DPU เปิดตัว Potentialigence Center ศูนย์พัฒนาศักยภาพและอาชีพ ในงาน Open House 2025 ชวนเด็กเดินทางสู่ “ดินแดนแห่งความฝัน” รู้จักตัวตนก่อนเลือกอนาคต พลิกบทบาทมหาวิทยาลัยสู่ศูนย์พัฒนาศักยภาพตลอดชีวิต

ในยุคที่โลกการทำงานเปลี่ยนเร็วเกินกว่าที่การศึกษาแบบเดิมจะไล่ทัน มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) เลือกเดินเกมต่างจากใคร ด้วยการสร้าง “พื้นที่ค้นหาตัวเอง” ให้เกิดขึ้นจริงเป็นรูปธรรมผ่านนิทรรศการภายใต้ Potentialigence Center ศูนย์พัฒนาศักยภาพและอาชีพ จุดเริ่มต้นของการออกแบบกระบวนการเรียนรู้รูปแบบใหม่ที่มองศักยภาพมนุษย์ออกไปไกลกว่า ‘เกรดเฉลี่ย’ และ ‘ทักษะวิชาการ’

ผู้อำนวยการ Corporate Strategy & Planning และรักษาการผู้อำนวยการฝ่ายแนะแนวการศึกษา มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ “นายภัฏ เตชะเทวัญ” เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ต้องการให้ศูนย์ฯ แห่งนี้เป็นมากกว่าพื้นที่วัดผลทักษะ แต่เป็น “ระบบนิเวศการเรียนรู้เพื่อค้นหาตัวเอง” ที่ทุกคน ทั้งเด็กและผู้ใหญ่สามารถเข้ามาสำรวจความคิด ความฝัน มองหาเส้นทางอนาคต และพัฒนาศักยภาพตัวเอง

นิทรรศการที่ไม่ใช่การทดสอบ แต่คือ “การเดินทางภายในตัวเอง”

เบื้องหลังการออกแบบนิทรรศการครั้งนี้ ไม่ได้เกิดจากมุมมองด้านดีไซน์เพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากความร่วมมือของ นักจิตวิทยา นักพฤติกรรมศาสตร์ ทีมครีเอทีฟ และนักออกแบบอีเวนต์ ที่มาร่วมกันสร้าง “โลกจำลอง” ให้ผู้เข้าชมได้เดินเข้าไปสำรวจตัวตนของตัวเองอย่างเป็นธรรมชาติ

“เราไม่อยากให้เด็กเข้าไปเหมือนทำแบบทดสอบที่ผลลัพธ์ถูกฟันธงว่าเป็นคนแบบไหน เพราะเด็กยุคนี้ไม่เชื่อผลลักษณะนั้นแล้ว เด็กรู้สึกเหมือนดูดวงมากกว่า” นายภัฏ อธิบาย

นายภัฏ ยังระบุอีกว่า นิทรรศการนี้เลือกใช้แนวคิด Co-Creation หรือ “การร่วมออกแบบคำตอบกับตัวเด็กเอง” ผ่านสื่อและกิจกรรมที่กระตุ้นให้ผู้เข้าชมได้คิด ตั้งคำถาม และสังเกตตัวเองทีละห้อง โดยผู้เข้าชมจะเดินผ่าน “ดินแดนต่าง ๆ” ที่ถูกจำลองขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เพราะแต่ละห้องสะท้อนคำถามสำคัญของชีวิต เช่น วันนี้เรากำลังแบกอะไรอยู่มากเกินไปหรือไม่ , ความฝันที่แท้จริงยังอยู่ตรงไหน , เราเห็นคุณค่าอะไรในตัวเอง , อะไรที่ทำให้เราตัดสินใจไม่ได้ , เราเข้าใจผู้อื่นแค่ไหน และสุดท้ายเรามีศักยภาพแบบใดที่ยังไม่เคยรู้ตัว โดยห้องสุดท้ายคือจุดที่ทุกองค์ประกอบถูกเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน ให้ผู้เข้าชม “ตกผลึก” คำตอบด้วยตัวเองอย่างเป็นธรรมชาติ

ศักยภาพไม่ใช่คำใหญ่ และไม่ใช่เรื่องของ “เด็กเก่ง” เท่านั้น

นายภัฏ ชี้ว่า หนึ่งในสารที่นิทรรศการต้องการส่งให้ดังที่สุด คือ “ศักยภาพ” ไม่ได้หมายถึงความเก่งด้านใดด้านหนึ่ง แต่คือ “ความเป็นมนุษย์” ที่ทุกคนมีได้ อยากให้ทุกคนเชื่อว่า ต่อให้เคยนั่งหลังห้อง หรือเคยถูกตัดสินว่าเป็นเด็กแบบไหน ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่มีศักยภาพ ศักยภาพคือสิ่งที่พัฒนาได้ และไม่ได้จำกัดอยู่แค่เรื่องวิชาการ หรือการทำงานเก่งคอมพิวเตอร์หรือศิลปะ

ไม่ใช่แค่เพื่อเด็ก แต่เพื่อมนุษย์ทุกช่วงวัย : DPU ตั้งใจสร้าง “ไลฟ์ลองเลิร์นนิ่งสเปซ” จริง ๆ

แม้จะเปิดให้เด็กมัธยมและนักศึกษาก้าวเข้าไปค้นหาศักยภาพของตัวเอง แต่นิทรรศการนี้ เปิดให้ผู้ใหญ่ทุกวัยเข้าได้เหมือนกัน เพราะผู้ใหญ่ที่เข้ามาเดิน ไม่ได้คิดเรื่องคณะเรียนแล้ว แต่เขาจะได้คิดว่า ทุกวันนี้งานที่ทำใช้ศักยภาพอะไร และตัวเขากำลังแบกอะไรอยู่ และควรจะวางอะไรลงบ้าง นี่คือความหมายของ “Lifelong Learning” ในแบบที่ DPU ต้องการผลักดัน ไม่ใช่แค่การเรียนปริญญา แต่คือการกลับมารู้จักตัวเองใหม่อีกครั้ง

จากนิทรรศการสู่การเรียนรู้จริง: จุดเริ่มของการออกแบบการศึกษาแบบใหม่ใน DPU

นิทรรศการนี้ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นงานครั้งเดียว แต่ตั้งใจให้เป็นส่วนหนึ่งของศูนย์พัฒนาศักยภาพและอาชีพถาวรใน DPU ที่อยู่ระหว่างการพัฒนา บทบาทของศูนย์นี้ในอนาคต จะเป็นมาตรฐานกลางในการค้นหาศักยภาพ, สนับสนุนให้นักศึกษาเข้าใจตัวเองก่อนเลือกเส้นทาง , เป็นพื้นที่ปลดล็อกความคิดและความเครียด , เชื่อมต่อไปสู่หลักสูตรและกิจกรรมพัฒนาทักษะของมหาวิทยาลัย และทำให้การศึกษาไม่หยุดอยู่แค่ “สอนทักษะ” แต่สอน “การเติบโต”

ทำไมมหาวิทยาลัยต้องทำเรื่อง “ศักยภาพมนุษย์”? คำตอบคือโลกการทำงานยุคใหม่

ผู้อำนวยการ Corporate Strategy & Planning มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เปิดเผยว่า จากข้อมูลของ World Economic Forum หลายบริษัททั่วโลกเริ่มให้ความสำคัญกับ Psychometric Profiling, ทักษะการปรับตัว และศักยภาพในการเติบโต มากกว่าทักษะเฉพาะทางเพียงอย่างเดียว นี่คือจุดที่การศึกษาไทยยังขาด เพราะบริษัทต้องการคนที่มีทักษะทำงานได้จริง และมีศักยภาพที่จะเติบโตต่อได้ แต่ระบบการศึกษายังไม่เคยให้ ตนจึงอยากให้เด็กของ DPU ได้ทั้งสองอย่าง นิทรรศการนี้จึงเปรียบเสมือน “สัญลักษณ์ใหม่ของมหาวิทยาลัย” ที่ต้องการบอกสังคมว่า DPU มุ่งสร้างคนที่ไม่ใช่แค่พร้อมทำงาน แต่พร้อมเติบโตในทุกช่วงชีวิต

เปิดตัวเงียบ ๆ ในงาน Open House 2025 แต่สร้างแรงสะเทือนทางความคิดอย่างชัดเจน

แม้จะยังไม่ถือเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่ DPU เลือกนำโปรเจกต์นี้เข้าสู่งาน DPU Open House 2025 เพื่อให้เด็กได้สัมผัสประสบการณ์ก่อนใคร โดยขณะนี้เสียงตอบรับดีเกินคาด เพราะ “นี่คือครั้งแรกที่ได้หยุดและคุยกับตัวเองจริง ๆ”

“เด็กยุคนี้มีเวลาคิดเรื่องตัวเองน้อยมาก เขาต้องสอบ ต้องแข่งขัน ต้องฟังเสียงคนอื่น เราอยากให้เขามีเวลาสักช่วงหนึ่งที่ได้คิดบนฐานของตัวเองจริง ๆ ไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นคาดหวัง” นายภัฏ กล่าวทิ้งท้าย

“เหมือนเดินเข้าไปในโลกของตัวเอง” การเดินทางที่เริ่มจากคำถามง่าย ๆ ว่า ‘ฉันเป็นคนแบบไหน?’

นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 6 สายศิลป์-จีน รร.โกศลภัทรวิทย์ “นางสาวณัฎฐ์วริน จริยาสดาพร” หนึ่งในผู้ที่เข้าไปชมนิทรรศการดังกล่าว เล่าว่า สิ่งที่ทำให้ตนตัดสินใจเดินเข้าไปในนิทรรศการนี้ เพราะรู้สึกว่า “เหมือนการเดินทางเพื่อค้นหาตัวเอง” และพอเข้าไปแล้วคือสิ่งมหัศจรรย์ เหมือนได้หลุดเข้าไปอยู่ในโลกอีกใบ มีพี่ ๆ ที่คอยช่วยแนะนำ มีซุ้มต่าง ๆ ให้ดูว่าเราชอบอะไร เราเป็นคนแบบไหน ตรงกับตัวละครไหน ทำให้รู้จักตัวเองมากขึ้น

หลังเข้าไปสำรวจแต่ละห้อง พบว่าตัวเองตรงกับ “FireFire” ตัวละครแห่งความกล้าท้าทาย ชอบผจญภัย และเป็นมิตรกับคนรอบข้าง ซึ่งตรงกับบุคลิกจริงของตนเองอย่างน่าประหลาดใจ เสมือนเราได้ยืนมองตัวเองในกระจกอีกแบบหนึ่ง ทำให้รู้สึกว่านี่แหละคือเรา อีกทั้งนิทรรศการยังนำไปสู่การทบทวนอนาคตของตนเองด้วยว่าตนอยากเป็นอะไร เพราะความใฝ่ฝันตนอยากเป็นล่าม แล้วพอรู้ตัวเองมากขึ้นก็รู้สึกว่า อยากทำความฝันให้เป็นจริงเร็วขึ้น เหมือนเจอต้นทาง

ขณะที่นางสาวไอยรินทร์ งามวิริยะธรรม นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 6 สายศิลป์-จีน รร.โกศลภัทรวิทย์ เปิดใจว่า ตนชอบช่วงที่ได้พบตัวละครจาก “โลกศักยภาพ” ที่ถูกสร้างขึ้นอย่างประณีตและเต็มไปด้วยความหมายเชิงจิตวิทยา เพราะคนที่เข้ามาชมนิทรรศการนี้จะได้หยิบการ์ดของตัวละครที่ตรงกับนิสัยตนเอง แล้วเอาไปสแกน ก็จะมีคำอธิบายออกมา ว่าเราเป็นคนแบบไหน ควรพัฒนาตรงไหน แล้วก็มีเวิร์กช็อปทำปีกนางฟ้าสวย ๆ โดยตนพบว่าตัวเองตรงกับ “Spring” ตัวละครแห่งพลังฟื้นตัวและการปรับตัว ซึ่งตรงกับบุคลิกของตัวเองที่เป็นคนปรับตัวเก่ง แล้วก็พยายามลุกขึ้นใหม่เสมอ แม้จะยังอยู่ในช่วงเลือกเส้นทางชีวิต แต่ประสบการณ์ในนิทรรศการทำให้เห็นทิศทางชัดขึ้น เพราะตนสนใจธุรกิจและการลงทุน ถึงแม้จะมีความเสี่ยง แต่อยากลองทำให้เต็มที่ก่อน แล้วค่อยตัดสินใจต่อไป

สอดคล้องกับความคิดเห็นของนางสาวอัญธิดา กุลโรจน์กิจ เพื่อนร่วมชั้นเรียน ที่เข้าร่วมชมนิทรรศการว่า  ตนเองสนใจด้านภาษาและอยากเป็นล่ามเช่นกัน ตนได้ทดลองเล่น ปรากฏว่าได้เป็นตัว ‘Sunny’ พลังงานแห่งความจริงใจ ตนเป็นคนใจดี ชอบช่วยเหลือคนอื่น ซึ่งตรงกับนิสัยของตัวเองมาก และสิ่งที่ประทับใจที่สุดคือ การได้คิดทบทวนตัวเองอย่างจริงจังเป็นครั้งแรก

“แบบฝึกคิดที่อยู่ในนิทรรศการ มันทำให้เราฉุกคิดว่า ถ้าเป็นเราจริง ๆ เราจะตัดสินใจยังไง ทำให้รู้ว่าเราต้องพัฒนาอะไรเพิ่มขึ้นค่ะ และสนใจอยากเรียนต่อที่ DPU เพราะมีคณะที่เกี่ยวกับด้านภาษาโดยตรง โดยอาจารย์ผู้สอนก็เป็นเจ้าของภาษาด้วย  ชอบที่DPUมาก มางานOpen House ปีนี้เป็นปีที่2แล้ว แล้วก็ประทับใจทุกครั้งที่มาเยือน” นางสาวอัญธิดา อธิบายทิ้งท้าย