DKSH โชว์ศักยภาพศูนย์กระจายสินค้าอุปโภคบริโภค มุ่งขับเคลื่อนซัพพลายเชนด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี

DKSH โชว์ศักยภาพศูนย์กระจายสินค้าอุปโภคบริโภค มุ่งขับเคลื่อนซัพพลายเชนด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี

วันพุธ ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2568, 21.09 น.

พลิกโฉมซัพพลายเชนสินค้าอุปโภคบริโภค (Consumer Goods) ของประเทศไทย ด้วยนวัตกรรมและโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัยของศูนย์กระจายสินค้าบางนา กม.20 รองรับสินค้ากว่า 5,000 รายการ กำหนดมาตรฐานใหม่ด้านความเป็นเลิศในการดำเนินงาน ผลักดันแบรนด์ให้เติบโต พร้อมสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อผู้บริโภค สิ่งแวดล้อม และชุมชนทั่วประเทศ

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย 17 กันยายน 2568 หน่วยธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค บริษัท DKSH (ประเทศไทย) จำกัด คู่ค้าชั้นนำสำหรับบริษัทอุปโภคบริโภคในภูมิภาคเอเชีย เดินหน้าตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดกับการเปิดบ้านโชว์ศักยภาพของ ‘ศูนย์กระจายสินค้าอุปโภคบริโภค’ หรือ ‘CGDC’ ตั้งอยู่ ณ ถนนบางนา-ตราด กม.20 เพื่อแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนธุรกิจด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืน โดยศูนย์แห่งนี้ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการยกระดับซัพพลายเชนสินค้าอุปโภคบริโภคให้มีประสิทธิภาพและมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ตอกย้ำถึงบทบาทของ DKSH ในฐานะพันธมิตรที่น่าเชื่อถือสำหรับแบรนด์ชั้นนำในเอเชีย ซึ่งอยู่เคียงข้างชาวไทยมากว่า 119 ปี ด้วยการนำเทคโนโลยีชั้นนำมาผสานกับประสบการณ์ เพื่อส่งมอบสินค้าคุณภาพไปสู่พื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย


ผสานเทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อการดำเนินงานที่แม่นยำและรวดเร็ว

ภายในศูนย์ CGDC มีการนำเทคโนโลยีขั้นสูงมาปรับใช้เพื่อยกระดับความเป็นเลิศในการดำเนินงานและเพิ่มความโปร่งใสในระบบซัพพลายเชน อาทิ แดชบอร์ด KPI แบบเรียลไทม์, เทคโนโลยีการระบุชิ้นสินค้าด้วยคลื่นความถี่วิทยุ (RFID) รวมถึงการตรวจนับสินค้าด้วยโดรน ซึ่งโซลูชันเหล่านี้ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการวิเคราะห์ ติดตาม และบริหารจัดการสต็อกสินค้าได้อย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ DKSH ยังพร้อมมอบบริการเสริมมูลค่า (Value-Added Services) ที่ครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้า เช่น บริการบรรจุผลิตภัณฑ์ใหม่ (Custom Packing Solutions), บริการติดฉลากสินค้า (Labeling Services) และบริการควบคุมคุณภาพสินค้าตามช่องทางจัดจำหน่าย (Channel-Specific Quality Control) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว พร้อมเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่คู่ค้าในการบริหารจัดการสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัยต่อบุคลากร และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยการดำเนินงานทุกขั้นตอน อยู่ภายใต้มาตรฐานสูงสุดระดับสากล ดังนี้

ISO 9001:2015 ด้านระบบจัดการคุณภาพโลจิสติกส์

ISO 14001:2015 ด้านระบบจัดการสิ่งแวดล้อม

ISO 45001:2018 ด้านระบบจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน

คุณนรินทร์ รัชนีกรไกรลาศ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายซัพพลายเชน หน่วยธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค บริษัท DKSH (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “CGDC ถือเป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์ด้านโครงสร้างพื้นฐานซัพพลายเชนของ DKSH ประเทศไทย ผสานระบบปฏิบัติการที่ทันสมัยเข้ากับศักยภาพการกระจายสินค้าที่แข็งแกร่ง เราช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ ขยายขีดความสามารถ และตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคให้กับพันธมิตร FMCG ของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยอาศัยการใช้เทคโนโลยีควบคู่กับประสบการณ์ เพื่อผลักดันการเติบโตของแบรนด์ทั่วประเทศ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ DKSH ที่อยู่เคียงข้างลูกค้าชาวไทยมากว่า 119 ปี”

จากความยั่งยืน สู่การเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพและรับผิดชอบ

ความยั่งยืนเป็นหัวใจสำคัญที่สอดแทรกอยู่ในทุกการออกแบบและการดำเนินงานของ CGDC ตั้งแต่การใช้ไฟ LED แบบประหยัดพลังงาน, ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์, คัดแยกขยะ, หมุนเวียนน้ำกลับมาใช้ใหม่ ตลอดจนแนวทางการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตามความตั้งใจและพันธกิจของ DKSH ในการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน และพิสูจน์ให้เห็นว่าการดูแลสิ่งแวดล้อมและการเพิ่มประสิทธิภาพซัพพลายเชนสามารถพัฒนาควบคู่ไปพร้อมกันได้ โดยการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ที่ CGDC ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่า 325 ตันต่อปี ซึ่งเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ถึง 14,700 ต้น ความสำเร็จนี้เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ DKSH ได้รับการยกย่องให้เป็น Climate Action Leader 2025 ตอกย้ำความเป็นผู้นำในการสร้างซัพพลายเชนที่ยั่งยืน

นอกจากนี้ CGDC ยังคว้ารางวัลระดับประเทศด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อมหลายรายการ รวมถึงรางวัลด้านความปลอดภัยสูงสุดต่อเนื่อง 7 ปีซ้อน สะท้อนถึงความเชี่ยวชาญของ DKSH ในการให้ความสำคัญกับบุคลากรและสิ่งแวดล้อม พร้อมมุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี พ.ศ. 2573

คุณนีล แมคแคน รองประธานฝ่ายบริหารซัพพลายเชน ประเทศไทยและลาว บริษัท DKSH (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “นวัตกรรมและความยั่งยืนเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตขององค์กรในระยะยาว การผสานเอาเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่าง AI เข้ากับแนวทางปฏิบัติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จะช่วยให้พันธมิตรของเราสามารถเข้าถึงตลาดได้รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และดำเนินธุรกิจได้อย่างมีความรับผิดชอบมากขึ้น ศูนย์กระจายสินค้าแห่งนี้เป็นเครื่องยืนยันถึงความมุ่งมั่นของ DKSH ในการลงทุนด้านนวัตกรรมที่ไม่เพียงตอบโจทย์ความต้องการในปัจจุบัน แต่ยังวางรากฐานเพื่อการขยายตลาดอย่างยั่งยืนในอนาคต”

ศูนย์ CGDC เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 และขยายศักยภาพอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีพื้นที่ 65,000 ตร.ม. หรือเทียบเท่า 6 สนามฟุตบอล สามารถรองรับสินค้าได้มากกว่า 5,000 รายการ (SKUs) และมีพื้นที่จัดเก็บ 66,000 พาเลท พร้อมรถขนส่งกว่า 370 คัน เพื่อให้บริการโซลูชันซัพพลายเชนแบบครบวงจร ทั้งสินค้าทั่วไปและสินค้าควบคุมอุณหภูมิ ครอบคลุมจุดกระจายสินค้ากว่า 100 แห่งทั่วประเทศ โดย DKSH มุ่งมั่นลงทุนอย่างต่อเนื่องในโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยี เพื่อสร้างคุณค่าที่จับต้องได้ให้แก่พันธมิตร พนักงาน และชุมชน พร้อมเสริมศักยภาพการแข่งขันของประเทศไทยบนเวทีซัพพลายเชนโลกไปพร้อมกัน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top