สภาวิชาชีพบัญชีจัดงาน 'TFAC’s Accounting Professions Summit 2025'

สภาวิชาชีพบัญชีจัดงาน 'TFAC’s Accounting Professions Summit 2025'

วันจันทร์ ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2568, 11.39 น.
Tag :

สภาวิชาชีพบัญชี ในพระบรมราชูปถัมภ์ (สภาวิชาชีพบัญชี) นำโดยนายวินิจ ศิลามงคล นายกสภาวิชาชีพบัญชี พร้อมด้วยคณะกรรมการสภาวิชาชีพบัญชี วาระปี 2566–2569 จัดงาน TFAC’s Accounting Professions Summit 2025 ภายใต้หัวข้อหลัก “Shaping the Future of Accounting Professions” ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 22 โดยมีผู้เข้าร่วมงานจากหลากหลายภาคส่วน ทั้งผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี ผู้บริหารองค์กรของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน และผู้สนใจทั่วไปเข้าร่วมงานอย่างคับคั่งการจัดงานครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อเป็นเวทีอัปเดตข่าวสารความรู้ด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และการพัฒนาอย่างยั่งยืน ให้กับผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีและภาคธุรกิจได้ตระหนักและเตรียมพร้อมรับมือกับความผันผวนทางเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี และกระแสสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสภาวิชาชีพบัญชีคาดหวังว่าผู้เข้าร่วมงานจะได้รับมุมมองหรือแนวคิดที่เป็นประโยชน์ต่อการนำไปพัฒนาการทำงานรวมถึงขับเคลื่อนองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ภายในงานมีการบรรยายและเสวนาจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญจากองค์กรชั้นนำ ผ่าน 4 หัวข้อสำคัญ ได้แก่


-Future Business Trends: Embrace Change, Drive Success

-Accounting & Sustainability in Action: Sharing from Leading Companies & Roles of Accounting Professions

-Technology Transformation: The Era of AI and Cloud

-The Future of Accounting Professions: Adjustability to Changes

หนึ่งในไฮไลต์สำคัญ คือการได้รับเกียรติจาก คุณพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี
ว่าการกระทรวงการคลัง ขึ้นปาฐกถาพิเศษ ถ่ายทอดมุมมองเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก และแนวทาง
การปรับตัวของวิชาชีพบัญชี ซึ่งถือเป็นแรงบันดาลใจและ Keynote Speech สำคัญแก่ผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี

นายวินิจ ศิลามงคล นายกสภาวิชาชีพบัญชี กล่าวในพิธีเปิดว่า “งานสัมมนาในครั้งนี้ สภาวิชาชีพบัญชีมุ่งหวังให้เป็นงานสำคัญที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุก ๆ ปี เพื่อประโยชน์ต่อภาคธุรกิจโดยรวม หรือเป็น Flagship Event ที่จัดขึ้น โดยมีเป้าหมายเพื่ออัปเดตข้อมูลข่าวสาร ด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และเทรนด์ความรู้ใหม่ ๆ ที่จะช่วยจุดประกายให้ทุกภาคส่วนก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลง เพราะในยุคที่โลกกำลังเปลี่ยนผ่านอย่างรวดเร็ว ทั้งด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม และความคาดหวังจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีจึงจำเป็นต้องปรับตัวอย่างรวดเร็วและแข็งแกร่ง เพื่อที่จะสามารถเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรและเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างยั่งยืน”

ความคาดหวังในการจัดงานครั้งนี้ สภาวิชาชีพบัญชีต้องการให้ผู้ประกอบการ ผู้ประกอบวิชาชีพและภาคธุรกิจได้ตื่นตัว เข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นซึ่งจะมีผลกระทบต่อภาคธุรกิจ รวมถึงผู้ประกอบวิชาชีพได้นำความรู้และประสบการณ์ที่ได้ฟังจากงานสัมมนาในครั้งนี้ไปเป็นแนวทางในการทำงานหรือปรับตัวในการทำธุรกิจของเขาเพื่อให้ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน”

 ปัจจุบันโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ตั้งแต่ระดับโลกจนมาถึงระดับประเทศ ซึ่งจะมุ่งเน้นการใช้ดิจิทัล ไอที เทคโนโลยี และ AI มากขึ้น ดังนั้นการที่เราอยู่ในแวดวงบัญชีและการเงินจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องทำความเข้าใจและสามารถนำปรับใช้ในการทำงานหรือทำธุรกิจเพื่อสามารถช่วยผู้ประกอบการในการบริหารธุรกิจได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืน

นายวินิจกล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับการช่วยสนับสนุนส่งเสริมศักยภาพของผู้ประกอบการ ผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีให้ทันยุคใหม่ว่า “สภาวิชาชีพบัญชีช่วยผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง เรื่องการพัฒนาองค์ความรู้ในการสร้างมาตรฐานในการทำงานที่เกี่ยวกับบัญชีและการเงินให้ก้าวทันระดับสากล รวมถึงปรับองค์ความรู้เพื่อให้ภาคธุรกิจนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ สภาวิชาชีพบัญชีให้ความสำคัญและเน้นย้ำให้ผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีต้องยึดมั่นในจรรยาบรรณ ควบคู่กับการผลักดันให้เกิดองค์ความรู้และเทคโนโลยีใหม่ ๆ”

สำหรับ AI กับผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี นายวินิจกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “AI ส่งผลกระทบต่อวิชาชีพบัญชี ซึ่งเข้ามาช่วยทำให้เกิดเครื่องมือใหม่ ๆ ให้ผู้ประกอบวิชาชีพทำงานรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวอย่างเช่น การนำ AI มาใช้ในการจัดทำข้อมูลเพื่อนำมาใช้ประกอบการตัดสินใจข้อมูลการเงิน แต่ถึงอย่างไรก็ตามมนุษย์ก็ยังเป็นผู้ตัดสินใจในการนำข้อมูลที่ได้จาก AI มาประยุกต์ใช้เพื่อประโยชน์ต่อธุรกิจสูงสุด ดังนั้น เรายังต้องพัฒนาความรู้ของตัวเองอยู่ตลอดเวลา”

ท้ายสุดนี้ นายกสภาวิชาชีพบัญชีกล่าวถึงความสำคัญในเรื่องการทำบัญชีว่า “การดำเนินธุรกิจโดยไม่มีข้อมูลให้เห็นว่าท่านกำลังมีผลประกอบการเป็นอย่างไร มีกระแสเงินสดและกำไรขาดทุนมากน้อยแค่ไหน เสมือนการดำเนินธุรกิจที่ตาบอด ซึ่งข้อมูลทางการเงินจะเป็นกระจกสะท้อนทำให้เห็นสิ่งเหล่านั้นได้ โดยคนที่ทำเรื่องนี้คือผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีที่จะช่วยจัดทำข้อมูลทางการเงินเพื่อเป็นเครื่องมือให้กับผู้ประกอบการหรือผู้ประกอบธุรกิจนำไปใช้บริหารจัดการงานได้ดีและมีประสิทธิภาพ ซึ่งหากไม่มี จะส่งผลให้ทำงานยากและเสี่ยงต่อความท้าทายต่าง ๆ ”

การจัดงานประจำปี 2568 ภายใต้หัวข้อหลัก “Shaping the Future of Accounting Professions” ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของสภาวิชาชีพบัญชี ในการสานต่อพันธกิจและสอดรับกับวิสัยทัศน์ขององค์กร ที่เสริมสร้างและพัฒนาผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีให้เป็นมืออาชีพ ร่วมสมัย เป็นสากล และมีจรรยาบรรณ อันจะนำไปสู่การสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้แก่องค์กร วิชาชีพบัญชี และเศรษฐกิจของไทย

 

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top