0 เมื่อเทียบกับปี 2567 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากปริมาณฝนที่มากขึ้นและตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำและแหล่งน้ำธรรมชาติมีเพียงพอสำหรับการเพาะปลูกตลอดปี ประกอบกับมีการดำเนินนโยบายของภาครัฐในการขับเคลื่อนการพัฒนาการเกษตร รวมทั้งการแก้ไขปัญหาด้านการเกษตรอย่างต่อเนื่อง อาทิ การบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ การส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตและยกระดับสินค้าเกษตรให้ได้คุณภาพและมาตรฐาน การเฝ้าระวังโรคระบาดในพืชและสัตว์ อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ได้แก่ ความแปรปรวนของสภาพอากาศ ราคาปัจจัยการผลิตที่ยังอยู่ในระดับสูง ขณะที่ราคาสินค้าเกษตรหลายชนิดมีทิศทางลดลง รวมถึงปัจจัยภายนอก อาทิความขัดแย้งและสงครามการค้าระหว่างประเทศ มาตรการกีดกันทางการค้าที่เข้มงวดมากขึ้น และนโยบายภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกา อาจทำให้เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าสำคัญชะลอตัวลง ส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ของไทย และส่งผลต่อเนื่องมายังปริมาณการผลิตและราคาสินค้าเกษตรภายในประเทศ

อัตราการเติบโตของภาคเกษตร

                                                                                                 หน่วย: ร้อยละ

สาขา

ไตรมาส 2/2568(เมษายน - มิถุนายน 2568)

ภาคเกษตร

5.5

พืช

7.9

ปศุสัตว์

-0.9

ประมง

1.3

บริการทางการเกษตร

2.8

ป่าไม้

0.6

 

ที่มา: กองนโยบายและแผนพัฒนาการเกษตรสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (ประมาณการ ณ เดือนมิถุนายน 2568)

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • บอร์ดกองทุนฟื้นฟูฯ อนุมัติทะเบียนหนี้ 7,616 ราย รวมมูลหนี้กว่า 6,220 ล้าน บอร์ดกองทุนฟื้นฟูฯ อนุมัติทะเบียนหนี้ 7,616 ราย รวมมูลหนี้กว่า 6,220 ล้าน
  • สศก. จัดสัมมนาระดมความเห็น ดึงแพลตฟอร์ม “AgriDataProv”  ขับเคลื่อนการเกษตรด้วย Big Data สู่จังหวัดยุคดิจิทัล สศก. จัดสัมมนาระดมความเห็น ดึงแพลตฟอร์ม “AgriDataProv” ขับเคลื่อนการเกษตรด้วย Big Data สู่จังหวัดยุคดิจิทัล
  • ปลุกพลัง เดินหน้าลำไยคุณภาพ เกษตรฯ จัดรวมพลคนปลูกลำไย ดันยุทธศาสตร์ใหม่ แก้ปัญหาลำไยแบบยั่งยืน เตรียมเสนอช่วยชาวสวน ไร่ละ 1,400 ไม่เกิน 10 ไร่ ปลุกพลัง เดินหน้าลำไยคุณภาพ เกษตรฯ จัดรวมพลคนปลูกลำไย ดันยุทธศาสตร์ใหม่ แก้ปัญหาลำไยแบบยั่งยืน เตรียมเสนอช่วยชาวสวน ไร่ละ 1,400 ไม่เกิน 10 ไร่
  • สศก. ถอดบทเรียนปัญหาพื้นที่เพาะปลูกทับซ้อน เตรียมใช้Machine Learning หนุนการจัดทำแผนที่เกษตรกรรม สศก. ถอดบทเรียนปัญหาพื้นที่เพาะปลูกทับซ้อน เตรียมใช้Machine Learning หนุนการจัดทำแผนที่เกษตรกรรม
  • สศก. มุ่งพัฒนาข้อมูลเอกภาพด้านการเกษตร สร้างความเชื่อมั่น ด้วยข้อมูลที่แม่นยำ เชื่อถือได้ สศก. มุ่งพัฒนาข้อมูลเอกภาพด้านการเกษตร สร้างความเชื่อมั่น ด้วยข้อมูลที่แม่นยำ เชื่อถือได้
  • รวมพลัง สืบสาน รักษา  ต่อยอดพระราชปณิธาน  สศก. ร่วมภาคีเครือข่าย เปิดเวทีสัมมนาผลสำเร็จโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ปี 2568 รวมพลัง สืบสาน รักษา ต่อยอดพระราชปณิธาน สศก. ร่วมภาคีเครือข่าย เปิดเวทีสัมมนาผลสำเร็จโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ปี 2568
  •  

Breaking News

(คลิป) สีสันการเมืองแบบเด้งเด้ง : เผาบุรีรัมย์ เพื่อทำลาย 'เนวิน' 'คารม' นักกม.ดัง ฟาดแรง ถึงใคร!!

‘ณัฐวุฒิ’เผยได้ข้อสรุป‘นิรโทษกรรม’ จ่อเพิ่มในบัญชีแนบท้าย เป็น‘25 ฐานความผิด’

(คลิป) จับตา! 'แพทองธาร' คลิปอัปยศพาซวย! ตลาดหุ้นเฮ! เปลี่ยนนายกฯ เขียวทั้งกระดาน

'หมอแล็บฯ'สะกิดสังคม! บอกคนติดเชื้อ HIV มียาต้านอยู่ได้จนแก่ ทำไมพาไปนอนรอความตายที่วัด

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved