คณะศิลปกรรมศาสตร์ DPU ปลุกพลังสร้างสรรค์ดูแลโลก-ใจ จัด 3 เวิร์กชอป ในงาน SX2025 สร้างจิตสำนึกสิ่งแวดล้อมเพื่อสังคมยั่งยืน

คณะศิลปกรรมศาสตร์ DPU ปลุกพลังสร้างสรรค์ดูแลโลก-ใจ จัด 3 เวิร์กชอป ในงาน SX2025 สร้างจิตสำนึกสิ่งแวดล้อมเพื่อสังคมยั่งยืน

วันพุธ ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 15.41 น.
Tag :

คณะศิลปกรรมศาสตร์ DPU ปลุกพลังสร้างสรรค์ดูแลโลก-ใจ จัด 3 เวิร์กชอป ในงาน SX2025 สร้างจิตสำนึกสิ่งแวดล้อมเพื่อสังคมยั่งยืน

คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ขับเคลื่อนแนวคิด “ศิลปะเพื่อความยั่งยืนและสุขภาวะจิตใจ” จัด 3 กิจกรรมเวิร์กชอปเชิงสร้างสรรค์ภายใต้งาน SX Sustainability Expo 2025 ครอบคลุมทั้งพื้นที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) และ สามย่านมิตรทาวน์ ด้วยการจัดกิจกรรมเวิร์กชอป “ศิลปะฮีลใจ–รักษ์โลก (Art for Healing & Sustainability)” เพื่อมุ่งหวังให้ประชาชนทุกช่วงวัยได้ “ผ่อนคลาย–จดจ่อ–เรียนรู้การดูแลโลก” ผ่านการลงมือทำงานศิลป์จากวัสดุเหลือใช้ พร้อมเรียนรู้แนวคิดการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมผ่านการลงมือทำ


กิจกรรมทั้งหมดออกแบบภายใต้แนวคิด “ทำได้จริงทุกวัย และได้ผลงานกลับบ้าน” เพื่อให้ศิลปะกลายเป็นพื้นที่แห่งการเยียวยาใจและสร้างความสุขอย่างยั่งยืนแก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรม โดยใช้กระบวนการ “ทำด้วยมือ–คิดด้วยใจ” เป็นหัวใจสำคัญในการเรียนรู้ นอกจากช่วยให้ผู้ที่เข้าร่วมเกิดสมาธิและความผ่อนคลายแล้ว ยังเป็นการปลูกฝังจิตสำนึกเรื่องการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า เห็นคุณค่าของสิ่งเล็ก ๆ รอบตัวที่สามารถต่อยอดเป็นงานสร้างสรรค์ได้ ซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจของ DPU ที่มุ่งพัฒนาศิลปะให้เป็นพลังขับเคลื่อนสังคมแห่งความยั่งยืนและมีความสุขร่วมกัน

ศิลปะจากดินเยื่อกระดาษ จุดประกายการดูแลโลกและใจ

ดร.ปรวรรณ ดวงรัตน์ อาจารย์ประจำหลักสูตรสาขาวิชาการออกแบบเชิงสร้างสรรค์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เปิดเผยว่า โจทย์จากงาน  SX Sustainability Expo 2025 ในโซน Better Me เน้นกิจกรรมที่ส่งเสริมสุขภาวะทางใจ (Mental Health) ควบคู่แนวคิดความยั่งยืน ผ่านกระบวนการเรียนรู้ด้วยศิลปะที่ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมได้ จึงเป็นแรงบันดาลใจให้ทีมอาจารย์และนักศึกษากราฟิกดีไซน์ออกแบบเวิร์กชอปเชิงสร้างสรรค์ที่ทุกคนสามารถ “ร่วมทำ–ร่วมคิด–และได้ของกลับบ้าน” ภายใต้แนวคิด “โลกอยู่ในมือเรา” เพื่อให้ผู้เข้าร่วมทุกวัยตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลโลกและใจไปพร้อมกัน จึงเลือกใช้วัสดุจากดินเยื่อกระดาษรีไซเคิลเป็นหลัก เพื่อให้ผู้ร่วมงานได้เห็นว่าขยะรอบตัวสามารถเปลี่ยนเป็นสิ่งงดงามได้ เมื่อมองด้วยสายตาของคนสร้างสรรค์

กิจกรรม “Earth in Your Hand” แบ่งออกเป็น 3 สถานีหลัก ได้แก่ 1. ปั้นและระบายสีลูกโลกจากดินเยื่อกระดาษ ผู้เข้าร่วมจะได้สร้าง “โลกของตัวเอง” โดยลงมือปั้นลูกโลกขนาดพอดีมือ แล้วระบายสีตามจินตนาการ ก่อนเขียนข้อความสั้น ๆ ว่าจะ “ดูแลโลก” ในแบบของตนอย่างไร จากนั้นลูกโลกแต่ละใบจะถูกนำไปแขวนรวมกันเป็นผลงานติดตั้งขนาดใหญ่ที่สื่อถึงพลังร่วมของทุกคน 2. เพนท์กระถางต้นไม้และปลูกกล้าไม้เล็ก เพื่อสื่อถึงการต่อยอดชีวิตและการดูแลโลกในระยะยาว ผู้เข้าร่วมได้เลือกกระถางจากดินเยื่อกระดาษที่ทีมงานเตรียมไว้ พร้อมตกแต่งลวดลายตามใจชอบ แล้วปลูกต้นไม้เล็ก ๆ นำกลับไปดูแลต่อที่บ้าน และ 3. Connecting Earth to the Wall การติดตั้งผลงานศิลปะจากลูกโลกรีไซเคิลที่ผู้เข้าร่วมช่วยกันสร้างขึ้นบนผนัง เพื่อสื่อถึงแนวคิด “โลกสวยงามได้เมื่อเราร่วมมือกัน”

“วันนั้นพื้นที่โซน Better Me คึกคักมาก  ตั้งแต่เช้าจนเย็นมีผู้ร่วมกิจกรรมต่อเนื่อง ทั้งเด็กประถม ผู้ใหญ่ ชาวต่างชาติ และผู้สูงอายุ เด็ก ๆ สนุกกับการเพนท์สี ส่วนผู้ใหญ่หลายคนบอกว่ากิจกรรมช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย เหมือนได้เยียวยาใจและทบทวนตัวเองไปพร้อม ๆ กับการดูแลโลก ขณะเดียวกันยังเป็นพื้นที่เรียนรู้ของนักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะศิลปกรรมศาสตร์  DPU และศิษย์เก่าที่มาร่วมเป็นอาสาสมัครช่วยดูแลแต่ละฐาน ตั้งแต่เตรียมวัสดุ จัดโต๊ะ รับผู้ร่วมกิจกรรม ไปจนถึงช่วยสอนเด็ก ๆ ระบายสีและปลูกต้นไม้ ซึ่งสิ่งที่น้อง ๆ ได้กลับไปไม่ใช่แค่ประสบการณ์ศิลปะ แต่เป็นทักษะชีวิต การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า การทำงานเป็นทีม การสื่อสารกับคนหลากวัย และการจัดการอารมณ์ในสถานการณ์จริง” ดร. ปรวรรณ กล่าวทิ้งท้าย

 

ศิลปะการฮีลใจจากเศษผ้า สร้างคุณค่าความงามอย่างยั่งยืน

อีกหนึ่งกิจกรรมที่ได้รับความสนใจคือ “ศิลปะการฮีลใจ” (Patchwork Healing Art) นำโดย อาจารย์ณมณ ขันธชวะนะ อาจารย์ประจำหลักสูตรสาขาวิชาการออกแบบเชิงสร้างสรรค์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ พร้อมด้วยนักศึกษาชั้นปีที่ 4 ซึ่งจัดขึ้น ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมุ่งใช้ศิลปะเป็นเครื่องมือเยียวยาใจและส่งเสริมแนวคิดการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า

อาจารย์ณมณ ขันธชวะนะ อาจารย์ประจำหลักสูตรสาขาวิชาการออกแบบเชิงสร้างสรรค์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ กล่าวว่า กิจกรรมภายใต้แนวคิด “ปะ–ติด–ปัก–ต่อ” เป็นการเปิดพื้นที่ให้ผู้ร่วมงานได้สัมผัสประสบการณ์งานคราฟต์จากเศษผ้าที่มักถูกมองว่าไร้ค่า ผ่านขั้นตอนการเลือกแบบ (แพตเทิร์น) ปะติดลงบนผืนผ้าที่ขึงไว้บนสะดึง และปักต่อด้วยด้ายสี แต่งเติมจินตนาการ สร้างสรรค์ผลงานศิลปะชิ้นเล็กๆ ด้วยฝีมือตนเองกลับไปเป็นที่ระลึก โดยมีนักศึกษาคอยแนะนำอย่างใกล้ชิด

กิจกรรมนี้ไม่เพียงสร้างสรรค์ผลงานที่สะท้อนความงามจากของเหลือใช้ แต่ยังช่วยให้ผู้เข้าร่วมได้ฝึกสมาธิ (Mindfulness) ผ่านการเย็บทีละฝีเข็ม ซึ่งก่อให้เกิดความผ่อนคลายและความภูมิใจในสิ่งที่สร้างขึ้นด้วยตนเอง แม้ไม่มีพื้นฐานด้านศิลปะก็สามารถเข้าร่วมได้ เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนได้ค้นพบตัวตนผ่านการลงมือทำอย่างแท้จริง

 

ดอกไม้จากผ้าทอมือของไทยในโครงการ Enactus สื่อพลัง Soft Power

อีกหนึ่งกิจกรรม Spreading Soft Power from Thai Handwoven Fabrics to the Workshop for “ Youth Leaders for Global Change from 32 Countries” at SX2025 คือการร่วมเวิร์กชอปกับกลุ่มเยาวชนผู้นำจาก 32 ประเทศทั่วโลก ภายใต้เครือข่าย Enactus ซึ่งเป็นโครงการระดับโลกที่สนับสนุนให้นิสิตนักศึกษาจากหลายประเทศเรียนรู้การใช้ศิลปะและนวัตกรรมสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน ในกิจกรรมนี้ ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้การประดิษฐ์ “ดอกไม้จากผ้าทอมือของไทย” โดยมีอาจารย์ณมณ ขันธชวะนะ อาจารย์ประจำหลักสูตรสาขาวิชาการออกแบบเชิงสร้างสรรค์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ และนักศึกษาศิลปกรรม ทำหน้าที่วิทยากรร่วมถ่ายทอดขั้นตอนตั้งแต่การเตรียมชิ้นงาน ประกอบกลีบดอกไม้ ไปจนถึงการขึ้นรูปดอกไม้จริง

“เราคัดนักศึกษาที่มีฝีมือและสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีมาทำหน้าที่แนะนำเป็น Facilitator  ถือว่าเป็นการพัฒนาอีกขั้นหนึ่งของการเรียนรู้ เพราะเมื่อนักศึกษาต้องสอนเพื่อนต่างชาติ จะทำให้เขาเข้าใจทั้งในด้านคุณค่าของงานฝีมือ และได้ฝึกทักษะการสื่อสารข้ามวัฒนธรรมไปพร้อมกัน ซึ่งบรรยากาศในงานเต็มไปด้วยรอยยิ้มและมิตรภาพ เยาวชนจากหลากหลายประเทศต่างประทับใจที่ได้เรียนรู้ผ่านการลงมือทำจริง ขณะเดียวกันก็ได้เข้าใจแนวคิดเรื่อง “ความยั่งยืน” จากการใช้วัสดุเหลือใช้ ซึ่งเป็นการสื่อสารด้วย “ภาษาศิลปะ” ที่เข้าใจได้โดยไม่ต้องใช้คำพูด” อาจารย์ณมณ กล่าว

กิจกรรมเวิร์กชอปทั้ง 3 กิจกรรมของคณะศิลปกรรมศาสตร์ DPU ที่จัดขึ้นในปีนี้ ไม่เพียงปลูกฝังแนวคิดอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแก่ผู้เข้าร่วมเท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่พัฒนาทักษะชีวิต (Life Skills) ของนักศึกษาโดยตรง นอกจากความคิดสร้างสรรค์ นักศึกษายังได้ฝึกการจัดการงานอีเวนต์จริง การทำงานเป็นทีม การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และการดูแลผู้ร่วมกิจกรรมหลากวัย ที่สำคัญคือได้ฝึกความอดทน ‘ทำเป็น’ แล้วก้าวสู่ ‘สอนเป็น’ จะเข้าใจทั้งคุณค่าของศิลปะและจิตวิญญาณของความเป็นครู”

 

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top