เมื่อเร็วๆนี้ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ลงพื้นที่ประชุมเปิดศูนย์อำนวยการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย ลุ่มน้ำโขงตะวันออกเฉียงเหนือ ครั้งที่ 1/2568 พร้อมลงพื้นที่ตรวจราชการติดตามการเตรียมความพร้อมตามมาตรการรับมือฤดูฝนปี 2568 ณ จังหวัดหนองคาย โดยมี นายเดช เล็กวิชัย รองอธิบดีกรมชลประทาน นายสิงหา ผจงกิจการ รองผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 5 นายสุนทร คำศรีเมือง ผู้อำนวยการสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 5 นายชัยรัตน์ จังวัฒนกุล ผู้อำนวยการส่วนแผนงาน นายชาคริตฬ์ ไม้พันธุ์ ผู้อำนวยการส่วนวิศวกรรม นายชัยณรงค์ สิงห์ยะบุศย์ ผู้อำนวยการส่วนบริหารจัดการน้ำและบำรุงรักษา นายนครศรี กรุณา ผู้อำนวยการส่วนเครื่องจักรกล นายชาญวิชญ์ แฮนเกตุ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานอุดรธานี นายเฉลิมชัย ม่วงไหมแพร ผู้อำนวยการโครงการชลประทานหนองคาย นายสรายุทธ ม่วงทอง ผู้อำนวยการโครงการชลประทานบึงกาฬ นายเจษฎา ตงศิริ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาห้วยโมง หัวหน้าฝ่ายฯ และเจ้าหน้าที่ ร่วมติดตามการลงพื้นที่ในครั้งนี้ โดยมีการลงพื้นที่ 3 จุด ดังนี้

จุดที่ 1 พระธาตุหล้าหนอง อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย

จุดที่ 2 ชุมชนจอมมณี อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย

และจุดที่ 3 ประปาเทศบาลเมืองท่าบ่อ อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย

สำหรับการลงพื้นที่ในครั้งนี้ เป็นการลงพื้นที่เพื่อติดตามรับฟังรายงานด้านสภาพอากาศ สถานการณ์น้ำ และการคาดการณ์ รวมถึงการพิจารณาการเตรียมความพร้อมรับมือพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยในพื้นที่ลุ่มน้ำ ได้แก่ การวางเรียงกระสอบทราย การพร่องระบายน้ำ ในพื้นที่เสี่ยง การเตรียมความพร้อมรับมืออุทกภัย ของจังหวัดสกลนคร มุกดาหาร นครพนม บึงกาฬ หนองคาย และอุดรธานี 

ทั้งนี้ ในส่วนของกรมชลประทาน ได้มีการติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำในช่วงฤดูฝนอย่างใกล้ชิด เพื่อนำข้อมูลที่เกี่ยวข้องมาบูรณาการ วิเคราะห์ วางแผนการบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ พร้อมพิจารณาปรับแผนการระบายน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม โดยไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายเขื่อน เน้นย้ำให้โครงการชลประทาน ตรวจสอบอาคารชลศาสตร์ และกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำให้ดียิ่งขึ้น สามารถบรรเทาความเดือนร้อนให้ประชาชนได้มากที่สุด พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ และเตรียมเครื่องจักรเครื่องมือ อาทิ เครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ รถบรรทุก และเครื่องจักรอื่น ๆ ไว้ประจำจุดเสี่ยง เพื่อให้สามารถเข้าช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที นอกจากนี้ยังปฏิบัติตาม 9 มาตรการรับมือฤดูฝนปี 68 ที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบอย่างเคร่งครัด เพื่อรองรับปริมาณฝนที่จะเพิ่มขึ้นในเดือนกรกฎาคมถึงตุลาคม อีกด้วย